
SHORT CUT
งานวิจัยชี้ชัด: ความหลงใหลและความพากเพียรระยะยาวคือพลังที่ทำนายความสำเร็จได้ดีกว่าพรสวรรค์ ไอคิว หรือผลการเรียน
ลอดหลายปีของการศึกษาคนเก่งในหลากหลายวงการ นักจิตวิทยาพบสิ่งหนึ่งที่พลิกความเชื่อเดิม ๆ ของเราเกี่ยวกับความสำเร็จ นั่นคือ “กริต” (grit) หรือส่วนผสมพิเศษของ ความหลงใหลในเป้าหมายระยะยาว และ ความพากเพียรไม่ยอมถอย ซึ่งยืนยันว่าเป็นตัวทำนายความสำเร็จที่แม่นยำกว่าทั้งพรสวรรค์ ไอคิว หรือผลการเรียน !
งานวิจัยนี้มาจาก นักจิตวิทยาชื่อดัง "แองเจลา ดั๊กเวิร์ธ (Angela Duckworth)" ซึ่งเธอกล่าวว่า คนที่ทำผลงานโดดเด่นในชีวิตส่วนใหญ่มี “ดาวนำทาง” อยู่ในใจ พวกเขาไม่เปลี่ยนเส้นทางบ่อย ไม่ไหลตามสิ่งดึงดูดชั่วคราว และไม่ทิ้งเป้าหมายเดิมไปเพียงเพราะเจออุปสรรค ความรักในสิ่งที่ทำและการอยู่กับมันอย่างต่อเนื่องคือหัวใจสำคัญ
แต่ความหลงใหลเพียงอย่างเดียวไม่พอ ส่วนที่หนักหนาที่สุดคือ ความพยายามในวันที่แย่ที่สุด ดั๊กเวิร์ธอธิบายว่า "ความพากเพียรคือการลุกขึ้นมาทำงานแม้วันที่รู้สึกเบื่อ ผิดหวัง หรือพ่ายแพ้ นี่คือเหตุผลที่กริตมีพลังมากกว่าแรงบันดาลใจชั่วคราวอย่างเทียบไม่ติด"
งานวิจัยที่ทำให้ แองเจลา ดั๊กเวิร์ธ เป็นที่รู้จักในระดับโลกมาจากการศึกษานักเรียนทหารกว่า 11,000 คนที่ West Point สถานที่ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความโหดและความเข้มงวดของการฝึก “Beast Barracks” ซึ่งหมายถึงช่วงการฝึกขั้นต้นที่โหดที่สุดของนักเรียนใหม่ที่โรงเรียนนายร้อยทหารบกสหรัฐฯ
เมื่อเทียบปัจจัยทั้งหมด คะแนน SAT, เกรดมัธยม, คะแนนสมรรถภาพร่างกาย สิ่งที่ทำนายได้แม่นที่สุดว่าใครจะรอดพ้นจากสัปดาห์การฝึกสุดโหดกลับเป็น “คะแนนกริต” ไม่ใช่ความฉลาดหรือความแข็งแรง นั่นหมายความว่า ความสามารถในการ “ไม่ยอมแพ้” มีผลจริงในสถานการณ์กดดันสูง
ผลลัพธ์เดียวกันยังพบในเวทีแข่งขันสะกดคำระดับประเทศของสหรัฐฯ เด็กที่มีกริตมากกว่าจะฝึกฝนแบบที่ยากกว่า สนใจงานที่น่าเบื่อนาน ๆ และไปได้ไกลกว่า แม้คะแนนไอคิวจะไม่สูงที่สุดก็ตาม
หนึ่งในแนวคิดที่ถูกพูดถึงมากที่สุดคือ “Effort counts twice” หรือ ความพยายามให้ผลสองชั้น ซึ่งเธออธิบายด้วยสมการง่าย ๆ
ความหมายคือ แม้พรสวรรค์จะช่วยให้เรียนรู้เร็วกว่า แต่จะไร้ค่า หากไม่ลงแรงลองผิดลองถูก ขณะเดียวกันคนที่อาจไม่เก่งแต่แรกสามารถไล่ทันหรือแซงคนเก่งได้ด้วยความพยายามที่มากกว่า
แม้กริตจะเป็นปัจจัยสำคัญ แต่นักจิตวิทยาเองก็ย้ำมาตลอดว่า ความสำเร็จของชีวิตไม่ได้วัดด้วยอย่างเดียว ไม่ว่าจะสุขภาพจิต การสนับสนุนจากครอบครัว สภาพแวดล้อม หรือแม้แต่โอกาสทางสังคม ล้วนมีผลร่วมกัน
งานวิจัยล่าสุดยังพบว่า ในหลายสถานการณ์ “ความสามารถทางปัญญา” ก็เป็นตัวทำนายสำคัญ โดยเฉพาะด้านผลการเรียน และกริตอาจทับซ้อนอยู่กับบุคลิกภาพอย่าง “ความมุ่งมั่นรอบคอบ” ซึ่งนักวิชาการยังถกเถียงกันว่าเป็นเรื่องใหม่จริงหรือเป็นชื่อเรียกใหม่ของสิ่งที่รู้กันอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม แก่นของงานวิจัยยังชัดเจน ศักยภาพติดตัวไม่เคยกำหนดว่าใครจะไปได้ไกลแค่ไหน แต่สิ่งที่กำหนดคือ “เราจะใช้ศักยภาพนั้นอย่างไร”
ที่มา fortune
ข่าวที่เกี่ยวข้อง