สงกรานต์ โทรศัพท์เปียกน้ำ น้ำเข้ามือถือ ทำไงดี เปิด 7 ขั้นตอน กู้ชีพมือถือ

เปิด 7 ขั้นตอน กู้ชีพมือถือด้วยตัวเองง่าย ๆ หากโทรศัพท์เปียกน้ำแล้ว น้ำเข้ามือถือ ต้องทำอย่างไร ? ย้ำ ห้ามเปิดมือถือทันทีหลังน้ำเข้า

แม้โทรศัพท์สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่จะเคลมว่า ป้องกันน้ำเข้าได้(ระดับหนึ่ง) รวมทั้งชาวเน็ตฯ ต่างนำมาทดลองโดยการทิ้งไว้ในตู้ปลาบ้าง เพื่อโชว์ศักยภาพการป้องกันน้ำของโทรศัพท์มือถือ แต่รู้หรือไม่ว่า ไม่ว่าค่ายมือถือจะเคลมว่ากันน้ำ ก็ไม่ได้แปลว่าน้ำจะไม่เข้าหรือ กันน้ำได้ 100% โดยเฉพาะในเทศกาลสงกรานต์ แต่เมื่อน้ำเข้าโทรศัพท์มือถือ ควรทำอย่างไรดี ?

อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง

7 ขั้นตอนหลังรู้ว่าน้ำเข้ามือถือ ต้องทำอย่างไร ?

ปิดเครื่องทันที เพื่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร ห้ามเปิดทันทีหลังน้ำเข้า
เช็ดเครื่องให้แห้ง แต่หากโดนน้ำหวานหรือน้ำทะเลให้กัดใจนำน้ำสะอาดเทลงไปชะล้างคราบก่อน 1 ครั้ง โดยเป็นการราดผ่านโทรศัพท์ที่ถือเอียง 45 องศา ห้ามนำกลับไปแช่ในอ่างหรือขันอีกรอบเด็ดขาด
เขย่าเครื่องเบา ๆ หรือ สะบัดน้ำให้ออกจากซอกต่าง ๆ เช่น ช่องเสียบชาร์จและรูหูฟัง
ถอดซิมการ์ด
เป่าให้แห้ง หากใช้ไดเป่าผม อย่าเปิดโหมดลมร้อน
ใส่ถุงแล้วแช่ในถังข้าวสาร หรือ ใส่ในกล่องที่มี ซิลิก้า เจล (เม็ดดูดความชื้น)
รอจนกว่าความชื้นจะออกไปหมด ขั้นต่ำ 5 ชั่วโมง และอาจใช้เวลานานถึง 1-3 วัน

7 ขั้นตอนหลังรู้ว่าน้ำเข้ามือถือ ต้องทำอย่างไร ?

ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่น้ำเข้าว่านานหรือไม่ ? ลักษณะที่น้ำเข้าว่าเข้าไปในจุดสำคัญจนทำให้ไฟฟ้าลัดวงจรหรือไม่ ? อายุของโทรศัพท์ซึ่งหากผ่านไปหลายปี ยากซีลกันน้ำอาจเสือมสภาพแล้ว โดยวิธีดังกล่าวไม่ได้การันตี 100% ว่าโทรศัพท์จะกลับมาใช้ได้ จึงต้องพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ ประกอบด้วย ซึ่งค่ายโทรศัพท์มือถือส่วนใหญ่เคลมว่า ป้องกันน้ำเข้าได้นิดหน่อย แต่ไม่รับเคลมอาการน้ำเข้า

รู้หรือไม่ ? น้ำทะเล-น้ำเย็น เป็นศัตรูตัวสำคัญของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

น้ำทะเล เมื่อเข้าไปในแผงวงจร หลังจากแห้งแล้วจะทิ้งคราบเกลือไว้ ทำให้มือถือ-กล้องลัดวงจร
น้ำเย็น ทำให้เกิดความชื้น ในจุดที่มีช่องว่างอยู่ เช่น เลนส์กล้อง และแผงวงจรต่าง ๆ ทำให้ลัดวงจร