svasdssvasds

เปิดตัวเลข ที่ดิน ส.ป.ก.ทั่วไทย ก่อนนโยบาย ธรรมนัส แจกเกษตรกรเกินครึ่ง

เปิดตัวเลข ที่ดิน ส.ป.ก.ทั่วไทย  ก่อนนโยบาย ธรรมนัส แจกเกษตรกรเกินครึ่ง

เช็กลิสต์ ที่ดิน ส.ป.ก.ทั่วประเทศ มีพื้นทีเท่าไร ? โดย ศูนย์ข่าวสืบสวน เนชั่น สืบค้นข้อมูล แล้วพบว่า พื้นที่เกษตรกรรมอยู่ใน 67 จังหวัด เนื้อที่กว่า 35 ล้านไร่ ก่อนนโยบายแปลงโฉนดยุค ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า เตรียมแจกเกษตรกรกว่า 1.6 ล้านราย 22 ล้านไร่

ประเด็นการแจก ที่ดินด้านเกษตรกรรมให้กับเกษตรกรทั่วประเทศ  นับเป็นหนึ่งในนโยบาย “เสาหลัก” ที่ปฏิบัติกันมาในทุกรัฐบาล เช่นเดียวกับรัฐบาล “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี คนที่ 30  โดยใช้กลไกผ่านคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ หรือ “คทช.”

นโยบาย แจกที่ดินด้านเกษตรกรรมให้กับเกษตรกรทั่วประเทศ นั้น , “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” รมว.เกษตรและสหกรณ์ หนึ่งในโต้โผสำคัญที่ริเริ่มโครงการดังกล่าวมาตั้งแต่สมัยเป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในรัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา  เป็นฟันเฟืองในการผลักดัน และกำลังจะคิกออฟอย่างเป็นทางการในช่วงต้นปี 2567  

โดยในช่วงเวลานั้น เขาดำเนินการยึดที่ดินจากบุคคลซึ่งครอบครองโดยมิชอบหลายพันไร่ กรณีสำคัญเช่น การยึดสวนส้มชื่อดังใน จ.เชียงใหม่ กว่า 7-8 พันไร่ การยึดที่ดินที่ถูกครอบครองโดยมิชอบ 2,432 ไร่ การลงพื้นที่ตรวจสอบฟาร์มเลี้ยงไก่ของ “ปารีณา ไกรคุปต์” อดีต สส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ซึ่งมีที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 กว่า 682 ไร่ เป็นต้น

แต่การขับเคลื่อนดังกล่าวยังไม่ทันสำเร็จเป็นรูปเป็นร่างมากนัก ก็ถูกปลดออกจากตำแหน่งแบบ “ฟ้าผ่า” ออกจากตำแหน่ง รมช. เนื่องจากถูกครหาว่าอาจเกี่ยวพันกับปฏิบัติการ “เลื่อยขาเก้าอี้นายกฯ” ช่วงซักฟอกรัฐบาลประยุทธ์เมื่อปลายปี 2564

ส.ป.ก. ระบุว่า ที่ดินรวมทั้งประเทศมีจำนวน 72 จังหวัด ใน 726 อำเภอ 3,667 ตำบล  โดยมีผู้ครอบครอง 2,996,068 ราย จำนวน 3,843,399 แปลง เนื้อที่ 36,582,232 ไร่

กระทั่งกลับมามีบทบาทอีกครั้งช่วงก่อนการเลือกตั้ง 2566 หลังจากนั้นเมื่อ “สมการการเมือง” เปลี่ยนไปจากเดิม  และสุดท้ายแล้ว สูตรคณิตศาสตร์การจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง 2566 มาลงเอยที่  “เพื่อไทย” เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ จนได้ 

จากนั้น ในเวลาต่อมา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ยังได้รับความไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่ง รมว.เกษตรฯ (ถือว่าได้งาน กระทรวงเดิม แต่ครั้งนี้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ขยับขั้นขึ้นเป็นหัวเรือใหญ่แห่งกระทรวงเลย)  เขาจึงเดินเกมสานต่อนโยบายแปลงที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 ให้กับเกษตรกรอีกครั้ง

โดยในมติคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (คปก.) เมื่อ 12 ต.ค. 2566 ที่ผ่านมา ที่มี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า นั่งหัวโต๊ะเป็นประธาน และเคาะมติเห็นชอบหลักการ “แปลงที่ดิน” ส.ป.ก. 4-01 เป็นโฉนดให้แก่เกษตรกรหากถือครองครบกำหนด 5 ปี คิกออฟเป็น “ของขวัญปีใหม่” ให้แก่ประชาชนได้ตั้งแต่วันที่ 15 ม.ค. 2567 เป็นต้นไป

