ทำความรู้จัก 'BM-21 Grad' บีเอ็ม-21 แกรด อาวุธจากยุคสงครามเย็น เมื่อ 60 กว่าปีที่แล้ว เครื่องยิงจรวดหลายลำกล้อง
ในภาษารัสเซีย "แกรด" (Град) แปลว่า "ลูกเห็บ" —เป็นชื่อที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับระบบอาวุธที่ถูกออกแบบมาเพื่อสาดห่ากระสุนทำลายล้างใส่พื้นที่เป้าหมายในเวลาเพียงเสี้ยวนาที แม้จะถือกำเนิดขึ้นในยุคสงครามเย็น แต่ระบบเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้อง บีเอ็ม-21 "แกรด" ยังคงเป็นภาพที่คุ้นตาและเป็นเสียงคำรามที่น่าสะพรึงกลัวในสมรภูมิทั่วโลกจนถึงปัจจุบัน
บีเอ็ม-21 เข้าประจำการในกองทัพโซเวียตครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1963 โดยมีภารกิจที่ชัดเจน คือการเป็นคำตอบของสหภาพโซเวียตในการทำสงครามพื้นที่วงกว้าง มันถูกออกแบบมาเพื่อทดแทนระบบเก่าและมอบอำนาจการยิงที่สามารถกวาดล้างกำลังพล ยานเกราะเบา และที่ตั้งปืนใหญ่ของข้าศึกได้ในพริบตา
หัวใจของระบบนี้คือแท่นยิงจรวดขนาด 122 มม. จำนวน 40 ท่อยิง ที่ติดตั้งอยู่บนแคร่รถบรรทุกอูราล (Ural) อันแข็งแกร่งและทนทาน ทำให้มันมีความคล่องตัวสูง สามารถเคลื่อนที่เข้าสู่ที่ตั้งยิง ปลดปล่อยจรวดทั้ง 40 นัดภายในเวลาไม่ถึง 20 วินาที ครอบคลุมพื้นที่เป้าหมายในระยะไกลถึง 20 กิโลเมตร (หรือกว่า 45 กิโลเมตรในจรวดรุ่นใหม่) และถอนตัวออกจากพื้นที่ได้อย่างรวดเร็วก่อนที่ข้าศึกจะทันได้ยิงตอบโต้
ประวัติศาสตร์การใช้งานของ "แกรด" BM-21 Grad นั้นยาวนานและนองเลือด มันปรากฏตัวครั้งแรกในเวทีโลกระหว่างการปะทะชายแดนจีน-โซเวียตในปี 1969 และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ก็ได้กลายเป็นยุทโธปกรณ์ชิ้นสำคัญในสงครามและความขัดแย้งทั่วทุกมุมโลก ตั้งแต่สมรภูมิทะเลทรายในตะวันออกกลางไปจนถึงป่าทึบในแอฟริกาและเอเชีย รวมถึงภาพล่าสุดที่ออกมาในโซเชียลมีเดีย ที่ กัมพูชา ใช้ยิงมาฝั่งประเทศไทย
แต่คำถามสำคัญคือ เหตุใดอาวุธที่ดูเหมือนจะล้าสมัยในยุคของโดรนและขีปนาวุธนำวิถีความแม่นยำสูง จึงยังคงถูกใช้งานอย่างแพร่หลาย? คำตอบนั้นเรียบง่ายและน่ากลัวในเวลาเดียวกัน
หนึ่งคือความเรียบง่ายและราคาถูก บีเอ็ม-21 มีกลไกที่ไม่ซับซ้อน ทำให้ง่ายต่อการผลิต บำรุงรักษา และฝึกฝนทหารให้ใช้งาน จนอาจกล่าวได้ว่ามันคือ "AK-47 แห่งวงการปืนใหญ่จรวด" ความเรียบง่ายนี้เองที่ทำให้หลายประเทศสามารถลอกเลียนแบบและผลิตรุ่นของตนเองขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย
สองคือจำนวนมหาศาล ตลอดหลายทศวรรษ ของการผลิตและการส่งออก ทำให้บีเอ็ม-21 BM-21 Grad กลายเป็นอาวุธที่หาได้ง่าย ไม่ใช่แค่ในคลังแสงของกองทัพประเทศกำลังพัฒนา แต่ยังรวมถึงในตลาดมืด ทำให้มันตกไปอยู่ในมือของกลุ่มติดอาวุธต่างๆ ทั่วโลก
และสามคืออำนาจทางจิตวิทยา มีอาวุธไม่กี่ชนิดที่สามารถสร้างความหวาดหวั่นได้เทียบเท่าเสียงคำรามกึกก้องจากการยิงจรวด "แกรด" แบบต่อเนื่อง ห่าจรวดที่พุ่งเข้าใส่เป้าหมายไม่เพียงแต่สร้างความเสียหายทางกายภาพ แต่ยังเป็นการโจมตีขวัญและกำลังใจของฝ่ายตรงข้ามอย่างรุนแรง มันคือการประกาศแสนยานุภาพที่น่าเกรงขาม แม้เทคโนโลยีจะเก่าแก่ก็ตาม
บีเอ็ม-21 แกรด จึงไม่ใช่เป็นเพียงมรดกตกทอดจากยุคสงครามเย็น แต่เป็นอาวุธที่มีชีวิตซึ่งยังคงส่งอิทธิพลต่อผลลัพธ์ของความขัดแย้งในศตวรรษที่ 21 ตราบใดที่สงครามยังคงต้องการอำนาจการยิงที่เด็ดขาด รวดเร็ว และสร้างความตื่นตระหนก "ลูกเห็บ" จากยุคโซเวียตลูกนี้ก็จะยังคงพรั่งพรูลงสู่สมรภูมิต่อไปอย่างไม่มีวันจบสิ้น
ที่มา : odin.tradoc.army.mil weaponsystems BM-21 Grad
ข่าวที่เกี่ยวข้อง