EA ชี้แจงเหตุเรือโดยสารไฟฟ้าไฟไหม้ ไม่ได้เกิดจากระบบหัวชาร์จจ่ายไฟ

21 Feb 2023

บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) ชี้แจงแล้ว จากกรณี ไฟไหม้เรือ ควันดำพวยพุ่ง ลุกลามอย่างหนัก ริมแม่น้ำวัดทองคุ้ม จ.สมุทรปราการ ในช่วงเช้าวันที่ 21 ก.พ. 2566 โดย บริษัท EA ได้เปิดเผยจุดเกิดเหตุ และยืนยัน ไฟไหม้ครั้งนี้ ไม่ได้เกิดจากระบบหัวชาร์จจ่ายไฟ แต่อย่างใด

จากกรณีที่ในช่วงเช้าวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 เกิดเหตุการณ์ มี เรือไฟไหม้ ลุกลามอย่างหนัก ที่บริเวณริมแม่น้ำวัดท้องคุ้ง ถนนปู่เจ้าสมิงพราย ต.บางหญ้าแพรก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ และ จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุในเบื้องต้น พบว่า เรือที่เกิดเหตุเป็นเรือที่อยู่ระหว่างการประกอบเพื่อรอส่งมอบ และ ณ เวลาที่เกิดเหตุ เรือไม่ได้อยู่ระหว่างการชาร์จแบตเตอรี่ อีกทั้ง จุดต้นเพลิงที่เกิดเพลิงไหม้อยู่ด้านบนบริเวณชั้น 2 ของตัวเรือ ซึ่งเป็นคนละบริเวณกับจุดที่ติดตั้งแบตเตอรี่

และล่าสุด บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ได้ทำหนังสือชี้แจงต่อกรณีนี้ด้วย โดยยืนยันว่า ไฟไหม้ครั้งนี้ ไม่ได้เกิดจากระบบหัวชาร์จจ่ายไฟ แต่อย่างใด

EA พลังงานบริสุทธ์ แจงเหตุเรือโดยสารไฟฟ้าไฟไหม้ ไม่ได้เกิดจากระบบหัวชาร์จจ่ายไฟ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ เนื้อหา จดหมาย จาก บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) ชี้แจง เหตุเรือโดยสารไฟฟ้าเกิดไฟไหม้ ระบุว่า

คำชี้แจง กรณีเกิดเหตุเรือโดยสารไฟฟ้าเกิดไฟไหม้

บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) ขอเรียนแจ้งว่า ตามที่มีข่าวปรากฏในสื่อกรณีเกิดเหตุไฟไหม้เรือโดยสารไฟฟ้า MINE SMART FERRY ที่บริเวณริมแม่น้ำวัดท้องคุ้ง ถนนปู่เจ้าสมิงพราย จังหวัดสมุทรปราการ นั้น จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุในเบื้องต้น พบว่า "เรือที่เกิดเหตุเป็นเรือที่อยู่ระหว่างการประกอบเพื่อรอส่งมอบ และ ณ เวลาที่เกิดเหตุ เรือไม่ได้อยู่ระหว่างการชาร์จแบตเตอรี่ อีกทั้ง จุดต้นเพลิงที่เกิดเพลิงไหม้อยู่ด้านบนบริเวณชั้น 2 ของตัวเรือ ซึ่งเป็นคนละบริเวณกับจุดที่ติดตั้งแบตเตอรี่ "

ดังนั้น บริษัทฯ ขอเรียนชี้แจงว่า "เหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ ไม่ได้เกิดจากระบบหัวชาร์จจ่ายไฟ และจากตัวแบตเตอรี่อย่างแน่นอน" แต่สาเหตุที่แท้จริงบริษัทฯ จะทำการตรวจสอบและชี้แจงอีกครั้งหนึ่ง

ขอแสดงความนับถือ

ขณะที่ นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รักษาการอธิบดีกรมเจ้าท่า มอบหมายให้ นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่าด้านปลอดภัย สั่งการให้สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสมุทรปราการ เข้าพื้นที่ตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าว และเร่งรัดดำเนินการสอบสวนผู้เกี่ยวข้อง พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวน และหาสาเหตุที่เกิดขึ้นภายใน 7 วัน

ขณะที่ สํานักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสมุทรปราการ อยู่ระหว่างการเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้ถ้อยคํา เพื่อสอบสวนหาสาเหตุ ภายใน 7 วัน และป้องกันมิให้เกิดเหตุซ้ำอีก