นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ไขก๊อก ทิ้ง พปชร. เตรียมซบเพื่อไทย 20 มี.ค. นี้ เชื่อรัฐบาลใหม่จะเป็นที่พึ่งของประชาชน หนุนเป้าแลนด์สไลด์ 310 เสียง ไม่หวังตำแหน่งรมต. ชี้ "สุริยะ"แจง "บิ๊กตู่" แล้วไม่ติดใจ ยันยังไม่คุยจับขั้ว
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และ อดีตกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ โชว์เอกสาร3 ฉบับ คือหนังสือลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม โดยไม่ขอรักษาการเพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย ที่อาจมองว่าเป็นการเอารัดเอาเปรียบในช่วงการเลือกตั้ง โดยมีผลตั้งแต่วันนี้ และเอกสารหนังสือลาออกจากพรรคพลังประชารัฐ และใบสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ที่จะเข้าไปสมัครในวันที่ 20 มีนาคม 2566
ข่าวที่น่าสนใจ
อนุทิน ลั่น มีจัดฉาก! เด็กเสพบ้องกัญชาริมถนน บอก ปชป. ช่วยผ่านร่าง พ.ร.บ.
ลือหึ่ง! พปชร.-ภท. พร้อมจับขั้วการเมืองใหม่ “บิ๊กป้อม” ชี้แล้วแต่สื่อจะคิด
สมศักดิ์ เทพสุทิน เคาะแล้ว! กัญชา เกิน THC 0.2% คือยาเสพติด ‘จับได้ทันที’
นอกจากนี้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ยังให้เหตุผลที่จะย้ายไปสังกัดพรรคเพื่อไทย เพราะเชื่อว่าจะสามารถขับเคลื่อนงานได้ และทำให้รัฐบาลใหม่สำเร็จเป็นที่พึ่งของประชาชนโดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ จึงต้องมองพรรคการเมืองที่จะเดินหน้าได้แบบแลนด์สไลด์
ทั้งนี้ ตนได้เข้าไปกราบลานายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี และพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งได้อวยพร และขอยืนยันไม่มีความขัดแย้งแตกแยก แต่รัฐบาลที่มาจากหลายพรรคการเมืองเป็นปัญหาอุปสรรค ในการขับเคลื่อนนโยบาย คนหนึ่งไปซ้ายคนหนึ่งไปขวา แต่พรรคเพื่อไทยมีทีมงานที่ชัดเจนเข้มแข็งและส่วนใหญ่เป็นสมัครพรรคพวกเดิมซึ่งไม่ได้มีความรู้สึกที่มีอะไรแตกต่างกัน
อีกทั้ง พิจารณาจากผลสำรวจและการคำนวณส่วนตัวคิดว่าพรรคเพื่อไทย 220 เสียง เมื่อ2 เดือนที่แล้ว แต่ถ้าได้เข้าไปช่วยทำให้ตัวเลขของพรรคเพื่อไทยสูงขึ้น ไปสู่เป้าหมายที่พรรคเพื่อไทยวางไว้ 310 เสียง แต่ไม่ใช่ว่าตัวเองจะเก่งกล้าสามารถเพียงแต่จะช่วยส่วนหนึ่ง เพราะการเป็นรัฐบาลก็เป็นความใฝ่ฝันของพรรคการเมือง ส่วนจะไปถึงเป้าหมาย 310 เสียงหรือไม่คงไม่สามารถตอบได้ในขณะนี้แต่จะเข้าไปช่วยให้สำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
ส่วนการคาดการณ์ของนิด้าโพลที่มองว่าถ้ากลุ่มสามมิตรเข้าไปอาจจะช่วยเสริมให้พรรคเพื่อไทยได้ถึง 310 เสียงนั้น นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ขอขอบคุณ ตัวเลขอาจจะมากหรือน้อยกว่าก็ได้แต่ส่วนตัวก็เชื่อว่าจะได้มาก
นอกจากนี้ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ได้นับจำนวนคนหรือส.สที่ตามไปเพื่อไทยด้วย ว่ามีจำนวนเท่าไร เพราะแต่ละคนมีเอกสิทธิ์ส่วนตัวไม่สามารถที่จะไปเกี่ยวนำหรือชวนให้ย้ายพรรคได้ อยากไปก็ไป ไม่อยากไปก็ไม่ไป และในแต่ละพรรคก็มีพื้นที่ใหม่ๆที่จะทำพื้นที่สร้างพื้นที่ได้
