
SHORT CUT
กทม.เคลียร์หนี้ “บีทีเอส” 3.6 หมื่นล้าน ปลดล็อกข้อพิพาทสายสีเขียว – บีทีเอสโล่งใจนำเงินชำระหนี้-ลงทุนระบบรางเพิ่ม ชู MOU ใหม่สร้างเสถียรภาพการเงินระยะยาว
บีทีเอส กรุ๊ป เฮรับข่าวดี หลัง กรุงเทพมหานคร (กทม.) ชำระหนี้ค่าจ้างเดินรถและบำรุงรักษาระบบ (O&M) รถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวครบ 36,444 ล้านบาท ครอบคลุมทั้งสายสุขุมวิท (อ่อนนุช–แบริ่ง และแบริ่ง–สมุทรปราการ) และสายสีลม (สะพานตากสิน–บางหว้า) รวมถึงช่วงหมอชิต–คูคต
นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การชำระหนี้ครั้งนี้ช่วยลดแรงกดดันต่อบริษัทที่ต้องรับภาระต้นทุนและการชำระหนี้ต่อเนื่อง พร้อมยอมรับว่าหากกทม.ล่าช้าเกินวันที่ 31 ตุลาคมนี้ จะมีดอกเบี้ยเพิ่มกว่า 200 ล้านบาท
“รู้สึกดีใจที่กทม.ดำเนินการชำระหนี้ เพราะที่ผ่านมาเรารอความชัดเจนมานาน ขณะนี้บริษัทจะนำเงินที่ได้รับไปชำระหนี้ราว 15,000 ล้านบาท และเตรียมใช้เงินอีกส่วนกว่า 20,000 ล้านบาท ลงทุนในระบบรถไฟฟ้าเพิ่มเติม โดยต้องผ่านความเห็นชอบจากบอร์ดกองทุน BTSGIF ก่อน” นายคีรีกล่าว
ทั้งนี้ บีทีเอสและกทม.ได้ลงนาม บันทึกข้อตกลง (MOU) เพื่อป้องกันการผิดนัดชำระหนี้ในอนาคต ซึ่งคาดว่าจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนมากขึ้น โดยในอนาคตบริษัทจะวางบิลค่าจ้างเดินรถทุกวันที่ 3 ของเดือน และกทม.รวมถึงบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (KT) ต้องชำระภายในวันที่ 20 ของเดือน เป็นวงเงิน ประมาณ 740 ล้านบาทต่อเดือน
สำหรับช่วงหลังสิ้นสุดสัญญาสัมปทานในปี 2572 กทม.ยังต้องรับภาระค่าจ้างเดินรถระบบ O&M ราว 1,300–1,400 ล้านบาทต่อเดือน
ด้าน นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ระบุว่า เงินที่ได้รับจากกทม.รวม 36,444 ล้านบาท แบ่งเป็น เงินต้น 31,482 ล้านบาท และ ดอกเบี้ย 4,962 ล้านบาท โดยยังเหลือหนี้คงค้างอีกเพียง 528 ล้านบาท ที่ต้องชำระเพิ่มเติม
ที่ผ่านมา ภาระหนี้สายสีเขียวของกทม.ที่จ่ายให้บีทีเอสประกอบด้วย
การปิดบัญชีหนี้ครั้งนี้นับเป็นอีกก้าวสำคัญของการฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างภาครัฐและเอกชนในระบบขนส่งมวลชนทางราง พร้อมเปิดทางให้บีทีเอสเดินหน้าลงทุนโครงการใหม่อย่างมั่นใจมากขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง