svasdssvasds

นายกฯ ตอบ สุทธิชัย หยุ่น ตอนนี้มีนายกแค่คนเดียวคือ “เศรษฐา ทวีสิน”

นายกฯ ตอบ สุทธิชัย หยุ่น ตอนนี้มีนายกแค่คนเดียวคือ “เศรษฐา ทวีสิน”

นายกฯ ตอบ สุทธิชัย หยุ่น ประเทศไทยเค้าก็มีนายกคนเดียวทั้งนั้นแหละครับ มีแต่คุณสิทธิชัย เท่านั้นที่ อยากให้มีสองหรือสามคน

“สุทธิชัย หยุ่น” สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์คำถามนี้ โพสต์คำถามนี้ลงใน x ของตัวเองหลังจากมีภาพ “เศรษฐา” นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของไทย ก้มลงจูบมือ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร หลังที่ประชุมใหญ่วิสามัญพรรคเพื่อไทย “อุ๊งอิ๊ง” ขึ้นเป็น “หัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2566

ต่อมาในวันที่ 28 ตุลาคม 2566 นายเศรษฐา จึงเข้ามาตอบโพสต์ของ สุทธิชัย หยุ่น สั้นๆ แต่ชัดเจนว่า “คนเดียวครับ เศรษฐา ทวีสิน” และโพสต์อีกครั้งว่า “ประเทศไทยเค้าก็มีนายกคนเดียวทั้งนั้นแหละครับ มีแต่คุณสิทธิชัย เท่านั้นที่ อยากให้มีสองหรือสามคน มันเป็นไปไม่ได้หรอกครับ”

นอกจากนี้ นายเศรษฐา ยังได้ชี้แจงถึงกรณีดังกล่าวอีกว่า ตนแสดงความยินดีโดยโค้งคำนับจูบมือตัวเอง เพราะนางสาวแพทองธาร เป็นหัวหน้าครอบครัวพรรคเพื่อไทย และตนก็เหมือนพี่น้องกับคุณอิ๊งค์ และยังเป็นที่ปรึกษาครอบครัวเพื่อไทยที่ร่วมต่อสู้หาเสียงด้วยกันมา ซึ่งเรามีความรัก ความเมตตา ความเอ็นดู และมีความห่วงใยกันมาก ซึ่งมันเป็นการแสดงออกถึงความสัมพันธ์ของเรา โดยเรามีความเป็นห่วงซึ่งกันและกันอยู่แล้ว 

 

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กับ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร  หัวหน้าพรรคเพื่อไทย 27 ตุลาคม 2566

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์การเมืองคนอื่น ๆ ก็ได้ออกมาวิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมของนายเศรษฐา โดยนายพิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ผอ.หลักสูตรการเมืองและยุทธศาสตร์การพัฒนา สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ออกมาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “เห็นภาพคนเป็นนายกปฏิบัติกับแพทองธาร ดูไม่เหมาะกับการดำรงตำแหน่งอย่างยิ่ง ลาออกไปเสียเถอะ อยู่ไปยิ่งทำให้ศักดิ์ศรีของตำแหน่งดูด้อยลง”

ส่วนนาย จตุพร พรหมพันธุ์ ก็ได้แสดงความคิดเห็นต่อประเด็นนี้ว่า “การแสดงความเคารพตามวิถีไทยมีหลายวิธี แต่จุมพิตคือเรื่องประหลาด เนื่องจากคนเป็นผู้นำประเทศไม่ควรทำแบบนี้”

เมื่อเรื่องมาถึงจุดนี้ มีบางฝ่ายมองว่านี่อาจเป็นการ “เปลี่ยนม้ากลางศึก” เพราะก่อนหน้านี้ นายเศรษฐาก็เคยเล่นมุกกับช่างภาพ ขณะไปดูภาพยนตร์เรื่อง สัปเหร่อที่มี อุ๊งอิ๊ง และ ทีม ครม.รวมอยู่ด้วย ว่า “มีนายยก 2 คน” ทำให้เกิดการตีความว่า อุ๊งอิ๊ง คือว่าที่นายกรัฐมนตรีคนต่อไป เนื่องจากเวลานี้รัฐบาลกำลังถูกตรวจสอบเรื่องการโครงการ แจกเงิน "ดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท" จากทั้งฝ่ายค้าน ป.ป.ช และประชาชน

ถ้าผลออกมาไม่เป็นอย่างที่คิด พรรคเพื่อไทยอาจแพ้พรรคก้าวไกลในการเลือกตั้งครั้งหน้า และอุ๊งอิ๊งก็อาจจะหมดโอกาสเป็นนายก ซึ่งคงเป็นเรื่องที่พรรคเพื่อไทยไม่ยอมให้เกิดขึ้น ดังนั้นการเร่งผลักดันให้ อุ๊งอิ๊ง รีบขึ้นมาเป็นนายกฯ ขณะที่ยังพวกของตนยังเป็นรัฐบาล ก็อาจเป็นหนึ่งในทางเลือกที่พรรคเพื่อไทยอยากทำก็ได้

สุดท้ายการ “เปลี่ยนม้ากลางศึก” จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ก็คงต้องรอดูสถานการณ์กันต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บอร์ดประกันสังคม สำคัญอย่างไร เช็กวิธีลงทะเบียนเลือกตั้ง ลงคะแนน 24 ธ.ค. 66

กระทรวงพลังงานอวดผลงาน 60 วัน ลดทุกอย่าง ค่าน้ำมัน ค่าไฟ ค่าแก๊สหุงต้ม

"มาดามเดียร์” เยือนอินโดฯ แลกเปลี่ยนมุมมองประชาธิปไตยในเอเชียให้เข้มแข็ง

 

 

related