
SHORT CUT
Avatar: Fire and Ash – เมื่อไฟแห่งสงครามลุกโชนท่ามกลางเถ้าธุลีของความสูญเสีย และครอบครัวซัลลีต้องยืนหยัดด้วยสายใยรักท่ามกลางโลกแพนดอร่าที่โหดร้ายยิ่งกว่าครั้งใด
เจมส์ คาเมรอน พาผู้ชมกลับสู่ดาวแพนดอร่าอีกครั้งในภาคที่สาม Avatar: Fire and Ash ภาคนี้ยังคงยกระดับงานสร้างให้ยิ่งใหญ่กว่าเดิม ใช้ทีมงานนับพันคนและเวลาสร้างหลายปี เพื่อถ่ายทอดโลกแฟนตาซีของแพนดอร่าให้ออกมาสมจริงและน่าตื่นตา
ภาคนี้สานต่อเรื่องราวของครอบครัวซัลลี นำโดยเจค ซัลลี (แซม เวิร์ธธิงตัน) และเนย์ทีรี (โซอี ซัลดานา) ที่ต้องเผชิญภัยครั้งใหม่บนแพนดอร่า ภายหลังเหตุการณ์ในภาคก่อน ครอบครัวนี้ยังเศร้าโศกกับการสูญเสียลูกชายคนโตจากการต่อสู้ครั้งที่ผ่านมา ความเจ็บปวดนี้กลายเป็นบททดสอบใหญ่ ขณะที่พวกเขาต้องปกป้องสมาชิกที่เหลือจากทั้งศัตรูหน้าเดิมอย่างกองกำลังมนุษย์ RDA ที่ยังคงล่า “ทูลคูน” (วาฬยักษ์แห่งท้องทะเลแพนดอร่า) เพื่อผลประโยชน์ธุรกิจไม่เลิกรา และจากภัยคุกคามใหม่ ๆ ในดินแดนที่ไม่คุ้นเคย
ในภาคนี้ เราจะได้รู้จักชนเผ่านาวีใหม่ ๆ บนดาวแพนดอร่า รวมถึง เผ่าธุลี ซึ่งอาศัยอยู่ในดินแดนภูเขาไฟที่โหดร้าย ชนเผ่านี้กลายเป็นนักรบก้าวร้าวหลังบ้านเกิดของพวกเขาถูกทำลาย ไฟ” ในเรื่องนี้จึงไม่ได้หมายถึงเปลวไฟเพียงอย่างเดียว แต่เป็นสัญลักษณ์ของความเกลียดชัง ความรุนแรง ความโกลาหล และบาดแผลทางจิตใจที่ยังไม่ถูกเยียวยา
ตลอดความยาวกว่า 3 ชั่วโมงของหนัง เราจะได้เห็นการผจญภัยสุดยิ่งใหญ่ แม้เรื่องราวจะเต็มไปด้วยฉากการต่อสู้และภัยอันตรายรอบด้าน
แต่แก่นแท้ของหนังก็ยังคงโฟกัสที่ความสัมพันธ์และชะตากรรมของครอบครัวซัลลีเป็นสำคัญ โดยไม่สปอยล์รายละเอียดสำคัญ เราสามารถบอกได้ว่าภาคนี้คือบททดสอบครั้งมโหฬารของทั้งครอบครัว ที่ต้องเผชิญทั้งศึกภายนอกและบาดแผลภายในจิตใจของแต่ละคน
เจมส์ คาเมรอนได้กล่าวไว้ว่าเขาเลือกที่จะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ “ครอบครัว” เพราะตัวเขาเองก็มีลูกถึง 5 คน จึงอยากถ่ายทอดประสบการณ์และความรู้สึกเหล่านั้นลงไปในโลกแฟนตาซีแห่งแพนดอรา เพื่อให้ผู้ชมทั่วโลก “เข้าถึง” เรื่องราวและตัวละครเหล่านี้ได้ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ใด ดังนั้น Avatar: Fire and Ash จึงมีหัวใจสำคัญอยู่ที่สายใยรักและความขัดแย้งภายในครอบครัวซัลลี เราจะได้เห็นแต่ละตัวละครต้องต่อสู้กับความทุกข์ในใจตนเองจากการสูญเสีย และเรียนรู้ที่จะเยียวยาซึ่งกันและกันในฐานะครอบครัว
คาเมรอนเน้นย้ำว่าภาคนี้ไม่ใช่แค่ตอนต่อธรรมดา ๆ แต่คือบทสรุปของเรื่องราวชุดนี้ ที่ผลักดันตัวละครทุกตัวไปถึงขีดสุดในสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยอันตราย ความเจ็บปวด และหัวใจที่แตกสลาย มากกว่าที่เราเคยเห็นในหนัง Avatar ภาคใดๆ ตัวหนังนำเสนอภาพของครอบครัวที่ต้องเผชิญวิกฤตหลายด้าน ทั้งภัยจากมนุษย์ผู้ละโมบ ภัยจากชนเผ่าที่เคียดแค้น และความรู้สึกผิดบาปหรือความเศร้าในใจกันเอง แต่สุดท้ายแล้วสิ่งที่ยึดเหนี่ยวพวกเขาไว้คือความรักความผูกพันของคำว่าครอบครัว ที่ทำให้ยืนหยัดต่อสู้เคียงข้างกันได้จนถึงที่สุด
แม้ตัวหนังจะเล่าบทซ้ำกับภาคเก่าๆ อยู่ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า มันคือสูตรสำเร็จที่สนุก และครบทุกอารมณ์ เป็นหลักฐานว่าดาวแพนดอร่ายังคงเต็มไปด้วยเสน่ห์ให้เราได้ตามต่ออีกยาว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง