svasdssvasds

วิกฤตน้ำท่วม68 เผชิญ 3 ปัจจัยเสี่ยง กางแผนรับมือ เช็กสถานการณ์ทุกมิติ

วิกฤตน้ำท่วม68 เผชิญ 3 ปัจจัยเสี่ยง กางแผนรับมือ เช็กสถานการณ์ทุกมิติ

วิกฤตน้ำท่วม68 เจอ3ปัจจัยเสี่ยง น้ำล้นเขื่อน พายุไต้ฝุ่นคัลแมกี น้ำทะเลหนุน กทม.อ่วมเรนบอมบ์ กางแผนรับมือ เช็กสถานการณ์ทุกมิติ

SHORT CUT

  • กรมชลประทานทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาและเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เพื่อเตรียมรองรับปริมาณน้ำฝนจากอิทธิพลพายุ "คัลแมกี"
  • สถานการณ์น้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มีปริมาณน้ำเกินความจุ อยู่ที่ 102.39% ขณะที่ระดับน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยามีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น
  • คาดการณ์ว่าพายุไต้ฝุ่น "คัลแมกี" จะเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามและอ่อนกำลังลงก่อนเข้าปกคลุมไทยตอนบน ส่งผลให้มีฝนเพิ่มขึ้นช่วงวันที่ 6-9 พ.ย.

วิกฤตน้ำท่วม68 เจอ3ปัจจัยเสี่ยง น้ำล้นเขื่อน พายุไต้ฝุ่นคัลแมกี น้ำทะเลหนุน กทม.อ่วมเรนบอมบ์ กางแผนรับมือ เช็กสถานการณ์ทุกมิติ

กรมชลประทาน เปิดเผยสถานการณ์น้ำล่าสุด เนื่องจากอิทธิพลของร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคกลาง ภาคตะวันออกตอนบน และภาคอีสานตอนล่าง ทำให้เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะจังหวัด ตาก, กำแพงเพชร, นครสวรรค์, อุทัยธานี, ชัยนาท, กาญจนบุรี, ราชบุรี, สุพรรณบุรี, นครปฐม และเพชรบุรี ส่งผลให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำสายหลักและแม่น้ำสาขา โดยเฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยา เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

อัปเดตสถานการณ์น้ำเจ้าพระยา 4 พ.ย. 68 เวลา 06.00 น.

สถานี C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์

  • ปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,673 ลบ.ม./วินาที
  • ระดับน้ำ 24.28 ม. (ต่ำกว่าตลิ่ง 1.42 ม.)
  • แนวโน้มเพิ่มขึ้น

สถานี C.13 เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท

  • ปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,300 ลบ.ม./วินาที
  • ระดับน้ำเหนือเขื่อน 17.01 ม.
  • ระดับน้ำท้ายเขื่อน 15.47 ม. (ต่ำกว่าตลิ่ง 87 ซ.ม.)
  • แนวโน้มเพิ่มขึ้น

วิกฤตน้ำท่วม68 เผชิญ 3 ปัจจัยเสี่ยง กางแผนรับมือ เช็กสถานการณ์ทุกมิติ

กรมชลประทาน จึงขอแจ้งปรับเพิ่มการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ตั้งแต่เวลา 10.00 น.(4 พ.ย.68) จากอัตรา 2,300 ลบ.ม./วิ เป็นอัตรา 2,400 ลบ.ม./วิ ภายในเวลา 16.00 น. ของวันนี้ และคงอัตราดังกล่าวต่อเนื่อง พร้อมบริหารจัดการน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ด้วยการหน่วงน้ำไว้ด้านเหนือ พร้อมรับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่ง ตามศักยภาพของคลอง เพื่อลดผลกระทบให้ได้มากที่สุด

เขื่อนป่าสักฯ น้ำทะลุ 102% เร่งระบายน้ำ เฝ้าระวังระดับแม่น้ำเพิ่มสูง

สถานการณ์น้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ล่าสุด 4 พ.ย. 68 เวลา 06.00 น.

