SHORT CUT
'ความเป็นแม่' คือสิ่งที่ผู้หญิงทั่วโลกต้องเผชิญ ในฐานะผู้ที่เสียสละทั้งชีวิตเพื่อดูแลลูก แต่จะมีแม่ในประเทศไหนบ้างที่ได้รับการสนับสนุนให้ดูแลลูกอย่างเต็มที่
ใกล้จะถึงวันที่ 12 สิงหาคม หรือ "วันแม่" ของไทย ซึ่งถือเป็นวันที่เราทุกคนจะได้ใช้โอกาสนี้แสดงความขอบคุณต่อความรักและความเสียสละของแม่ แต่สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือการที่ 'แม่' ทุกคนจะได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย โดยเฉพาะในช่วงเวลาหลังคลอดที่ต้องใช้ทั้งแรงกายและแรงใจในการดูแลลูก
และนี่คือ 12 ประเทศที่พยายามจะมอบสิทธินั้นให้ 'แม่' ทุกคนอย่างเต็มที่
1. สหราชอาณาจักร: ลาคลอด 1 ปี
คุณแม่ในสหราชอาณาจักรถือว่าโชคดีมาก เพราะมีสิทธิ 'ลาคลอดแบบได้รับค่าจ้าง' นานถึงหนึ่งปีเต็ม โดยไม่มีเงื่อนไขว่าคุณแม่จะทำงานให้กับนายจ้างมานานหรือสั้นแค่ไหนก็ตาม คุณแม่ยังมีสิทธิ์ได้รับยาตามใบสั่งแพทย์และการรักษาด้านทันตกรรมฟรีในระหว่างตั้งครรภ์ และในปีถัดไปหลังจากคลอดบุตรด้วย
2. สิงคโปร์: จ่ายเงินช่วยค่าเลี้ยงลูก
สิงคโปร์เป็นหนึ่งในประเทศที่คุ้มครองคุณแม่และครอบครัวหลังมีบุตรอย่างใจกว้าง โดยทุกครอบครัวจะได้รับเงินช่วยเหลือมูลค่า 6,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (1.9 แสนบาท) ทันที เมื่อพวกเขามีลูกคนแรกและคนที่สอง ตามด้วย 12,000 ดอลลาร์ (3.8 แสนบาท) สำหรับลูกคนที่สามและคนที่สี่ และ 18,000 ดอลลาร์ (5.8 แสนบาท) สำหรับการมีลูกคนที่ห้า
นอกจากนี้ลูกแต่ละคนยังจะได้รับเงินทุนการศึกษาในรูปแบบของบัญชีออมทรัพย์เริ่มด้นที่คนละ 3,000 ดอลลาร์ (9.6 หมื่นบาท) ด้วย
3. ฝรั่งเศส: คลอดฟรี 100% ครอบคลุมทุกขั้นตอน
ฝรั่งเศสมีนโยบายบังคับลาคลอดนาน 8 สัปดาห์ แต่คุณแม่มือใหม่สามารถลาได้ถึง 16 สัปดาห์ ข้อดีที่สุดคือประกันสุขภาพสำหรับคุณแม่ 100% โดยไม่มีค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ครอบคลุมทุกอย่างตั้งแต่การตรวจก่อนคลอด การคัดกรองความพิการแต่กำเนิดและโรคต่างๆ ไปจนถึงการฉีดยาชาเฉพาะที่และการคลอด รวมถึงการดูแลนาน 12 วันหลังคลอด
ปกติแล้วคุณแม่จะได้พักรักษาตัวในโรงพยาบาลนาน 3-5 วัน แต่หากต้องการกลับบ้านก่อน พวกเธอก็จะได้รับบริการจากพยาบาลผดุงครรภ์ที่มาเยี่ยมถึงบ้าน นอกจากนี้ ฝรั่งเศสยังมีคลาสสอนการดูแลกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานฟรีสำหรับคุณแม่มือใหม่ เพื่อช่วยลดปัญหาเกี่ยวกับการปัสสาวะหลังคลอดด้วย
4. สวีเดน: ทั้งพ่อและแม่ได้สิทธิลางานเลี้ยงลูก