และหากสามารถเป็นไปตามเป้าหมายก็ จะเป็นประโยชน์ที่จะขับเคลื่อนนโยบายหรือ ให้มีจำนวนพรรคการเมืองที่ร่วมรัฐบาลน้อยประชาชนจะได้ประโยชน์มากกว่า เพราะจะไม่มีความขัดแย้ง เชื่อว่าประชาชนเข้าใจ ไม่เช่นนั้นแล้วจะเสียเวลาให้กับบ้านเมืองอย่างการเลือกตั้งปี 2562 มีพื้นที่เดียวที่ให้ทำคือจังหวัดสุโขทัย แต่ก็ได้ไปสร้างพื้นที่ใหม่ และดูเปอร์เซ็นต์ของการเลือกตั้งมีนักการเมืองใหม่เข้ามาแต่ละครั้ง ร้อยละ 50
ทั้งนี้ ตนไม่ได้พูดคุยกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีแต่ นายกรัฐมนตรี ได้พูดคุยกับนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ซึ่งนายสุริยะได้แจ้งให้ทราบว่านายกรัฐมนตรีไม่ได้ติดใจอะไร อย่างไรก็ตามขอขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้โอกาสทำงาน แต่ส่วนตัวอยู่ตรงไหนก็ตั้งใจทำงานเต็มที่ โดยที่ผ่านมานายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรได้ชื่นชมการทำงานของกระทรวงยุติธรรมโดยยกให้เป็นเกรด A ซึ่งต้องขอขอบคุณ นอกจากนี้ต้องขอขอบคุณพลเอกประวิตร ที่สนับสนุนให้การทำงานที่ผ่านมาโดยตลอด
นายสมศักดิ์ ยืนยันยังไม่ได้เข้าไปในพรรคเพื่อไทยหรือพูดคุยกับผู้บริหารของพรรค แต่เห็นว่าคนในพรรคเพื่อไทยขานรับกรณีที่ตนและนายสุริยะจะเข้าไป ได้แสดงความดีใจและต้อนรับ ส่วนจะให้ดูแลในพื้นที่ไหนจังหวัดภาคใต้หรือภาคเหนือตอนล่างหรือที่ใดอย่างไรก็สุดแท้แต่ผู้บริหารจะเห็นเหมาะสม
ทั้งนี้ไม่ได้คาดหวังว่าหากสมัยหน้าพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลจะได้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงใดเพราะการคาดหวังจะทำให้เสียใจเหมือนที่ผ่านมาเคยคาดหวังเป็นรัฐมนตรีกระทรวงหนึ่งแต่ไม่ได้
ส่วนกระแสข่าวการจับขั้วทางการเมืองระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคพลังประชารัฐนั้น เป็นเรื่องของกรรมการบริหารพรรคที่จะพิจารณาไม่ขอให้ความเห็นต้องให้เกียรติผู้บริหารของพรรค แล้วดูเหมือนขณะนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยกันในประเด็นนี้ และยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนใดๆ
ส่วนความรู้สึกของคนเสื้อแดงที่นายสมศักดิ์ย้ายกลับมาอาจทำให้ไม่มั่นใจในตัวพรรคเพื่อไทยนั้นนายสมศักดิ์ยอมรับว่ามีบ้าง เพราะได้เปลี่ยนที่ในจังหวะที่คนอื่นเขาอยู่กัน แต่เท่าที่รับทราบหลายคนก็ขานรับและต้อนรับดีใจที่ได้กลับไป อย่างไรก็ตามมั่นใจในกฎกติกาของพรรคเพื่อไทยที่จะทำให้เกิดความสมดุล
ส่วนเรื่องของการปฏิวัติหากเพื่อไทยได้แลนสไลด์และทหารไม่ถูกใจนายสมศักดิ์ กล่าวว่า ก็เป็นอีกเรื่อง แต่ ส่วนตัวไม่เคยเล่นการเมืองนอกระบบหรือนอกแถวมองทำงานอะไรที่ต้องไปถือไม้ไล่ตีชกต่อยไม่มี ส่วนตัวชกมวยได้เก่งเสียแต่ไม่เคยเดินข้างถนน จึงเป็นผู้แทนได้นานเป็นผู้บริหารที่ไม่มีปัญหา
ส่วนนโยบายอุดมการณ์ของพรรคเพื่อไทยที่อยู่คนละขั้วกับพลเอกประยุทธ์และพรรคพลังประชารัฐนั้น หลังการเลือกตั้งจบรัฐบาลต้องดูที่ตัวเลขของส.สถ้ารวมกันแทบตายเหลือ 2 พรรคก็ต้องหาทางลดหย่อนเรื่องที่เป็นแนวทาง ที่เป็นเงื่อนไข ซึ่งต้องลดและหาแนวทางเป็นรัฐบาลร่วม จึงขอบอกประชาชนทั่วประเทศไปว่าหากเป็นรัฐบาลพักร่วมหลายพรรค การขับเคลื่อนนโยบายเพื่อประชาชนไม่ง่าย มาทำแลนด์สไลด์ให้สมหวังแต่ถ้าทำ แลนด์ สไลด์ไม่ได้ก็เลิกกันไป