svasdssvasds

ชัยธวัช หัวหน้าก้าวไกล เดือดปรอทแตก! ซัด นายกฯ เศรษฐา ไม่ยอมตอบกระทู้

ชัยธวัช หัวหน้าก้าวไกล เดือดปรอทแตก! ซัด นายกฯ เศรษฐา ไม่ยอมตอบกระทู้

นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน เข้าสภาตอบกระทู้สดครั้งแรก ตอบทุกกระทู้ ยกเว้นของหัวหน้าพรรคก้าวไกล มอบ รมว.ยุติธรรมตอบแทน ด้าน สส.ก้าวไกลท้วงไม่แจงเหตุจำเป็นตามข้อบังคับ เรื่องนี้ ทำสภาฯไทย เดือดสุดๆ

ไม่ตอบกระทู้ “ก้าวไกล” จุดเริ่มต้นของความเดือด! - นายกฯ เศรษฐาทวีสิน เข้าสภาตอบกระทู้สดครั้งแรก ตอบทุกกระทู้เว้นของหัวหน้าพรรคก้าวไกล มอบ รมว.ยุติธรรมตอบแทน ด้าน สส.ก้าวไกลท้วงไม่แจงเหตุจำเป็นตามข้อบังคับ สุดท้ายประธาน “พิเชษฐ์” ตัดบทบอกทำถูกตามข้อบังคับแล้ว ด้าน “ชัยธวัช” ยัน รมว.ยุติธรรมตอบแทนไม่ได้  ขอสละสิทธิถามกระทู้ ข้องใจนายกฯ ทำไมเลี่ยงตอบกระทู้ก้าวไกลทั้งที่มาด้วยตัวเองแล้ว แย้มประเด็นคำถาม "ประยุทธ์คิด เศรษฐาทำ ไอ้โม่งสั่ง"

ชัยธวัช  ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ลุกขึ้นกล่าวว่า เมื่อเช้า ตนไปแจ้งต่อประธาน เรื่องกระทู้ถามสด และทราบว่าสมาชิกอีกสองคนจากพรรคร่วมฝ่ายค้าน และพรรคร่วมรัฐบาล 

โดยหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้แจ้งความประสงค์ที่จะตั้งกระทู้ถามสดถามนายกฯ เช่นกัน แต่ตนไม่ทราบว่า นายกฯจะตอบกระทู้ถามสดของ สส.อีก 2 คน แต่ไม่ตอบกระทู้ของตน โดยมอบให้รมว.ยุติธรรม ซึ่งไม่เกี่ยวข้องเพราะอะไร 

เมื่อวานตอนเย็น นายกฯ ให้สัมภาษณ์ว่ามาตอบกระทู้ในสภาแน่นอน ไม่หนีสภาฯ เมื่อเช้านี้ ตนไปหารือกับประธาน ก็เรียบร้อย ตนยอมถามนายกฯเป็นลำดับสุดท้ายก็ได้ เพื่อให้ต่อเนื่องจาก 2 กระทู้ก่อนหน้าก็ไม่มีปัญหา 

ปรากฏว่าเมื่อกี้ไม่กี่นาทีนายกฯมาแจ้งว่า นากยกฯไม่ประสงค์จะตอบตน มอบหมายให้รมว.ยุติธรรม ตอบแทน

ต้องการฟังคำตอบจากนายกฯ คนเดียวเท่านั้น!  ชัยธวัชเดือดปรอทแตก! นายกฯ เศรษฐา ไม่ยอมตอบกระทู้

เพราะตนจะถามนายกฯ ในฐานะประธาน ก.ตร. ในฐานะเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ และในฐานะเป็นหัวหน้ารัฐบาล ว่ามีนโยบายเรื่องคดีการเมืองอย่างไร ซึ่งรมว.ยุติธรรม ไม่มีความเหมาะสมที่จะตอบ

"ไม่กี่นาทีมานี้ ... มาแจ้งว่า นายกฯ ไม่ประสงค์จะตอบผม ท่านให้รมต.ยุติธรรม มาตอบแทนได้เหรอ ?  ผมจะถามนายกฯ ในฐานะประธาน ก.ตร.  ในฐานะเป็นประธานนโยบายพลังงานแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล มีนโยบายคดีการเมืองอย่างไร ? ซึ่ง รมต. ยุติธรรม ไม่มีความเหมาะสมที่จะตอบ ด้วยความเคารพ ผมจะไม่ถาม และผมจะรอท่านนายกฯมาตอบ"

ทั้งนี้ ชัยธวัช ได้โพสต์ข้อความผ่าน X กล่าวถึงกรณีนี้ว่า วันนี้เป็นที่ชัดเจนว่านายกฯ เจตนาไม่ตอบกระทู้ถามสดของพรรคก้าวไกล ต้องการจะตอบกระทู้ถามสดเฉพาะที่ตนเองเตรียมมาตอบหรือชงให้โฆษณารัฐบาลเท่านั้น  จริงๆ ประเด็นสำคัญของปัญหาที่ตนต้องการถามนายกฯ จะเกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจที่มีลักษณะ ”ประยุทธ์คิด เศรษฐาทำ ไอ้โม่งสั่ง“ ด้วย



"น่าผิดหวังที่คุณเศรษฐา กล้าใช้อำนาจในลักษณะที่อาจผิดกฎหมาย ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ที่ควรปกป้องผลประโยชน์สาธารณะ และเอื้อประโยชน์ต่อพวกพ้อง  แต่ไม่กล้าเผชิญหน้าการตรวจสอบจากฝ่ายค้านในสภา  ตั้งใจไม่มาตอบกระทู้ถามสดของก้าวไกล แล้วเข้ามาตอบกระทู้ถามอื่นได้ในเวลาติดกัน" ชัยธวัชระบุ 

 

จากนั้น ทวี สอดส่อง จึงได้ขอโอกาสแสดงความเห็น โดยระบุว่ารัฐมนตรีทุกคนมีหน้าที่บริหารแผ่นดินร่วมกัน มีความรับผิดชอบร่วมกัน เมื่อนายกรัฐมนตรีมอบให้ตนมาเป็นผู้ตอบคำถาม แม้จะยังไม่รู้คำถาม แต่ในฐานะคณะรัฐมนตรีที่ต้องรับผิดชอบร่วมกัน ก็จะชี้แจงตามความเป็นจริงเพื่อให้สมาชิกได้รับรู้ร่วมกัน

อย่างไรก็ตาม วิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ขอหารือโดยระบุว่าตามข้อบังคับข้อที่ 151 นายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีที่ถูกตั้งคำถามจะต้องเข้าสภาเพื่อตอบกระทู้นั้น นอกจากมีเหตุจำเป็นอันไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ จะต้องชี้แจงเหตุจำเป็นนั้นเป็นหนังสือต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร

แต่เหตุใด ในเมื่อนายกรัฐมนตรีอยู่ที่นี่ เดินทางมาด้วยตัวเองแล้ว ก็ควรตอบกระทู้ให้ชัดเจน ถ้ามีเหตุจำเป็นก็ช่วยร่างหนังสือตอนนี้ อ่านเหตุผลที่ไม่อาจตอบคำถามนี้ต่อที่ประชุมสภา ไม่ใช่อยู่ดีๆ ก็มามอบหมายฉับพลันอย่างนี้ จึงขอถามว่านายกรัฐมนตรีได้แจ้งเป็นหนังสือต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรก่อนเข้าระเบียบวาระกระทู้ถามแล้วหรือไม่ ถ้าใช่ช่วยอ่านหนังสือชี้แจงให้ชัดเจนด้วย 

จากนั้น ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้แจ้งให้ทราบว่านายกรัฐมนตรีได้มีหนังสือแจ้งมอบหมายมาแล้ว ว่าให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นผู้ตอบกระทู้ของชัยธวัชแทน เมื่อเช้าเวลา 8.30 ผู้ที่จะถามกระทู้สดมีการประชุมร่วมกันที่ชั้น 10 เพื่อพิจารณาว่ากระทู้ถามทั้ง 3 กระทู้เข้าเกณฑ์เป็นกระทู้สดหรือไม่ โดยทีแรกกำหนดให้กระทู้ของชัยธวัชเป็นกระทู้ที่ 3 ภายใต้ข้อพิจารณาว่าผู้ตอบกระทู้พร้อมหรือไม่ หรือผู้ถามพร้อมที่จะถามหรือไม่ 

พิเชษฐ์กล่าวต่อไป ว่าหลังจากทั้ง 2 ท่าน คือ ชัยธวัช และ ชัยชนะ เดชเดโช พรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกจากห้องไปแล้ว อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ตอนแรกจะถามเป็นคนแรก ยังอยู่ที่ราชบุรี กำลังรีบเดินทางจากราชบุรีอยู่และมาอาจจะล่าช้า การเรียงลำดับกระทู้จึงเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ที่จะประสานผู้ถามผู้ตอบ ใครจะถามตอบก่อนหลัง จึงเป็นที่มาที่ทำให้กระทู้แรกเป็นของชัยธวัช


