svasdssvasds

ไทย-เกาหลีใต้ บูมลงทุน 3 อุตสาหกรรม อาหาร เกษตร-อุตฯสมัยใหม่-Wellness

ไทย-เกาหลีใต้ บูมลงทุน 3 อุตสาหกรรม อาหาร เกษตร-อุตฯสมัยใหม่-Wellness

‘เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส’ เปิดงาน IGNITE Thailand–Korea Business Forum Bangkok ย้ำไทย–เกาหลีใต้มีศักยภาพพัฒนาเศรษฐกิจร่วมกัน “ก้าวกระโดด” ทั้งอาหาร–สมาร์ทฟาร์มิ่ง อุตฯมยานยนต์สมัยใหม่–เซมิคอนดักเตอร์ และเวลเนส–ท่องเที่ยว

SHORT CUT

  • เชื่อหรือไม่ว่า? เกาหลีใต้ป็นประเทศที่เข้ามาลงทุนในไทยมากเป็นอันดับ9 และมีแนวโน้มจะมีการลงทุนอย่างต่อเนื่องหากได้รับการส่งเสริมการลงที่ดี และจูงใจ
  • จึงทำให้มีความพยายามเพื่อให้เกิดการค้าการลงทุนเชื่อมโยงระหว่าง 2 ประเทศมากขึ้น เช่นล่าสุดมีการจัดงาน IGNITE Thailand–Korea Business Forum Bangkok
  • ไทย-เกาหลีใต้ เดินหน้าบูมการีค้าการลงทุน 3 อุตสาหกรรม อาหาร เกษตร-อุตฯสมัยใหม่-Wellness-ท่องเที่ยว

     

‘เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส’ เปิดงาน IGNITE Thailand–Korea Business Forum Bangkok ย้ำไทย–เกาหลีใต้มีศักยภาพพัฒนาเศรษฐกิจร่วมกัน “ก้าวกระโดด” ทั้งอาหาร–สมาร์ทฟาร์มิ่ง อุตฯมยานยนต์สมัยใหม่–เซมิคอนดักเตอร์ และเวลเนส–ท่องเที่ยว

เกาหลีใต้นับได้ว่าเป็นประเทศที่เข้ามาลงทุนในไทยมากเป็นอันดับ9 และมีแนวโน้มจะมีการลงทุนอย่างต่อเนื่องหากได้รับการส่งเสริมการลงที่ดี และจูงใจ ดังนั้นจะมีความพยายามเพื่อให้เกิดการค้าการลงทุนเชื่อมโยงระหว่าง 2 ประเทศมากขึ้น เช่น ล่าสุดมีการจัดงาน IGNITE Thailand–Korea Business Forum Bangkok โดย ‘เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส’ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวปาฐกถาเปิดงาน IGNITE Thailand–Korea Business Forum Bangkok โดยระบุว่า ไทยและเกาหลีใต้มีฐานคิดและเส้นทางการพัฒนาเศรษฐกิจที่คล้ายกันอย่างยิ่ง” พร้อมชี้ถึงโอกาสการลงทุนร่วมกันในอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ทั้งเก่า–ใหม่ ซึ่งจะผลักดันให้เศรษฐกิจของทั้งสองประเทศเติบโตแบบก้าวกระโดดในระยะต่อไป

นายเอกนิติ ระบุว่า ก่อนหน้านี้คณะผู้แทนไทยได้เดินทางเยือนเกาหลีใต้เพื่อเข้าร่วมประชุม APEC และมีการหารือทวิภาคีอย่างใกล้ชิด ทำให้ไทยเข้าใจความต้องการพัฒนาเศรษฐกิจของเกาหลีใต้มากขึ้น โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ที่เกาหลีใต้มีความเชี่ยวชาญ ส่วนไทยเองมีฐานการผลิตรถยนต์สำคัญของภูมิภาค จึงมีโอกาสเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานและแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีได้อีกมาก

3 อุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ ไทย–เกาหลี ที่พร้อมลงทุนร่วมกัน

 1. อาหาร–สมาร์ทฟาร์มิ่ง–ฟู้ดโปรเซสซิ่ง

ไทยเป็นผู้ส่งออกอาหารรายใหญ่ของโลก ส่วนเกาหลีมีเทคโนโลยีสมาร์ทฟาร์มทันสมัย การผนึกกำลังจะยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยอาหาร การผลิต และการแปรรูปได้อย่างมาก

