svasdssvasds

"บัตรทอง 2566" เพิ่มสิทธิประโยชน์ใหม่ เข้าถึงบริการสาธารณสุขที่จำเป็น

"บัตรทอง 2566" เพิ่มสิทธิประโยชน์ใหม่ เข้าถึงบริการสาธารณสุขที่จำเป็น

"บัตรทอง 2566" เพิ่มสิทธิประโยชน์ใหม่ ดูแล “ผู้ใช้สิทธิบัตรทอง” ขยายเพิ่มเติมหลากหลายบริการ ช่วยเพิ่มการเข้าถึงบริการสาธารณสุขที่จำเป็นยิ่งขึ้น พัฒนาการบริหารจัดการที่เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน

 นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือที่รู้จักในชื่อกองทุนบัตรทอง สปสช. ยังคงเดินหน้าและพัฒนาระบบอย่างไม่หยุดนิ่ง เพื่อดูแลประชาชนผู้ใช้สิทธิให้เข้าถึงบริการสาธารณสุขที่จำเป็นอย่างครอบคลุมและทั่วถึง 

โดยในปีงบประมาณ 2566 ที่จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 นี้ สปสช.จะเริ่มเดินหน้าดำเนินการกองทุนฯ ตามแผนบริหารจัดการที่วางไว้โดยผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ที่มี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน 

สิทธิประโยชน์ "บัตรทอง 2566" ที่เพิ่มขึ้นมาใหม่

สิทธิประโยชน์ใหม่ที่ สปสช. ได้ดำเนินการเพิ่มเติมให้กับประชาชนในปี 2566 ได้แก่ 

• การดูแลภาวะความดันเลือดในปอดสูงในทารกแรกเกิด (Persistent Pulmonary Hypertension of the Newborn) เป้าหมายบริการจำนวน 320 ราย

• บริการทันตกรรม Vital Pulp Therapy หรือการรักษาเนื้อเยื่อในฟันกรามแท้ จำนวน 56,300 ราย

 •บริการรากฟันเทียม จำนวน 15,200 ราย

• บริการห้องฉุกเฉินคุณภาพภาครัฐ จำนวน 53,184 ราย

• ผ้าอ้อมผู้ใหญ่และแผ่นรองซับ จำนวน 48,554 ราย

• บริการยาป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี จำนวน 27,000 ราย

• เพิ่มยาจำเป็นแต่มีราคาแพง ในกลุ่มบัญชียา จ (2) จำนวน 14 รายการ ดูแลผู้ป่วย 9,634 ราย

• บริการดูแลผู้ป่วยกึ่งเฉียบพลัน จำนวน 30,283 ราย

• บริการดูแลผู้ป่วยที่ได้รับพิษ จำนวน 7,598 ราย 

• เพิ่มเติมบริการที่คลินิกการพยาบาลฯ กายภาพบำบัด คลินิกชุมชนอบอุ่น คลินิกเวชกรรม และคลินิกทันตกรรม 2,002,295 ราย รวมถึงบริการ Home Ward 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• เปิดวิธีเช็กสิทธิ "บัตรทอง" 5 ช่องทาง ตรวจสอบสิทธิ-หน่วยบริการด้วยตัวเอง

• ผู้ป่วยโควิด สิทธิบัตรทอง พบแพทย์ Telemedicine ส่งยาฟรีถึงบ้าน

• เจอ แจก จบ บัตรทองรับสิทธิที่ "ร้านขายยา" เพิ่มแจก ATK ต้องสงสัยติดโควิด

สิทธิประโยชน์ "บัตรทอง 2566" ตรวจคัดกรองโรค

ขณะที่ บริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในปี 2566 นี้  สปสช. ได้เพิ่มเติมบริการเช่นกัน ได้แก่ 

• การตรวจไวรัสตับอักเสบบี (HBe Ag) ในหญิงตั้งครรภ์ 

• บริการคัดกรองธาลัสซีเมียในสามีหรือคู่ของหญิงตั้งครรภ์ทุกราย

• บริการคัดกรองซิฟิลิสในสามีหรือคู่ของหญิงตั้งครรภ์ทุกราย 

• บริการสายด่วนเลิกบุหรี่และสายด่วนสุขภาพจิต

• บริการคัดกรองปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด 

• บริการคัดกรองมะเร็งและมะเร็งช่องปาก 

• บริการคัดกรองผู้ป่วยโรคพันธุกรรมเมตาบอลิกด้วยเครื่อง Tandem mass spectrometry (TMS) ในเด็กแรกเกิด 

• บริการคัดกรองและค้นหาวัณโรคในกลุ่มเสี่ยงสูง

• บริการตรวจยีน BRCA1/BRCA2 ในกลุ่มผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่มีความเสี่ยงสูงและญาติสายตรงที่มีประวัติครอบครัวตรวจพบยีนกลายพันธุ์ 

สิทธิประโยชน์ "บัตรทอง 2566" เพิ่มการเข้าถึงบริการ

สปสช. ได้ดำเนินการพัฒนาการบริหารจัดการที่ช่วยเพิ่มการเข้าถึงบริการ ได้แก่ 

• บริการโรคโควิด-19 จากเดิมที่แยกการบริการจัดการโดยใช้งบประมาณ พ.ร.ก.กู้เงินฯ ที่ปรับให้อยู่ในงบบัตรทองที่ครอบคลุมทั้ง บริการโควิดผู้ป่วยนอก ผู้ป่วยใน การป้องกันและการช่วยเหลือเบื้องต้นกรณีฉีดวัคซีนโควิด-19

• การเดินหน้ายกระดับบัตรทองอย่างต่อเนื่อง

• เพิ่มการเข้าถึงยา ทั้งยารักษามะเร็ง และยาที่มีส่วนผสมของกัญชา (บัญชียาหลักแห่งชาติ)

• เพิ่มการเข้าถึงบริการเบาหวานชนิดที่ 2 และความดันโลหิตสูงโดยปรับการจ่ายตามรายการบริการ

• เพิ่มสัดส่วนสมทบกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพในระดับจังหวัดตามความพร้อมแต่ละพื้นที่ และเพิ่มบริการผ่าตัดข้อเข่าและผ่าตัดต้อกระจกที่เปิดให้มีการปรับเป้าหมายตามบริบทพื้นที่เช่นกัน

 ส่วนบริการดูแลระยะยาวสำหรับผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงนั้น ได้มีการปรับการจ่ายที่เป็นไปตามแผนการดูแลแต่ละบุคคล (Care plan) พร้อมตัดรอบการจ่ายทุก 15 วัน นั้น ได้ปรับบริการไตวายเรื้อรังที่ให้ดูแลโดยยึดผู้ป่วยเป็นศูนย์กลางพร้อมเพิ่มทางเลือกจ่ายชดเชยเป็นเงินสำหรับน้ำยาล้างไตและยาเพิ่มเม็ดเลือดแดง (EPO) เป็นต้น

ที่มา : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ

related