ทั้งคุณพ่อและคุณแม่สามารถลาคลอดหรือลาเพื่อเลี้ยงดูบุตรได้คนละ 240 วัน ซึ่งให้สิทธิการลาสำหรับทั้งชายและหญิงเพื่อส่งเสริมนโยบายความเท่าเทียมทางเพศ โดยสามารถลาได้ทุกเมื่อตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 8 ขวบ และระหว่างการลาพวกเขาจะยังได้รับเงินเดือน 80 เปอร์เซ็นต์
5. เนเธอร์แลนด์: ลาคลอดได้รับเงินเดือน
คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์จะได้รับสิทธิลาคลอดแบบได้รับเงินเดือนเต็มจำนวนนาน 16 สัปดาห์ ซึ่งไม่ใช่เพียงการได้รับค่าจ้างบางส่วน และสามารถลาได้ทุกเมื่อนับจากตั้งครรภ์ได้ 6 สัปดาห์ขึ้นไป หลังจากคลอดแล้วยังอนุญาตให้ทั้งพ่อและแม่ลาเพื่อเลี้ยงดูบุตรได้นาน 6 เดือนครึ่งอีกด้วย นอกจากนี้ยังจัดให้มีพยาบาลประจำสัปดาห์แรกหลังคลอดเพื่อช่วยเหลือเรื่องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ และแนะนำวิธีดูแลสุขภาพของแม่กับทารกอย่างมีประสิทธิภาพ
6. นอร์เวย์: ลาคลอดได้รับเงินเดือน แถมบริการช่วยดูแลลูก
คุณแม่ในนอร์เวย์จะได้รับเงินเดือน 100% ในช่วง 46 สัปดาห์ของการลาเพื่อเลี้ยงดูบุตร หรือสามารถเลือกรับเงินเดือน 80% เพื่อขยายการลาเป็น 52 สัปดาห์ อีกทั้งยังแบ่งวันลากันระหว่างคุณพ่อกับคุณแม่ก็ได้ คล้ายกับหลักการของสวีเดน เพื่อส่งเสริมบทบาทของคุณพ่อเพื่อดูแลและสร้างความผู้พันกกับลูก และส่งเสริมให้คุณแม่มือใหม่ยังสามารถกลับไปทำงานได้
นอกจากนี้ยังมีบริการดูแลเด็กทั้งของเอกชนและของรัฐที่ได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาล ทำให้เด็กชาวนอร์เวย์ทุกคนมีสิทธิ์ได้รับบริการรับเลี้ยงเด็กฟรีเมื่ออายุครบหนึ่งขวบ เพื่อลดภาระของพ่อและแม่ที่ต้องออกไปทำงานด้วย
7. แคนาดา: ลาคลอด 1 ปี ได้รับค่าจ้างชดเชย
คุณแม่สามารถลาหยุดงานได้สูงสุด 52 สัปดาห์โดยไม่ถูกเลิกจ้าง และได้รับเงินเดือนเต็มจำนวนในช่วง 15 สัปดาห์แรก ส่วนคุณพ่อสามารถลาเพื่อช่วยเลี้ยงดูบุตรได้ 35 สัปดาห์ โดยยังรับค่าจ้าง 562 ดอลลาร์ (1.8 หมื่นบาท) ต่อสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม คู่สมรสที่มีรายได้ 200,000 ดอลลาร์ (6.4 ล้านบาท) ขึ้นไป จะไม่ได้รับสิทธิ์ดังกล่าว
8. ฟินแลนด์: ลาคลอดรับเงินรัฐ พร้อม 'กล่องคุณแม่มือใหม่'
คุณแม่สามารถลาคลอดแบบได้รับค่าจ้างนาน 16 สัปดาห์ ครอบคลุมถึงนักศึกษาและแม้แต่คุณแม่ที่ว่างงานซึ่งจะได้รับเงินชดเชยจากรัฐบาล ส่วนคุณพ่อจะได้รับสิทธิลาเพื่อเลี้ยงดูบุตรแบบได้รับค่าจ้างนาน 8 สัปดาห์