ไทย-เกาหลีใต้ บูมลงทุน 3 อุตสาหกรรม อาหาร เกษตร-อุตฯสมัยใหม่-Wellness

 2. อุตสาหกรรมสมัยใหม่

ครอบคลุมยานยนต์ไฟฟ้า ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ระบบออโตเมชัน หุ่นยนต์ และอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งเกาหลีใต้เป็นหนึ่งในผู้นำของโลก ขณะที่ไทยตั้งเป้าพัฒนาอุตสาหกรรมชิปเป็นอุตสาหกรรมอนาคต (Future Industry) ตามแผน New S-Curve

 3. บริการ เวลเนส เมดิคัล และท่องเที่ยว

ไทยมีความแข็งแกร่งด้านการแพทย์ เวลเนส และสปา ส่วนเกาหลีใต้โดดเด่นด้านคอสเมติกส์และศัลยกรรมความงาม การจับมือกันช่วยสร้างแพ็กเกจท่องเที่ยว-รักษาพยาบาลร่วมกัน เพิ่มรายได้ทั้งสองประเทศ

นายเอกนิติ กล่าวว่า ความร่วมมือดังกล่าวจะต่อยอดโอกาสให้ทั้งสองประเทศสร้างเศรษฐกิจที่เติบโตเร็วขึ้น ขณะเดียวกันวัฒนธรรมร่วมสมัยก็ช่วยเชื่อมโยงกันอย่างดี ทั้งกระแส K-Pop และ T-Pop รวมถึงศิลปินระดับโลกอย่าง “แบล็กพิงก์” ที่มีสมาชิกชาวไทย สะท้อนการผสาน Soft Power ที่ทั้งสองประเทศสามารถต่อยอดไปด้วยกันได้

ไทย-เกาหลีใต้ บูมลงทุน 3 อุตสาหกรรม อาหาร เกษตร-อุตฯสมัยใหม่-Wellness

ไทย–เกาหลีใต้ เผชิญโจทย์เศรษฐกิจคล้ายกัน

รองนายกรัฐมนตรี ชี้ว่า ทั้งสองประเทศเจอความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitical Risks) และปัญหามาตรการภาษีตอบโต้ทางการค้า (Trade Remedies) จากประเทศคู่ค้า จึงต้องพึ่งพาตลาดภายในภูมิภาคมากขึ้น พร้อมเสริมความสามารถแข่งขันในอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ร่วมกัน

เกาหลีใต้มีมาตรการรองรับความผันผวนของการส่งออก ขณะที่ไทยใช้นโยบาย “คนละครึ่งพลัส” เพื่อลดค่าครองชีพ และยังช่วยยกระดับทักษะดิจิทัลให้ประชาชนผ่านการเทรน อัพสกิล–รีสกิล เพื่อก้าวสู่เศรษฐกิจยุคใหม่

นายเอกนิติกล่าวว่า SMEs มากกว่า 80–90% ของไทยยังขาดสภาพคล่องและต้องการการเชื่อมโยงสู่ห่วงโซ่อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ การร่วมมือไทย–เกาหลีจะช่วยให้ซัพพลายเชนในอุตสาหกรรมใหม่สามารถ “หยั่งรากลงไปถึง SMEs” ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของเศรษฐกิจไทย

ทั้งไทยและเกาหลี มีปัญหาหนี้ครัวเรือนลักษณะใกล้เคียงกัน

ทั้งสองประเทศเผชิญความท้าทายเรื่องการเข้าถึงสินเชื่อดิจิทัลที่ง่ายขึ้น ทำให้ประชาชนเป็นหนี้เร็วขึ้น ไทยกำลังแก้ผ่านการผลักดัน AMC แก้หนี้, การเข้าถึงสินเชื่อในระบบ และการส่งเสริมการออม–ลงทุนเพื่ออนาคต ขณะที่เกาหลีใต้ก็ดำเนินมาตรการด้านวินัยการเงินในลักษณะคล้ายกัน

นอกจากนี้ ทั้งสองประเทศมีแนวนโยบายการคลังใกล้เคียงกัน ผ่านวิกฤติคล้ายกัน เช่น วิกฤติการเงินเอเชีย 2540 (ไทย) และ “กิมจิ ไครซิส” (เกาหลี) โดยเกาหลีใต้ฟื้นตัวได้รวดเร็ว ซึ่งเป็นบทเรียนสำคัญที่ไทยต้องศึกษา

ไทยและเกาหลีใต้ต่างใช้เครื่องมือทางการเงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น

 • กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Funds)