  • ปริมาณน้ำ 982.97 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 102.39 %
  • ปริมาณน้ำไหลลงอ่าง 325.88 ลบ.ม./วินาที หรือ 28.16 ล้าน ลบ.ม./วัน
  • ระบายน้ำ 75.52 ลบ.ม./วินาที หรือ 6.52 ล้าน ลบ.ม./วัน

วิกฤตน้ำท่วม68 เผชิญ 3 ปัจจัยเสี่ยง กางแผนรับมือ เช็กสถานการณ์ทุกมิติ

ด้านกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า ระหว่างวันที่ 6 - 9 พฤศจิกายน 2568 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้นจากอิทธิพลของพายุ “คัลแมกี” เพื่อควบคุมปริมาณน้ำในอ่างฯให้อยู่ในระดับเหมาะสมและเตรียมรองรับน้ำฝนที่จะเข้ามาเพิ่มเติม โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาป่าสักชลสิทธิ์ จะทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำ จาก 25 เป็น 150 ลบ.ม./วินาที โดยจะทยอยปรับเพิ่มวันละประมาณ 25 ลบ.ม./วินาที 

ทั้งนี้จะส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักด้านท้ายเขื่อนป่าสักฯ เพิ่มสูงขึ้นจากเดิมประมาณ 1.20 – 1.40 เมตร โดยระดับน้ำดังกล่าวยังคงอยู่ในลำน้ำ ไม่ถึงขั้นล้นตลิ่ง ขอให้ประชาชนในพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำป่าสักและพื้นที่ใกล้เคียงติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด

วิกฤตน้ำท่วม68 เผชิญ 3 ปัจจัยเสี่ยง กางแผนรับมือ เช็กสถานการณ์ทุกมิติ

คาดการณ์ว่าในช่วงวันที่ 8 - 10 พ.ย. 68 ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนเพิ่มขึ้นและจะมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ จึงมีมติที่ประชุมให้หน่วยงานดำเนินการปรับแผนการระบายน้ำของเขื่อนภูมิพล จ.ตาก ตามลำดับ ดังนี้

  • วันที่ 5 พ.ย. 68 ปรับเพิ่มการระบายน้ำเป็น 20 ล้าน ลบ.ม./วัน
  • วันที่ 6 พ.ย. 68 ปรับเพิ่มการระบายน้ำเป็น 25 ล้าน ลบ.ม./วัน
  • วันที่ 7 พ.ย. 68 เป็นต้นไป จะปรับเพิ่มอัตราการระบายน้ำเป็น 30 ล้าน ลบ.ม./วัน

วิกฤตน้ำท่วม68 เผชิญ 3 ปัจจัยเสี่ยง กางแผนรับมือ เช็กสถานการณ์ทุกมิติ

 

 

เตือน! เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง 6-13 พ.ย.นี้ 

สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติดตามสถานการณ์น้ำทะเลหนุนสูงบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยาจากกรมอุทกศาสตร์ โดยคาดหมายระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้า และพื้นที่ใกล้เคียง ในระหว่างวันที่ 6 - 13 พฤศจิกายน 2568 เวลาประมาณ 06.00 - 13.00 น. เป็นช่วงที่ระดับน้ำทะเลหนุนสูง โดยคาดหมายระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้า และพื้นที่ใกล้เคียงอาจมีความสูงประมาณ 1.70 – 2.00 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง ซึ่งสูงกว่าระดับน้ำวิกฤติประมาณ 0.30 เมตร เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุม ทำให้มีฝนตกในบางพื้นที่ ประกอบกับมวลน้ำจากตอนบนของลุ่มน้ำไหลลงมาสมทบ ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำจะเพิ่มสูงขึ้น เกิดน้ำเอ่อล้นเข้าท่วม เนื่องจากน้ำทะเลหนุน บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำแม่กลอง รวมถึงชุมชนนอกแนวคันกั้นน้ำ และแนวเขื่อนชั่วคราวบริเวณที่ไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร (แนวฟันหลอ) บริเวณจังหวัดสมุทรปราการ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรสาคร นครปฐม และสมุทรสงคราม

วิกฤตน้ำท่วม68 เผชิญ 3 ปัจจัยเสี่ยง กางแผนรับมือ เช็กสถานการณ์ทุกมิติ

กทม.ปริมณทลอ่วม! เจอ 'Rain Bomb' 2 วันติด

วันนี้ 4 พฤศจิกายน 2568 กรุงเทพมหานครและปริมณฑล กำลังเผชิญกับสถานการณ์น้ำท่วมขังวิกฤตในชั่วโมงเร่งด่วนเช้าวันนี้ หลังกรมอุตุนิยมวิทยา เตือนฝนยังคงตกหนักต่อเนื่อง 60% ของพื้นที่