• นายกฯ เศรษฐา โดนแซวเรื่องถุงเท้าตั้งแต่เริ่ม 

นอกจากนี้ ในช่วงเริ่มต้นของการประชุมสภาฯ  ในช่วงก่อนจะเริ่มถามนั้น นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์  สส. ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ได้แซวนายกรัฐมนตรีเรื่องถุงเท้าว่า "ผมขอถามคำถามแรก  แต่วันนี้จะไม่ถามว่านายกรัฐมนตรีใส่ถุงเท้าสีอะไร เพราะโซเชียลคงให้ความสนใจเรื่องถุงเท้าของท่าน  เป็นความน่ารักส่วนตัวของท่าน แต่ตนก็มองว่า ท่านใส่ถุงเท้าสีอะไรก็เป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าท่านไม่ใส่ถุงเท้าไปจะเป็นเรื่องผิดปกติมากกว่า  ซึ่งตนก็คงจะต้องตั้งกระทู้ถาม"

ขณะที่นายกรัฐมนตรี  ระบุว่า ตนให้เกียรติสภาเสมอ  หากไม่ติดภารกิจที่จำเป็น  ตนก็จะมาตอบกระทู้  ตอบข้อสงสัยที่สมาชิกตั้งคำถาม เพราะถือเป็นหน้าที่ฝ่ายบริหารที่จะต้องให้เกียรติฝ่ายนิติบัญญัติ

และก่อนที่จะตอบคำถามนายกฯระบุว่า “วันนี้ตนใส่เน็คไทสีส้ม และถุงเท้าสีเขียว”

จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงถึงการเดินทางเยือนต่างประเทศ ว่า ได้พบระดับผู้นำเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ รวมถึงการเจรจาการค้า การลงทุน โดยขอให้มั่นใจได้ว่า วันนี้ประเทศไทยมีความพร้อมทุกด้านและเป็นเวลาที่ดีที่สุด  และเรื่องสำคัญที่ต้องเจรจาและปิดดีลให้ได้คือ การลงนามในสนธิสัญญาการค้าหรือ FTA

 นายอัคราเดช ยังถามถึงมาตรการให้ความช่วยเหลือแรงงานไทยในอิสราเอล พร้อมชื่นชมนายกรัฐมนตรีและครม. ที่เร่งรัดการช่วยเหลือคนไทยในการอพยพจากประเทศ

ด้านนายกรัฐมนตรี  ตอบว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สะเทือนใจสำหรับตนเองและรัฐมนตรีทุกท่าน  การนำคนไทยกลับประเทศนำกลับเข้ามาแล้ว 4000 คนยังเหลืออีกครึ่งหนึ่ง  แต่ที่เป็นปัญหาในการบริหารจัดการค่อมีแรงงานเปลี่ยนใจไม่อยากกลับ เนื่องจากนายจ้างเพิ่มแรงจูงใจให้ค่าตอบแทนเพิ่มและเลื่อนจ่ายเงินเดือนเป็นวันที่ 10 พฤศจิกายน  

ซึ่งตนเองรู้สึกสะเทือนใจ เพราะสะท้อนถึงปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ สะท้อนถึงปัญหาความยากจนของพี่น้องประชาชน  ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลคำนึงถึงตลอดว่าทำไม  ต้องนำชีวิตไปแลกเงิน 50,000 และเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายอยู่จนถึงวันที่ 10 พฤศจิกายน  เพราะเราก็ทราบอยู่แล้วว่า สงครามนี้จะพัฒนาความรุนแรงมากขึ้นและการปฎิบัติการภาคพื้นดินที่จะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้จะนำมาซึ่งความสูญเสียมโหฬาร ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ

ดังนั้นนโยบายเศรษฐกิจ การเงิน การคลังของประเทศ ต้องตอบโจทย์ความต้องการของพี่น้องคนไทยทุกคน  รัฐบาลไม่ได้นอนใจจึงขอใช้คำว่าแผนซ้อนแผน   ในการแก้ปัญหาและช่วยเหลือโดยการให้แรงงานไทยกู้เงินในอัตราดอกเบี้ยต่ำ ระยะยาวเพื่อนำเงินไปใช้หนี้ได้ เพราะพบว่าหลายคนกู้หนี้ยืมสินเพื่อเดินทางไปทำงาน  

นายเศรษฐายังยืนยันว่า เราพยามทำเต็มที่เพื่อบริหารจัดการ ช่วยเหลือให้แรงงานไทยกลับมาได้โดยเร็วที่สุด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related