นอกจากนี้ฟินแลนด์ยังมีประเพณียาวนานตั้งแต่ปี 1930 ที่รัฐบาลจะมอบ "กล่องคุณแม่มือใหม่" ให้กับคุณแม่มือใหม่เพิ่งคลอด โดยในกล่องบรรจุของใช้จำเป็นสำหรับทารกแรกเกิด รวมถึงที่นอนและเปลสำหรับเด็ก หรือจะเลือกรับเป็นเงินขวัญถุงมูลค่า 140 ยูโร (5,200 บาท)
9. ไอซ์แลนด์: เตรียมขยายเวลาให้สิทธิลางาน
ปัจจุบันคุณพ่อคุณแม่ชาวไอซ์แลนด์สามารถลาคลอดและลาเพื่อดูแลบุตรได้คนละ 3 เดือน และมีสิทธิสำหรับแบ่งกันลาเพิ่มอีก 3 เดือน รวมเป็น 9 เดือน โดยทั้งคู่จะยังได้รับเงินเดือน 80% ขณะที่ร่างกฎหมายล่าสุดกำลังพยายามขยายระยะ เวลาการลา จาก 9 เดือนเป็น 12 เดือน
10. เยอรมนี: ลาคลอด 1 ปี รัฐบาลจ่ายเงินเดือน
คุณแม่มือใหม่ในเยอรมนีจะได้พักรักษาตัวในโรงพยาบาลประมาณ 5-10 วัน ไม่มีค่าใช้จ่าย โดยคุณแม่มีสิทธิ์ลาคลอดและได้รับค่าจ้างตลอดทั้งปี แต่หากทั้งพ่อและแม่ตัดสินใจแบ่งกันลาคลอด/เลี้ยงดูบุตร ก็สามารถลารวมกันได้ 14 เดือน ซึ่งรัฐบาลเยอรมนีจะจ่ายเงินเดือนให้คุณแม่ประมาณ 300 - 1,800 ยูโร (1 - 7 หมื่นบาท) ต่อเดือน
11. รัสเซีย : ขยายวันลาได้นาน 3 ปี คลอดตรงวันพิเศษรับรางวัลจากรัฐบาล
คุณแม่ได้รับวันลานานสูงสุด 140 วัน รับเงินเดือนเต็มจำนวน หากเป็นคุณแม่มือใหม่สามารถลาได้นาน 1 ปีครึ่ง โดยได้รับเงินเดือน 40 เปอร์เซ็นต์ และสามารถขยายเวลาลาพักร้อนเป็นสามปีโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการตกงาน
รัสเซียยังมีมาตรการเพื่อกระตุ้นให้คนมีลูก ด้วยการกำหนดช่วงเทศกาลพิเศษในวันที่ 12 เดือนมิถุนายน ซึ่งผู้ที่คลอดบุตรในวันดังกล่าวจะได้รับรางวัลมากมาย ทั้งเงิน รถยนต์ หรือรางวัลอื่นๆ
12. ญี่ปุ่น: ลาคลอดรับค่าจ้าง ประกันสุขภาพช่วยค่าคลอดบุตร
คุณแม่ชาวญี่ปุ่นได้รับสิทธิลาคลอดแบบได้รับค่าจ้างเป็นเวลา 8 สัปดาห์ และมีสิทธิลาเพื่อเลี้ยงดูบุตรซึ่งใช้ได้กับทั้งพ่อและแม่ แม้ว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะไม่จ่ายค่าลาคลอด แต่ประกันสุขภาพก็ช่วยชดเชยค่าจ้างที่สูญเสียไปและจ่ายเงินให้ทั้งพ่อและแม่ในช่วงลาคลอด รวมถึงเงินช่วยเหลือค่าคลอดบุตรราว 500,000 เยน (1 แสนบาท)
ส่วนประเทศไทยนั้น นับเป็นอีกหนึ่งประเทศที่พัฒนาสิทธิและสวัสดิการสำหรับคุณแม่มาโดยตลอดเช่นกัน โดยปัจจุบัน คุณแม่มีสิทธิลาก่อนและหลังคลอดสูงสุด 98 วัน โดยจะได้รับค่าจ้างจากนายจ้างเทียบเท่าระยะเวลาทำงาน แต่ไม่เกิน 45 วัน ขณะที่ล่าสุด สภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นชอบร่างกฎหมายที่จะขยายสิทธิการลาคลอดเป็น 120 วัน และให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างในวันลาเพื่อคลอดบุตร 60 วัน ส่วนคุณพ่อสามารถลาเพื่อช่วยเลี้ยงดูบุตรนาน 15 วัน โดยได้รับค่าจ้าง 100%