โดยหลักการแปลงที่ดินดังกล่าวมีหลักเกณฑ์และเงื่อนไขสำคัญ 5 ข้อคือ

1) การจัดที่ดินยังคงเป็นไปเพื่อประกอบเกษตรกรรมตามศักยภาพของพื้นที่ 
2) สามารถเปลี่ยนมือได้ระหว่างเกษตรกรที่มีคุณสมบัติด้วยกันตามที่กฎหมายกำหนด 
3) ต้องปลูกไม้มีค่าในพื้นที่ตามสัดส่วนที่ ส.ป.ก. กำหนด 
4) สามารถใช้ค้ำประกันเงินกู้กับสถาบันการเงินได้ทุกแห่ง โดยเฉพาะสถาบันการเงินของรัฐ 
5) ต้องถือครอง ส.ป.ก. 4-01 และทำประโยชน์มาไม่น้อยกว่า 5 ปี 

ทั้งนี้มีเกษตรกร ที่เข้าเงื่อนไข จำนวน 1,628,520 ราย เอกสารสิทธิรวม 2,205,561 ฉบับ เนื้อที่รวม 22,079,407.67 ไร่ โดย ส.ป.ก. จะทำหน้าที่เป็นนายทะเบียนในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมต่าง ๆ เพื่อความโปร่งใสและตรวจสอบได้

โดย เกษตรกรไม่ต้องทำอะไรเลย ไม่ต้องลงทะเบียน หากมีคุณสมบัติการถือครอง และทำประโยชน์ในที่ดินมาไม่น้อยกว่า 5 ปีก็เข้าเงื่อนไขที่จะได้รับประโยชน์ 

อย่างไรก็ตาม รัฐให้ เกษตรกร รายละไม่เกิน 50 ไร่  โดย ร้อยเอกธรรมนัส ระบุว่า การเปลี่ยนส.ป.ก. 4-01 เป็น “โฉนดที่ดินเพื่อเกษตรกรรม” จะให้ถือครองได้ไม่เกินรายละ 50 ไร่เท่านั้น โดยจะมีการประเมินราคาที่ดินใหม่ในแต่ละจังหวัด ร่วมกับกรมธนารักษ์ โดยฝ่ายกฎหมายกำลังขับเคลื่อนอยู่ ระหว่างนี้จะให้ ส.ป.ก.แต่ละจังหวัดติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงาน

เปิดที่ดิน ส.ป.ก.ทั่วประเทศ 35 ล้านไร่ ภาคเหนือมากสุด 6.3 ล้านไร่ ก่อนนโยบาย ‘ธรรมนัส’ แจกเกษตรกรเกินครึ่ง  
เก็บค่าเช่าแทนรื้อถอน

ร้อยเอกธรรมนัส  ให้ ข้อมูลเพิ่มเติม อีกว่า หากในที่ดิน ส.ป.ก.มีการสร้างเป็นโรงแรม โรงเรียน มหาวิทยาลัย ตลาด หรือปั๊มน้ำมัน หรืออื่น ๆ แล้วก่อนหน้านี้ หากจะไปไล่รื้อ หรือทุบทิ้ง ทำให้เกิดการทะเลาะกัน ไม่เกิดประโยชน์ใดๆ  ในเรื่องนี้ได้ให้นโยบายในการเปลี่ยนเป็นการเก็บค่าเช่าที่ดินเพื่อนำเข้ากองทุน ส.ป.ก. ปัจจุบันกองทุนส.ป.ก. มีวงเงินสะสมอยู่ที่ประมาณ 4,000 ล้านบาท 

หากเก็บเต็มเม็ดเต็มหน่วยเชื่อว่าจะได้ตรงนี้ไม่ต่ำกว่า 1-2 หมื่นล้านบาทต่อปีเพื่อเข้ากองทุน โดยไม่ต้องใช้งบประมาณของรัฐบาลมาอุดหนุนเกษตรกร เพราะที่ส.ป.ก.4-01 มีจำนวนมากที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าว โดยจะใช้ข้อกฎหมายการใช้พื้นที่ชุมชนทำเรื่องนี้ให้ถูกต้อง

เบื้องต้นตรวจสอบข้อมูลการถือครองที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 ที่อยู่ในมือของสำนักงานคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือ “ส.ป.ก.” มาให้ทราบดังนี้

