SHORT CUT
ตักความคิด Guss Damn Good ปะทะ IKEA สองขั้วกลยุทธ์การตลาด ที่เปลี่ยนไอศกรีมที่ของหวานธรรมดาๆให้กลายเป็นเครื่องมือการตลาดอันทรงพลัง
ในสมรภูมิตลาดค้าปลีกและอาหารที่แข่งขันอย่างดุเดือด Guss Damn Good และ IKEA ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า "ไอศกรีม" เพียงหนึ่งสกู๊ปสามารถเป็นอาวุธทางการตลาดที่พลิกเกมได้
แม้ทั้งสองแบรนด์จะดูแตกต่างกันสุดขั้ว แต่ต่างก็ประสบความสำเร็จในการดึงดูดและสร้างความภักดีของลูกค้าผ่านกลยุทธ์ที่แยบยลและแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
Guss Damn Good ที่เปลี่ยนไอศกรีมให้เป็นผืนผ้าใบแห่งการเล่าเรื่อง ส่วน IKEA ใช้ "ไอศกรีมราคา 8 บาท" เป็นเครื่องมือทางจิตวิทยาเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจหลัก
ความสำเร็จของ Guss Damn Good ไม่ได้มาจาก "รสชาติ" เพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากการวางตำแหน่งแบรนด์ให้เป็น "ศิลปิน" ด้วยปรัชญา "Feeling Crafted" และแกนหลักอย่าง "Story to Flavor" ทำให้แบรนด์มีรากฐานที่แข็งแกร่งพอที่จะสร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ
กลยุทธ์ที่น่าสนใจคือ แคมเปญ "Guss Grocery" ซึ่งไม่ใช่แค่การ Co-branding ทั่วไป แต่เป็นการร่วมมือเชิงลึกกับแบรนด์ที่คนไทยคุ้นเคย (Nostalgia Marketing) เช่น น้ำปลาทิพรส, มาม่า, ฟาร์มเฮ้าส์, และ M-150 เพื่อสร้างสรรค์รสชาติไอศกรีมรุ่นลิมิเต็ด
Guss Damn Good ทำหน้าที่เป็น "สื่อสร้างสรรค์" ที่แปลคุณค่าและเรื่องราวของแบรนด์พันธมิตรให้ออกมาเป็นรสชาติที่กินได้และน่าจดจำ เช่น การแปลงพลังของ M-150 ให้เป็นซอร์เบต์สตรอว์เบอร์รี หรือการดึงรสเค็มอันเป็นเอกลักษณ์ของน้ำปลาทิพรสมาสร้างสรรค์เป็นรสคาราเมล
รสชาติสุดแปลกใหม่กลายเป็นไวรัลบนโซเชียลมีเดีย ดึงดูดความสนใจจากสื่อต่างๆ โดยไม่ต้องใช้งบโฆษณา
ดึงดูดกลุ่ม "นักผจญภัยรสชาติ" ที่มองหาความแปลกใหม่และชอบเป็นส่วนหนึ่งกับแบรนด์
Guss Damn Good วางตำแหน่งตัวเองเป็น Creative Agency ที่แบรนด์อื่นนึกถึงเมื่อต้องการสื่อสารกับผู้บริโภคในรูปแบบใหม่
Guss Damn Good เน้นความเป็นพรีเมียม ราคาสินค้าคุณภาพระดับคราฟต์, เรื่องราวเบื้องหลัง, และประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร คุณค่าของแบรนด์อยู่ที่ตัว "ผลิตภัณฑ์" เอง
Guss Damn Good นิยามตัวเองว่าเป็น "Damn Good Feeling Provider Business" หรือธุรกิจผู้ส่งมอบความรู้สึกดีๆ ไม่ใช่แค่ผู้ผลิตไอศกรีม
ในทางตรงกันข้าม กลยุทธ์ไอศกรีมของ IKEA คือกรณีศึกษาชั้นครูด้าน "การตลาดเชิงพฤติกรรม" ซอฟต์เสิร์ฟนมถั่วเหลืองราคาเพียง 8 บาท ไม่ได้มีไว้เพื่อทำ "กำไร" โดยตรง แต่มันคือเครื่องมือเชิงกลยุทธ์ที่ถูกออกแบบมาอย่างแม่นยำ
"ไอศกรีม ราคา 8 บาท" ที่ถูกอย่างไม่น่าเชื่อจะสร้างมาตรฐานความคุ้มค่าในใจลูกค้า ทำให้ราคาสินค้าหลักอย่างเฟอร์นิเจอร์หลายพันบาทดู "สมเหตุสมผลมากขึ้น"
IKEA ใช้กลยุทธ์นี้ ดึงดูดคนเข้าร้านได้ถึง "30%" ซึ่งหลายคนมาเพื่อทานอาหารโดยเฉพาะ และเพิ่มโอกาสในการซื้อสินค้าอื่น
หลังจากการเดินช็อปปิ้งที่ยาวนานและอาจเหนื่อยล้า การได้รางวัลเป็นไอศกรีมราคาถูกและอร่อยที่ทางออก ช่วยสร้างความทรงจำสุดท้ายที่เป็นบวกและลบล้างความรู้สึกหงุดหงิด
ตอกย้ำภาพลักษณ์แบรนด์ เสริมความแข็งแกร่งให้กับคำมั่นสัญญาหลักของ IKEA ในเรื่อง "ความคุ้มค่า" อย่างมีประสิทธิภาพ
กลยุทธ์ของ IKEA คือการขาย "ความรู้สึกคุ้มค่า" โดยใช้ไอศกรีมเป็นตัวประกอบสำคัญที่ช่วยสนับสนุนเป้าหมายใหญ่ นั่นคือการ "ขายเฟอร์นิเจอร์"
ธุรกิจอาหารของ IKEA ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เป็นเสาหลักเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญ จุดประสงค์แรกเริ่มนั้นเรียบง่ายและตอบโจทย์การใช้งาน คือเพื่อแก้ปัญหาความเหนื่อยล้าของลูกค้าในสโตร์ขนาดใหญ่ที่มักตั้งอยู่นอกเมือง คติพจน์ของผู้ก่อตั้งที่ว่า "ลูกค้าที่หิวจะซื้อของน้อยลง" คือหลักการชี้นำที่ชัดเจน
ปัจจุบัน ธุรกิจอาหารได้กลายเป็นแหล่งรายได้มหาศาล (ประมาณ 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี) และเป็นแม่เหล็กดึงดูดลูกค้าที่ทรงพลัง
ข้อมูลระบุว่าประมาณ 30% ของผู้ที่มา IKEA มีจุดประสงค์หลักเพื่อมารับประทานอาหาร และกลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้สร้างยอดขายเฟอร์นิเจอร์ให้สโตร์ได้ถึง 5-15% สิ่งนี้พิสูจน์ว่าอาหารไม่ใช่แค่บริการเสริม แต่เป็นเครื่องมือในการหาลูกค้าและปิดการขายที่มีประสิทธิภาพสูง
"ลูกค้าจะรู้สึกฉลาดและคุ้มค่าที่ได้ทานไอศกรีมราคาถูก" ความรู้สึกเชิงบวกกับราคาที่ถูก ดังนั้น อาหารจึงไม่ใช่แค่ข้อเสนอที่คุ้มค่า แต่เป็นตัวกระตุ้นทางจิตวิทยาที่ทำให้ความคุ้มค่าของแบรนด์ "น่าเชื่อถือและยอมรับได้ง่ายขึ้น"
ท้ายที่สุดแล้ว ทั้ง Guss Damn Good และ IKEA ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า "ไอศกรีม" เป็นได้มากกว่าของหวาน มันสามารถเป็นได้ทั้งผืนผ้าใบสำหรับความคิดสร้างสรรค์ทางวัฒนธรรม และเครื่องมือผ่าตัดทางจิตวิทยาที่แม่นยำ
ความสำเร็จไม่ได้ขึ้นอยู่กับ "สิ่งที่ขาย" แต่ขึ้นอยู่กับ "วิธีการขาย" และความเข้าใจอย่างลึกซึ้งต่อความต้องการและพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน
ทั้งสองเส้นทางต่างนำไปสู่จุดหมายเดียวกัน นั่นคือความภักดีต่อแบรนด์ "Brand Loyalty"
ที่มา : timeout, thedecisionlab, Guss Damn Good