 • การร่วมลงทุนแบบ PPP

 • โครงสร้างลิสต์ในตลาดหลักทรัพย์เพื่อระดมทุนเข้าสู่อุตสาหกรรมอนาคต

ทั้งหมดสะท้อนยุทธศาสตร์การคลังที่ใกล้เคียงกันอย่างมาก

ทัศนะตัวแทนเกาหลีใต้: เดินหน้า CEPa–ดิจิทัล–ครีเอทีฟอุตสาหกรรม

ต่อจากนั้น Mr. Lee Hack Young รองประธานสภาแห่งชาติเกาหลีใต้ (Deputy Speaker of the National Assembly) กล่าวว่า เกาหลีใต้ให้ความสำคัญต่อความร่วมมือทวิภาคีอย่างยิ่ง และการหารือระหว่างสองประเทศในช่วงที่ผ่านมา “มีพัฒนาการที่ก้าวหน้าอย่างชัดเจน”

เขาระบุว่า ไทยและเกาหลีใต้เป็น “แกนนำสำคัญของภูมิภาค” ที่สามารถผลักดันความร่วมมือทางเศรษฐกิจให้เกิดผลจริงจัง โดยเฉพาะความตกลง CEPa – Comprehensive Economic Partnership Agreement ที่คาดว่าจะเป็นความร่วมมือเศรษฐกิจยุคใหม่ ครอบคลุมสินค้า บริการ การลงทุน ดิจิทัลคอมเมิร์ซ และครีเอทีฟอินดัสทรี ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจทั้งสองประเทศยืนบนเวทีโลกได้อย่างมั่นคง

ไทย-เกาหลีใต้ บูมลงทุน 3 อุตสาหกรรม อาหาร เกษตร-อุตฯสมัยใหม่-Wellness

เขาย้ำว่า ไทยและเกาหลีต้องเดินหน้าสร้างความร่วมมือโดยมี “ประชาชนเป็นศูนย์กลาง” ทั้งด้านวัฒนธรรม ดิจิทัล และเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้ภูมิภาคและสร้างโอกาสใหม่แก่คนรุ่นต่อไป

ด้าน 'ธานี แสงรัตน์' เอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า ความร่วมมือล่าสุดนี้เป็นการต่อยอดจากกิจกรรมที่จัดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยนายกรัฐมนตรีได้ตั้งเป้าหมายเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างไทยกับเกาหลีใต้จากปัจจุบัน 15,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ให้เติบโตถึง 30,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้ทั้งสองประเทศกำลังเร่งเจรจา Comprehensive Economic Partnership Agreement (CEPA) ซึ่งเปรียบเสมือน FTA คาดว่าจะสามารถลงนามได้สำเร็จภายในปลายปีนี้ ข้อตกลงนี้คาดว่าจะช่วยเพิ่มมูลค่าการค้าได้อีก 1,000–2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

สำหรับการส่งเสริมการลงทุนร่วมกับ Care Hero Media Group และ Daewoo ENC พาคณะนักลงทุนเกาหลีกว่า 100 คน เยือนประเทศไทย ซึ่งลงทุนให้ความสนใจโอกาสการลงทุน โดยเฉพาะในพื้นที่ EEC (ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก) คณะได้เข้าพบท่านนายกรัฐมนตรี และเยี่ยมชมนิคมอุตสาหกรรม รวมถึงท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง โดยสาขาที่นักลงทุนเกาหลีให้ความสนใจ ได้แก่ ดิจิทัล ชิ้นส่วนยานยนต์ พลังงาน และการก่อสร้าง รวมถึงอุตสาหกรรม S-Curve และเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เช่น คอนเทนต์ ภาพยนตร์ ดิจิทัล

อย่างไรก็ตามไทยได้ชี้โอกาสในการกระจายความเสี่ยงการลงทุนของเกาหลี โดยปัจจุบันมีบริษัทเกาหลีในไทยเพียง 400 แห่ง เทียบกับกว่า 10,000 แห่งในเวียดนาม โดยไทยยืนยันกับนักลงทุนว่าแม้จะมีการเปลี่ยนรัฐบาล แต่ นโยบายส่งเสริมการลงทุนของไทยไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนัก และยังคงมุ่งเน้นในอุตสาหกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ ไทยถือเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของอาเซียน ขณะที่เกาหลีใต้เป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของเอเชีย การร่วมมือกันจะช่วยดึงศักยภาพของทั้งสองประเทศออกมา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

 

related