svasdssvasds

“บีทีเอส” โล่งอก! กทม.เคลียร์หนี้ 3.6 หมื่นล้าน ปิดบัญชี

“บีทีเอส” โล่งอก! กทม.เคลียร์หนี้ 3.6 หมื่นล้าน ปิดบัญชี

กทม.เคลียร์หนี้ “บีทีเอส” 3.6 หมื่นล้าน ปลดล็อกข้อพิพาทสายสีเขียว – บีทีเอสโล่งใจนำเงินชำระหนี้-ลงทุนระบบรางเพิ่ม ชู MOU ใหม่สร้างเสถียรภาพการเงินระยะยาว

SHORT CUT

  • ครอบคลุมค่าจ้างเดินรถและบำรุงรักษาระบบ (O&M) รถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวทุกช่วง ทั้งสุขุมวิทและสีลม โดยแบ่งเป็นเงินต้น 31,482 ล้านบาท และดอกเบี้ย 4,962 ล้านบาท เหลือหนี้ค้างเพียง 528 ล้านบาท
  • นายคีรี กาญจนพาสน์ ระบุว่าจะนำเงินราว 15,000 ล้านบาทไปชำระหนี้ และอีก 20,000 ล้านบาทใช้ลงทุนในระบบรถไฟฟ้าเพิ่มเติม โดยต้องผ่านการพิจารณาของบอร์ดกองทุน BTSGIF
  • บีทีเอสและกทม.ลงนาม MOU เพื่อป้องกันปัญหาการผิดนัดชำระหนี้ในอนาคต โดยกำหนดให้บริษัทวางบิลวันที่ 3 ของเดือน และกทม.-กรุงเทพธนาคม ชำระทุกวันที่ 20 ของเดือน เดือนละประมาณ 740 ล้านบาท ขณะเดียวกัน เมื่อหมดสัมปทานปี 2572 กทม.ยังต้องจ่ายค่าจ้างเดินรถราว 1,300–1,400 ล้านบาทต่อเดือนต่อไป

กทม.เคลียร์หนี้ “บีทีเอส” 3.6 หมื่นล้าน ปลดล็อกข้อพิพาทสายสีเขียว – บีทีเอสโล่งใจนำเงินชำระหนี้-ลงทุนระบบรางเพิ่ม ชู MOU ใหม่สร้างเสถียรภาพการเงินระยะยาว

บีทีเอส กรุ๊ป เฮรับข่าวดี หลัง กรุงเทพมหานคร (กทม.) ชำระหนี้ค่าจ้างเดินรถและบำรุงรักษาระบบ (O&M) รถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวครบ 36,444 ล้านบาท ครอบคลุมทั้งสายสุขุมวิท (อ่อนนุช–แบริ่ง และแบริ่ง–สมุทรปราการ) และสายสีลม (สะพานตากสิน–บางหว้า) รวมถึงช่วงหมอชิต–คูคต

นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การชำระหนี้ครั้งนี้ช่วยลดแรงกดดันต่อบริษัทที่ต้องรับภาระต้นทุนและการชำระหนี้ต่อเนื่อง พร้อมยอมรับว่าหากกทม.ล่าช้าเกินวันที่ 31 ตุลาคมนี้ จะมีดอกเบี้ยเพิ่มกว่า 200 ล้านบาท

“บีทีเอส” โล่งอก! กทม.เคลียร์หนี้ 3.6 หมื่นล้าน ปิดบัญชี

“รู้สึกดีใจที่กทม.ดำเนินการชำระหนี้ เพราะที่ผ่านมาเรารอความชัดเจนมานาน ขณะนี้บริษัทจะนำเงินที่ได้รับไปชำระหนี้ราว 15,000 ล้านบาท และเตรียมใช้เงินอีกส่วนกว่า 20,000 ล้านบาท ลงทุนในระบบรถไฟฟ้าเพิ่มเติม โดยต้องผ่านความเห็นชอบจากบอร์ดกองทุน BTSGIF ก่อน” นายคีรีกล่าว

ทั้งนี้ บีทีเอสและกทม.ได้ลงนาม บันทึกข้อตกลง (MOU) เพื่อป้องกันการผิดนัดชำระหนี้ในอนาคต ซึ่งคาดว่าจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนมากขึ้น โดยในอนาคตบริษัทจะวางบิลค่าจ้างเดินรถทุกวันที่ 3 ของเดือน และกทม.รวมถึงบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (KT) ต้องชำระภายในวันที่ 20 ของเดือน เป็นวงเงิน ประมาณ 740 ล้านบาทต่อเดือน

สำหรับช่วงหลังสิ้นสุดสัญญาสัมปทานในปี 2572 กทม.ยังต้องรับภาระค่าจ้างเดินรถระบบ O&M ราว 1,300–1,400 ล้านบาทต่อเดือน

ด้าน นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ระบุว่า เงินที่ได้รับจากกทม.รวม 36,444 ล้านบาท แบ่งเป็น เงินต้น 31,482 ล้านบาท และ ดอกเบี้ย 4,962 ล้านบาท โดยยังเหลือหนี้คงค้างอีกเพียง 528 ล้านบาท ที่ต้องชำระเพิ่มเติม

“บีทีเอส” โล่งอก! กทม.เคลียร์หนี้ 3.6 หมื่นล้าน ปิดบัญชี

ที่ผ่านมา ภาระหนี้สายสีเขียวของกทม.ที่จ่ายให้บีทีเอสประกอบด้วย

  • หนี้งานระบบ O&M (มิ.ย. 2564 – ต.ค. 2565) รวม 12,836 ล้านบาท (เงินต้น 10,128 ล้านบาท ดอกเบี้ย 2,708 ล้านบาท) – บีทีเอสได้ยื่นฟ้องศาลปกครองกลางเมื่อ 22 พ.ย. 2565
  • หนี้งานระบบ O&M (พ.ย. 2565 – ก.ย. 2568) รวม 24,136 ล้านบาท (เงินต้น 21,883 ล้านบาท ดอกเบี้ย 2,253 ล้านบาท) – ไม่ได้มีการฟ้องร้อง
  • หนี้ระบบไฟฟ้าและเครื่องกล (E&M) ส่วนต่อขยายที่ 2 ช่วงแบริ่ง–สมุทรปราการ และหมอชิต–คูคต วงเงิน 23,312 ล้านบาท

การปิดบัญชีหนี้ครั้งนี้นับเป็นอีกก้าวสำคัญของการฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างภาครัฐและเอกชนในระบบขนส่งมวลชนทางราง พร้อมเปิดทางให้บีทีเอสเดินหน้าลงทุนโครงการใหม่อย่างมั่นใจมากขึ้น

“บีทีเอส” โล่งอก! กทม.เคลียร์หนี้ 3.6 หมื่นล้าน ปิดบัญชี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

 

related