
SHORT CUT
ศรัทธา "ซื้อขาย" ได้จริงหรือ? เมื่อ 'สาธุ ๒' พาเราเข้าสู่ 'เมกะโปรเจกต์บุญ' ที่กลายเป็นกลไกเอื้อประโยชน์ทางการเมือง ซีรีส์นี้อาจเป็น "กระจกสะท้อนสังคม" ที่เรียกร้องให้เรากล้าตั้งคำถามกับสิ่งที่ "เคยเชื่อ" ว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรตั้งคำถาม
คุณเคยมอง "ศรัทธา" เป็น Investment หรือไม่? ซีรีส์ "สาธุ" ภาคแรกได้เปิดบาดแผลทางสังคมอย่างรุนแรงว่า ภายใต้ผ้าเหลืองและแรงศรัทธา มักมี "ธุรกิจ" แฝงอยู่เสมอ และมันทำเงินได้มหาศาล จนกลายเป็น "Soft Power" ที่ทรงอิทธิพลที่สุดของไทย วันนี้ 'สาธุ ๒' กำลังกลับมา แต่ไม่ได้มาแค่ "เล่าต่อ" ว่าอะไรเกิดขึ้นกับแก๊งวิน-เกม-เดียร์ แต่กำลังจะพาเราไปตั้งคำถามที่ใหญ่กว่าเดิม
ในภาคนี้ วิน (เจมส์-ธีรดนย์), เกม (พีช-พชร), และเดียร์ (แอลลี่-อชิรญา) ถูกบีบให้กลับมาสู่เกมค้าบุญอีกครั้ง แต่คราวนี้สนามแข่งไม่ใช่แค่การกู้หนี้ หรือการปั้นวัดเล็ก ๆ ให้โด่งดังอีกต่อไป แรงกดดันหลักมาจาก ส.จ.เอ๋ (โดนัท-มนัสนันท์) ผู้ซึ่งใช้อำนาจทางการเมืองท้องถิ่นบีบบังคับให้ "กัลยาณมิตร" ทั้งสามต้องรับผิดชอบ "เมกะโปรเจกต์บุญ" ชิ้นใหม่ ที่ไม่ได้จบเพียงการชำระหนี้กรรม แต่คือการเดินเข้าสู่เกมที่เดิมพันด้วยชีวิต
ตามมุมมองของผู้กำกับ วรรธนพงศ์ วงศ์วรรณ บอกว่า "สาธุ ๒ คือเรื่องราวของกลุ่มคนที่จะพยายามเล่นกับระบบ แต่แท้จริงแล้ว ระบบกำลังเล่นกลุ่มคนพวกนี้กลับ" แม้ว่าจะยังยกประเด็นพุทธศาสนาให้เป็นแกนหลัก แต่ขยายออกไปถึงประเด็นของนักการเมืองท้องถิ่น ซึ่งทั้ง 2 ประเด็นมีความเกี่ยวพันกันในด้านของการใช้ระบบและอำนาจ ที่ถูกออกแบบหรือใช้งานเพื่อเอื้อประโยชน์แก่กลุ่มผู้มีอำนาจ
ผู้กำกับได้ย้ำว่าแกนหลักของภาคนี้คือ "พุทธศาสนา" ที่ขยายไปถึง "นักการเมืองท้องถิ่น" ซึ่งทั้งสองประเด็นเกี่ยวพันกันในแง่ของการใช้ "ระบบและอำนาจ" เพื่อชักจูงใจผู้คน ซีรีส์ไม่ได้โจมตี "ศาสนา" แต่กำลังฉายแสงไปที่การใช้ศาสนาเป็นเครื่องมือ ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในหลายพื้นที่ การที่ สาธุ ๒ พาเราไปเห็นภารกิจที่สเกลใหญ่ขึ้น และ การเดิมพันที่เสี่ยงมากขึ้น คือการบีบให้ผู้ชมต้องมองเห็นว่า "โครงสร้างอำนาจที่ซ่อนอยู่" นั้นแข็งแกร่งและซับซ้อนกว่าที่เราคิดมาก
ตัวละครที่สร้างไวรัลและกระแสความคิดเห็นอย่างสูงในภาคแรกคือ พระดล (ปั๊บ-พัฒน์ชัย ภักดีสู่สุข) แต่ 'สาธุ ๒' พลิกมาในบทบาทของ "ฆราวาส" ผู้ซึ่งสึกออกมาเพื่อ ค้นหาความหมายของศรัทธาและตัวตน" ในโลกภายนอกที่เขาไม่เคยสัมผัสมาก่อน เป็นจุดที่น่าสนใจมาก
การกระทำของพระดลเป็นการตั้งคำถามถึงแก่นแท้ของศรัทธา การค้นหาความจริงและความบริสุทธิ์ของคำสอน ต้องทำ "ภายใน" หรือ "ภายนอก" องค์กรศาสนาที่เต็มไปด้วยผลประโยชน์และอำนาจ บางที การก้าวออกมาสู่โลกภายนอก อาจเป็นวิธีการ "ปฏิรูปความเชื่อ" ที่ทรงพลังที่สุดสำหรับเขาและผู้คนรอบข้าง
เมื่อลองมองในสถานการณ์จริงที่ไม่ใช่ในซีรีส์ ส.จ. หรือนักการเมือง มักใช้ "เมกะโปรเจกต์บุญ" (เช่น การสร้างศาสนสถานขนาดใหญ่, งานบุญประจำปี) เป็นเครื่องมือในการสร้างภาพลักษณ์ สร้างศรัทธานิยม ขณะเดียวกันก็เป็นการขยายฐานเสียง, ช่องทางกระจายข่าวสารไปยังชุมชนผ่านเครือข่ายวัด ไม่นับเรื่องเงินในการบริจาค การจัดสรรงบประมาณ (ทั้งส่วนตัวและส่วนท้องถิ่น) ที่เราเห็นตามหน้าหนังสือพิมพ์จริงๆ ว่าเอาไปทำอะไร โปร่งใสแค่ไหน เป็นคำถามที่มีข้อกังขามากมายในใจ แต่เราไม่เคยพูดออกมา คิดเพียงแค่ว่า "ตั้งใจทำบุญแล้ว ก็ช่างมัน ใครจะทำอะไรก็แล้วแต่บุญกรรม"
'สาธุ ๒' ที่จะสตรีม 4 ธันวาคมนี้ ทาง Netflix อาจจะไม่ใช่แค่ซีรีส์ดราม่า แต่เป็นเหมือน "กระจกสะท้อนสังคม" ที่เรียกร้องให้เราทุกคนหยุดคิด และกล้าที่จะตั้งคำถามกับสิ่งที่สังคม "เคยเชื่อ" ว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรตั้งคำถาม เมื่อนั้นแหละ... การเปลี่ยนแปลงทางความคิดที่แท้จริงจึงจะเกิดขึ้นได้
ข้อเท็จจริงที่เราไม่อาจปฏิเสธได้ คือ ศรัทธาส่วนบุคคลนั้นบริสุทธิ์ แต่เมื่อมันมาบรรจบกับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและการเมือง "พลัง"ของความเชื่อนั้น ก็จะถูกบิดเบือนไปเป็น "เครื่องมือ" ทันที