
“ความปลอดภัยของผู้หญิง” อยู่ที่ตรงไหนในโลกออนไลน์ - ผู้หญิงและเด็กผู้หญิงราว 16-58% ยังคงต้องเผชิญกับความรุนแรงบนโลกออนไลน์
เราก้าวเข้าสู่ปี 2026 ในอีกไม่ช้า ปีที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และนวัตกรรมดิจิทัลพัฒนาไปไกลจนแทบไร้ขีดจำกัด แต่ในขณะที่โลกหมุนไปข้างหน้า สถิติที่น่าตกใจกลับฉุดรั้งเราไว้กับปัญหาเดิมที่ทวีความรุนแรงขึ้น นั่นคือ “ความปลอดภัยของผู้หญิง”
ตัวเลขล่าสุดระบุชัดเจนว่า ผู้หญิงและเด็กผู้หญิงราว 16-58% ยังคงต้องเผชิญกับความรุนแรงบนโลกออนไลน์ นี่ไม่ใช่ตัวเลขที่ควรเกิดขึ้นในยุคสมัยนี้ แต่กลับเป็นความจริงที่โหดร้าย เมื่อเทคโนโลยีถูกนำมาใช้เป็นอาวุธ ไม่ว่าจะเป็นการสะกดรอยตาม (Stalking), การคุกคามผ่านคอมเมนต์ต่างๆ , หรือที่เลวร้ายที่สุดคือการใช้เทคโนโลยี Deepfake ซึ่งพบว่า 90-95% ของวิดีโอ Deepfake ที่ถูกสร้างขึ้น คือภาพลามกอนาจารของผู้หญิง
โจทย์ใหญ่ในไทยและทั่วโลก คือการยุติความรุนแรงบนโลกออนไลน์ เพราะความรุนแรงทางเพศไม่ได้จำกัดอยู่แค่การถูกเนื้อต้องตัวอีกต่อไป แต่ได้ขยายขอบเขตไปสู่พื้นที่ดิจิทัล อย่างที่ทราบๆกันดี
หาก “ทัศนคติ” ของคนในสังคมยังไม่เปลี่ยน ในไทยก็ยังคงต้องเจอกับความท้าทายสำคัญที่สังคมไทยต้องปลดล็อก เพื่อยุติวงจรการคุกคามทางเพศ (Sexual Harassment) ให้ได้ต่อไป
1. เลิกมองการคุกคามให้เป็นเรื่องปกติ (Normalization): สังคมไทยมักมองว่าการแซวผู้หญิงเป็นเรื่องขำขัน หรือเรื่องธรรมดา แต่แท้จริงแล้ว พฤติกรรมเหล่านี้คือจุดเริ่มต้นของภัยคุกคามที่รุนแรงกว่า เช่น การสะกดรอยตาม (Stalking) การเพิกเฉยต่อสิ่งเล็กน้อยเหล่านี้ คือการเปิดประตูให้ความรุนแรงก่อตัวขึ้น
2. ทลายกรอบบทบาททางเพศ (Gender Roles): มายาคติที่ว่าผู้ชายต้องเข้มแข็ง ทำให้สังคมมองข้ามเหยื่อที่เป็นผู้ชายและกลุ่ม LGBTQ+ การยึดติดกับกรอบเพศสภาพเดิมๆ ทำให้คนกลุ่มนี้ถูกละเลยและไม่ได้รับการปกป้อง ทั้งที่ความรุนแรงทางเพศสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน
3. หยุดลดทอนความรุนแรงของปัญหา (Trivialization): วาทกรรมที่ว่า “เรื่องผัวเมีย” หรือ “เรื่องส่วนตัว” ต้องหมดไปเสียที
สังคมต้องเลิกมองว่าปัญหาความรุนแรงทางเพศเป็นเรื่องเล็กเมื่อเทียบกับปัญหาเศรษฐกิจหรือการเมือง ความคิดเช่นนี้คือการลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์ เราต้องตระหนักว่าปัญหาความรุนแรงทางเพศ “สำคัญ” ไม่น้อยไปกว่าปัญหาปากท้องหรือความขัดแย้งระหว่างประเทศ และทุกปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขไปพร้อมๆ กันได้โดยไม่ต้องเลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่ง
ไม่ว่าเราจะอยู่ในโลกจริงหรือโลกเสมือน และไม่ว่าเทคโนโลยีจะก้าวล้ำไปเพียงใด รากฐานสำคัญของการยุติความรุนแรงไม่ใช่แค่เรื่องของการต่อสู้เพื่อ “เพศสภาพ” เท่านั้น
ปัญหาความรุนแรงทางเพศ โดยเนื้อแท้แล้วคือปัญหาเรื่อง “สิทธิมนุษยชน” และ “ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์”
แม้สังคมจะขัดเกลาหรือหล่อหลอมเราด้วยความเชื่อแบบใด หรือเทคโนโลยีจะเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตเราไปมากแค่ไหน แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องไม่เปลี่ยนแปลงและต้องได้รับการเคารพสูงสุด คือ ‘ความเป็นมนุษย์’ ที่มีอยู่ในตัวเราทุกคน
การตระหนักรู้ในประเด็นนี้ คือเกราะป้องกันที่ดีที่สุดที่จะทำให้ปี 2026 และปีต่อๆ ไป เป็นปีที่ปลอดภัยสำหรับทุกคนอย่างแท้จริง
ที่มา : unwomen.org plan-international who.int
ข่าวที่เกี่ยวข้อง