"ชัชชาติ" เตรียมเสนอแผนทำอุโมงค์ระบายน้ำฝั่งตะวันออก ให้ กอนช. 19 ก.ย. หลัง ‘บิ๊กป้อม’ ลงพื้นที่พร้อมสั่งเร่งดำเนินการ เชื่อ หากทำได้ ช่วยระบายน้ำฝั่งลาดกระบัง สำโรง สมุทรปราการ ได้ ชี้เป็นโครงการของกรมชลประทานต้องทำ ไม่ใช่โครงการของ กทม.
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เผยถึงกรณีการเสนอแผนทำอุโมงค์ระบายน้ำฝั่งตะวันออก ภายหลังจาก พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่มาติดตามสถานการณ์น้ำที่เขตมีนบุรี-หนองจอก ว่า ในวันพรุ่งนี้ (19 ก.ย.) จะมีการหารือร่วมกับ กองอำนวยการน้ำแฟ่งชาติ หรือ กอนช. และจะนำเสนอ กอนช.ในการทำอุโมงค์ระบายน้ำ
เพราะปัจจุบันน้ำพื้นที่ เขตลาดกระบัง จะออกไปคลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต เพื่อออกบางปะกง ซึ่งพื้นที่เป็นภูเขาน้ำไปยาก ส่วนอีกทางไปทางสุวรรณภูมิ ออกทางคลองสำโรง ซึ่งพื้นที่เป็นแอ่ง ทำให้สุดท้ายน้ำ 80% ต้องระบายออกทางคลองพระโขนง ดังนั้นจึงต้องเสนอทำอุโมงค์ระบายน้ำ จากคลองลำปลาทิว ที่เป็นแยกคลองลำปลาทิวกับคลองประเวศ และสูบไปออกคลองร้อยคิว
ซึ่งอุโมงค์นี้จะช่วยฝั่งตะวันออก ทั้ง ลาดกระบัง สำโรง สมทุรปราการ ไปลงคลองร้อยคิวที่มีระบบระบายน้ำของกรมชลประทานสามารถระบายได้ 100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยจะเสนอแผนนี้กับ กอนช.เพื่อให้กรมชลประทานดำเนินการ เพราะไม่ใช่โครงการของกทม. เนื่องจากอยู่ฝั่งของพื้นที่สมุทรปราการ
ทั้งนี้หากทำได้ก็จะช่วยลดความกดดันของพื้นที่ฝั่งตะวันออกได้ โดยอุโมงค์จะมีระยะทางประมาณ 19 กิโลเมตร และระบายน้ำ 50 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
• บิ๊กป้อม ชัชชาติ ลงพื้นที่ เร่งแก้น้ำท่วม ยัน ร่วมมือกันทำเพื่อประชาชน
• ชัชชาติ แจง เส้นเลือดใหญ่และเส้นเลือดฝอย ต้องทำให้สมดุลควบคู่กันไป
• ชัชชาติ ห่วง น้ำท่วมลาดกระบัง ยัน ใช้แผนการบริหารจัดการน้ำรูปแบบเดิม
โดยอุโมงค์นี้ ก็จะถือว่าเป็นความร่วมมือกัน เพราะที่ผ่านมา กทม.ระบายน้ำเฉพาะในพื้นที่ กทม.ไม่สามารถระบายน้ำออกนอกพื้นที่ได้ ถ้าไม่ได้ร่วมมือกับพื้นที่อื่น แต่ถ้าร่วมมือก็จะเป็นเส้นทางน้ำผ่านที่จะต้องหารือกัน โดยกรมชลประทานก็เคยมีแผนลักษณะนี้อยู่
ทั้งนี้ถ้าจะอาศัยคลองอย่างเดียว น้ำอาจจะไหลช้า เพราะมีเรื่องคนรุกล้ำ และความชันของพื้นที่ไม่ได้ตามมาตรฐาน และถือเป็นแนวคิดในการทำงานเส้นเลือดใหญ่
ผู้ว่าฯ กทม. มองว่าด้วยว่า พลเอกประวิตร ท่านก็สั่งงานเร็วมาก พอลงพื้นที่ไป มีนบุรี หนองจอก วันรุ่งขึ้นมีจดหมายมาเตือนให้ตนเองส่งเรื่องเข้าที่ประชุมวันจันทร์ ที่ 19 ก.ย. โดยจะมี เลขา สนทช.จะเป็นประธาน ส่วนพลเอกประวิตร จะเป็นประธานการประชุมใหญ่ ในเดือนตุลาคม