กรมอุตุนิยมวิทยาประจำวันที่ 4 พ.ย. 68 ชี้ชัดว่า กรุงเทพฯ และปริมณฑลยังไม่พ้นวิกฤต โดยมีฝนฟ้าคะนอง ถึงร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิสูงสุดวันนี้แตะที่ 31-33°C ต่ำสุด 24-25°C

รายงานปริมาณน้ำฝนรวมสูงสุดในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา (สิ้นสุด 07.00 น.) ยืนยันว่า พื้นที่ กทม. เผชิญกับฝนหนักถึงหนักมาก โดยจุดที่วัดปริมาณฝนได้สูงสุดคือ

  • 74.0 มม. สถานีคลองระหาญ เขตบางขุนเทียน
  • 65.5 มม. ถนนเทศบาลสงเคราะห์ เขตจตุจักร
  • 60.5 มม. ศูนย์ราชการ-ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่

ปริมาณฝนที่สูงเกิน 60 มม. ในหลายพื้นที่ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังสะสมอย่างรวดเร็วในช่วงเวลาสำคัญของการเดินทาง

อัปเดตล่าสุด เส้นทางพายุไต้ฝุ่น "คัลแมกี"

กรมอุตุนิยมวิทยา อัปเดตการพยากรณ์ฝนสะสมรายวัน 10 วันล่วงหน้า (ทุก 24 ชม. ตั้งแต่ 07.00 น. ถึง 07.00 น. วันรุ่งขึ้น) ระหว่างวันที่ 4 – 13 พ.ย. 68

ช่วงวันที่ 4 - 6 พ.ย. 68 มวลอากาศเย็นกำลังปานกลางแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนอีกระลอก ทำให้ฝนเริ่มลดลงในหลายพื้นที่ ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้ง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ส่วน ภาคใต้ตั้งแต่เพชรบุรีลงไป ยังคงมีฝนฟ้าคะนองประปราย โดยมีฝนปานกลางบางพื้นที่

พายุไต้ฝุ่น “คัลแมกี” ปัจจุบัน (4 พ.ย. 68) มีศูนย์กลางอยู่บริเวณตอนกลางของประเทศฟิลิปปินส์ และกำลังเคลื่อนตัวทางตะวันตก คาดว่าจะเคลื่อนลงสู่ทะเลจีนใต้ช่วง คืนวันที่ 4 ถึงเช้าวันที่ 5 พ.ย. 68 จากนั้นจะเคลื่อนขึ้นฝั่ง ประเทศเวียดนามตอนกลาง ในช่วง 6 – 7 พ.ย. 68 หลังจากนั้นพายุจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง และคาดว่าจะเคลื่อนเข้าปกคลุมประเทศไทยตอนบน โดยจะเริ่มส่งผลต่อ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (โดยเฉพาะ จ.อุบลราชธานี) ในวันที่ 7 พ.ย. 68 ทำให้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักหลายพื้นที่บริเวณภาคอีสาน ก่อนที่พื้นที่อื่นๆ จะได้รับผลกระทบตามมาในวันถัดไป

อย่างไรก็ตาม ทิศทางและกำลังของพายุ ยังอาจเปลี่ยนแปลงได้ จำเป็นต้องติดตามข้อมูลอย่างใกล้ชิดจากกรมอุตุนิยมวิทยา

ช่วงวันที่ 10 – 13 พ.ย. 68 มวลอากาศเย็นเริ่มแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน แรงขึ้นและเป็นระบบมากขึ้น ช่วงแรกของการแผ่ลงมาอาจมีฝนบางแห่ง จากนั้นอากาศจะเริ่มเย็นในตอนเช้า โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคอีสาน ฝนจะลดลง เหลือเพียงบางแห่งในภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

วิกฤตน้ำท่วม68 เผชิญ 3 ปัจจัยเสี่ยง กางแผนรับมือ เช็กสถานการณ์ทุกมิติ

ที่มา : สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ , กรมอุตุนิยมวิทยา , เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ฯ

related