svasdssvasds

นายกฯ ปลื้ม นักลงทุนซาอุฯ จ่อร่วมลงทุนในไทยปี 2566 สูงถึง 3 แสนล้านบาท

นายกฯ ปลื้ม นักลงทุนซาอุฯ จ่อร่วมลงทุนในไทยปี 2566 สูงถึง 3 แสนล้านบาท

โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ ปลื้ม นักลงทุนซาอุดีอาระเบียเชื่อมั่นศักยภาพไทย เตรียมร่วมลงทุนในไทยปี 2566 สูงถึง 3 แสนล้านบาท ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยโตต่อเนื่อง

 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีที่ได้ทราบว่า รัฐบาลและภาคเอกชนซาอุดีอาระเบียเตรียมจะลงทุนในไทย โดยในปี 2566 ปีเดียว จะลงทุนในไทยสูงถึง 300,000 ล้านบาท

โฆษกประจำสำนักนายกฯ เปิดเผยว่า สาขาอุตสาหกรรมที่อยู่ในความประสงค์จะลงทุนของซาอุดีอาระเบีย อาทิ อุตสาหกรรมเป้าหมายส่วนใหญ่ของซาอุดีอาระเบียซึ่งอยู่ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) อุตสาหกรรมท่องเที่ยว อุตสาหกรรมเมดิคัลแคร์ อุตสาหกรรมน้ำมัน และอุตสาหกรรมปิโตรเคมี อุตสาหกรรมการก่อสร้างและวัสดุก่อสร้างโดยถือเป็นผลพวงความสำเร็จจากการปรับความสัมพันธ์ทางการทูต และการเสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของรัฐบาลของมกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย และจากการที่คณะบุคคลระดับสูงต่างๆ จากซาอุดีอาระเบีย ได้เข้าเยี่ยมชมพื้นที่ EEC

 ส่งผลให้ทางซาอุฯ สนใจลงทุนเพิ่มเติมในอุตสาหกรรมที่ EEC นำเสนอ ได้แก่ อุตสาหกรรมดิจิทัลนวัตกรรมขั้นสูง อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ อุตสาหกรรมการแพทย์แม่นยำ อุตสาหกรรมอาหารและแปรรูป อุตสาหกรรมพลังงานสะอาด และอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า EV ที่จะขับเคลื่อนบริบทเศรษฐกิจสีเขียว หรือ BCG เป็นต้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• เชิญฟังสัมมนา EEC : NEW Chapter NEW Economy

• เปิดตัว EV ชาร์จ ตัวแรกของโลก ติดตามค่าใช้จ่ายพลังงาน และการปล่อยคาร์บอนได้

• ครม.ไฟเขียวดึงต่างชาติลงทุนในไทย 4 กลุ่มปลุกเศรษฐกิจไทย มีอะไรบ้าง ?

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการส่งเสริมศักยภาพการแข่งขัน และดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมรถยนต์ EV ให้ใช้ไทยเป็นฐานการผลิต ซึ่งมาจนถึงขณะนี้ ทางประธานที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการนโยบาย EEC ได้กล่าวแสดงความมั่นใจว่า ไทยจะเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคอาเซียนอย่างแน่นอน โดยที่ค่ายรถยนต์ต่าง ๆ ได้เลือกไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแล้ว ทำให้ไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ และมีบุคลากรด้านยานยนต์ที่พร้อมที่สุด ทำให้ประเทศไทยสามารถปรับตัวมาเป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้เร็วที่สุด

“นายกรัฐมนตรีชื่นชมการทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ที่ร่วมกันทำงานให้ภาคการผลิตของประเทศไทยโดดเด่นเป็นที่สนใจของต่างประเทศ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นผลจาก ความสัมพันธ์ไทย-ซาอุดีอาระเบียที่แน่นแฟ้นขึ้นในช่วงรัฐบาลนี้ ซึ่งเชื่อว่ายังมีโอกาสของการเติบโตอีกมาก ยังเป็นผลจากการดำเนินนโยบายของรัฐบาลที่ได้สร้างความเจริญด้านโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ไว้ ยิ่งส่งเสริมและดึงดูดให้ต่างประเทศเข้ามาลงทุนในประเทศไทยยิ่งขึ้น และตอนนี้ถึงเวลาที่ไทยจะได้เริ่มเห็นผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมจากการดำเนินนโยบายของรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมา เพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันของประเทศ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตต่อเนื่องในอนาคตอย่างมั่นคงและยั่งยืน” นายอนุชาฯ กล่าว

related