โดยรายงานสรุปการจัดพื้นที่ทั้งประเทศ ของที่ดิน 3 ประเภท คือ ที่ดินเกษตรกรรม ที่ดินชุมชน และที่ดินเอกชน เมื่อเดือน ส.ค. 2566 ของ ส.ป.ก. ระบุว่า ที่ดินรวมทั้งประเทศมีจำนวน 72 จังหวัด ใน 726 อำเภอ 3,667 ตำบล โดยมีผู้ครอบครอง 2,996,068 ราย จำนวน 3,843,399 แปลง เนื้อที่ 36,582,232 ไร่

แบ่งเป็นพื้นที่ตามภาคต่างๆดังนี้ 

  • ภาคเหนือ 17 จังหวัด 179 อำเภอ 957 ตำบล ครอบครอง 722,770 ราย 954,243 แปลง เนื้อที่ 6,366,225 ไร่
  • ภาคกลาง 21 จังหวัด 127 อำเภอ 546 ตำบล ครอบครอง 347,161 ราย 443,490 แปลง เนื้อที่ 5,761,343 ไร่
  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด 298 อำเภอ 1,662 ตำบล ครอบครอง 1,654,778 ราย 2,068,787 แปลง เนื้อที่ 18,594,052 ไร่ 
  • ภาคใต้ 14 จังหวัด 122 อำเภอ 502 ตำบล ครอบครอง 271,359 ราย 376,879 แปลง เนื้อที่ 3,860,612 ไร่

 

• จำแนก ที่ดิน 2 ส่วน ที่เกษตรกรรม และ ที่ชุมชม


หากจำแนกรายละเอียด จะพบว่า ที่ดินของรัฐ คือที่ดินเกษตรกรรม และที่ดินชุมชน ซึ่งได้รับอนุญาตหรืออนุมัติจากปฏิรูปที่ดินจังหวัด หรือคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัด โดยเป็นที่ดิน ส.ป.ก. ได้มาตามมาตรา 26 แห่ง พ.ร.บ.การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมฯ เช่น ที่ดินป่าสงวนแห่งชาติ ที่ดินป่าสเสื่อมโทรม ที่ได้มาจากกรมป่าไม้ตามมติ ครม. ที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 เป็นต้น แบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่

ที่เกษตรกรรม มีจำนวน 67 จังหวัด ครอบครอง 2,313,356 ราย จำนวน 3,100,349 แปลง เนื้อที่ 35,635,400 ไร่

ที่ชุมชม มีจำนวน 62 จังหวัด ครอบครอง 647,619 ราย จำนวน 696,525 แปลง เนื้อที่ 409,519 ไร่

ส่วนที่ดินเอกชน คือที่ดินที่ ส.ป.ก.ได้มาตามมาตรา 25 ทวิ หรือมาตรา 29 แห่ง พ.ร.บ.การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมฯ ได้แก่ ที่ดินพระราชทาน ที่ดินบริจาค ที่ราชพัสดุ และที่ดินเอกชนที่ ส.ป.ก.จัดซื้อโฉนดที่ดินหรือ นส.3 มาจากเอกชน หรือการจัดให้เช่าซื้อจากเอกชน มี 55 จังหวัด ครอบครอง 35,093 ราย จำนวน 46,525 แปลง เนื้อที่ 537,313 ไร่

ดังนั้น หากพิจารณาจากมติ คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือ ค.ป.ก. ที่เตรียมยกระดับโฉนดที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ซึ่งจะมีการเริ่มต้นอย่างเป็นทางการในช่วงต้นปี 2567 ตามที่เป็นกระแสในช่วงต้นเดือน ตุลาคม ที่ผ่านมานั้น จะพบว่า อยู่ในเงื่อนไขของที่เกษตรกรรม ซึ่ง ส.ป.ก.ครอบครองใน 67 จังหวัด 2,313,356 ราย จำนวน 3,100,349 แปลง เนื้อที่ 35,635,400 ไร่ โดยในจำนวนนี้มีเกษตรกรเข้าเงื่อนไข 1,628,520 ราย เอกสารสิทธิ 2,205,561 ฉบับ เนื้อที่ 22,079,407 ไร่ เท่ากับว่า “เกินครึ่ง”

ทั้งหมดนี้ คือข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับที่ดิน ส.ป.ก.ซึ่งกำลังถูกยกระดับแปลงเป็น “โฉนด” เพื่อผลประโยชน์ของเกษตรกรในหลายจังหวัด กว่า 22 ล้านไร่ ทั่วประเทศ 

ที่มา : ศูนย์ข่าวสืบสวนเนชั่น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related