นักช้อปออนไลน์ ควรรู้ไว้ เจอสินค้าติดข้อความ ต้องถ่ายคลิปขณะเปิดพัสดุ เพื่อใช้เป็นหลักฐานเคลมสินค้า ทนายเกิดผล ยกเคสตัวอย่าง ศาลชี้สัญญาไม่เป็นธรรม เป็นโมฆะ เหมือนเป็นการผลักภาระให้ผู้บริโภคฝ่ายเดียว
การถ่ายคลิปขณะเปิดพัสดุ ซึ่งเป็นสิ่งที่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ใช้วิธีนี้กันอย่างแพร่หลาย แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องดีกับ "ผู้ซื้อ" เช่นกัน เพราะจะเป็นหลักฐานสำหรับยืนยันกับร้านค้าได้ชัดเจนว่าได้รับสินค้าตรงปกหรือสินค้าไม่ชำรุด แต่หากผู้ซื้อบังเอิญลืมถ่ายคลิปไว้และเมื่อเปิดพัสดุออกมาพบว่า "สินค้าชำรุดเสียหาย" ในกรณีนี้หลายคนคงเชื่อว่าไม่สามารถส่งสินค้าคืนกับผู้ขายได้ แต่ความจริงแล้วสามารถทำได้ตามข้อกฎหมายที่กำหนดไว้
โดย ทนายเกิดผล แก้วเกิด ได้เคยออกมาให้ข้อมูลพร้อมยกเคสตัวอย่างของนักช้อปออนไลน์รายหนึ่งโดยระบุว่า...พ่อค้าแม่ค้า ส่งสินค้าให้ลูกค้า มีการติดสติกเกอร์หน้ากล่องพัสดุว่า
"#กรุณาถ่ายวิดีโอขณะเปิดกล่องพัสดุ เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการเคลมสินค้า #ไม่มีหลักฐานงดเคลมทุกกรณี
ปรากฎว่า คดีที่ศาลจังหวัดอุดรธานีคดีหนึ่ง ผู้ซื้อสินค้า รับสินค้าไว้ แต่ไม่ได้ถ่ายคลิปวีดีโอ ไว้เป็นหลักฐาน เมื่อเกิดกลาองพัสดุ ผลคือ สินค้าแตกหัก ขอคืนสินค้า แต่ผู้ขาย ปฎิเสธ เพราะ ผู้ซื้อ ไม่ได้ถ่ายคลิปเป็นหลักฐานในขณะรับสินค้าลูกค้าจึงนำคดีมาฟ้อง เป็นคดีผู้บริโภค
ศาลชั้นตั้น (ศาลจังหวัดอุดรธานี ) พิพากษาว่า.." ข้อความดังกล่าวนี้ถือเป็นข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรมสัญญาที่ฝ่ายหนึ่งได้เปรียบคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งมากเกินสมควร ประกอบกับคู่สัญญาไม่ได้รับความยินยอมในสัญญาตั้งแต่ต้น ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม พ.ศ.2540 มาตรา 4 วรรคสาม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
เตือนภัย! เพจปลอมหลอกขายสินค้าออนไลน์ ตำรวจไซเบอร์แนะ 11 แนวทางป้องกัน
นักช้อปโดนหลอกอื้อ! สถิติปัญหาซื้อขายออนไลน์ 11 เดือน ปี 64 พุ่ง 33,080 ครั้ง
ข้อตกลงดังกล่าวจึงตกเป็นโมฆะตามมาตรา 11
สิ่งที่ควรกระทำผู้จัดส่งควรถ่ายวิดีโอขณะแพ็คสินค้า ผู้รับควรถ่ายวิดีโอขณะแกะสินค้า เมื่อมีการชำรุด แตกหัก ร้านค้าต้องรับผิดชอบในเบื้องต้นและเรียกค่าเสียหายจากผู้ขนส่งมิใช่เป็นการผลักภาระให้ผู้บริโภคฝ่ายเดียว
คดีลักษณะนี้ ในลักษณะติดประกาศแต่เพียงฝ่ายเดียว เช่น รถหายในห้าง โดยห้าง ติดประกาศว่า #รถหายห้างจะไม่รับผิดชอบ
ศาลฎีกา เคยพิพากษาว่า ข้อความดังกล่าว เป็นการแสดงเจตนาฝ่ายเดียว เป็นสัญญาที่ไม่เป็นธรรม เป็นโฆฆะ ตามมาตรา 11
(คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10570/2557)
ส่วนคดี ที่จังหวัดอุดรธานี ยังไม่ถึงที่สุด แต่มีข้อความประกาศในลักษณะคล้ายกับคดี ตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10570/2557 จึงเชื่อว่า น่าจะพิพากษาให้ผู้ขายหรือขนส่งรับผิดเข่นกัน