svasdssvasds

“เรืองไกร” ร้องกกต. ยุบ "ก้าวไกล" ปมแก้ ม.112 จ่อยื่นฟัน “เศรษฐา-อุ๊งอิ๊ง”

“เรืองไกร” ร้องกกต. ยุบ "ก้าวไกล" ปมแก้ ม.112 จ่อยื่นฟัน “เศรษฐา-อุ๊งอิ๊ง”

“เรืองไกร” ร้อง กกต. ส่งศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคก้าวไกล-ตัดสิทธิ กก.บห. หลังศาลชี้ว่านโยบายแก้ไข ม.112 เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง เตรียมรวบรวมหลักฐาน “เศรษฐา-อุ๊งอิ๊ง” เคยหาเสียงเช่นกัน

นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เดินทางมายื่นหนังสือถึงประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง โดยระบุว่า หลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคดี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และ พรรคก้าวไกล ว่านโยบายหาเสียงยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ถือเป็นการกระทำที่เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49

ศาลจึงสั่งให้ยุติการกระทำ เพราะพิจารณาแล้วเห็นว่าการยกเลิกมาตรา 112 เป็นการกระทำที่ไม่ควร อีกทั้งการแก้ไขกฎหมายก็เป็นหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ จึงถือเป็นกระบวนการที่ไม่ชอบ

วันนี้จึงเดินทางมายื่นคำร้องต่อ กกต. ขอให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกล และตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรค เช่นเดียวกับกรณีการสั่งยุบพรรคไทยรักษาชาติ เนื่องจากพรรคก้าวไกลได้กระทำการฝ่าฝืน พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 92 วรรคหนึ่ง (1) และ (2) และเข้าข่ายจะต้องเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของกรรรมการบริหารพรรคก้าวไกลหรือไม่

พร้อมย้ำว่า กกต. ต้องทำตามหน้าที่และอำนาจ ไปยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพราะถือเป็นความที่ปรากฎแล้ว ดังนั้นจะอยู่เฉยไม่ได้

ทั้งนี้ กกต.ไม่ได้ผิดที่เคยยกคำร้องก่อนหน้านี้ เพราะเป็นดุลยพินิจในชั้นของนายทะเบียน จากนี้จึงขอให้ไปดำเนินการต่อ และหลังจากนี้ตนก็จะไปร้อง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ต่อไป

ส่วนกรณีที่พรรคการเมืองอื่น รวมถึงพรรคเพื่อไทย มีนโยบายแก้ไขมาตรา 112 ด้วยนั้น นายเรืองไกร กล่าวว่า ขณะนี้กำลังเก็บรวบรวมหลักฐานอยู่ ไม่ต้องห่วง หากมีน้ำหนักพอก็จะยื่นเรื่องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ซึ่งรวมถึง นายเศรษฐา ทวีสิน และนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ที่เคยหาเสียงในประเด็นแก้ไขมาตรา 112 ด้วย

อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่นายเรืองไกร กำลังให้สัมภาษณ์และยื่นคำร้องอยู่นั้น นางสาวทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ ตะวัน กลุ่มทะลุวัง และ นางสาวอรวรรณ ภู่พงษ์ หรือ แบม สองนักกิจกรรมการเมือง ได้เดินทางมาเรียกร้องให้ประหารชีวิตตนเอง โดยได้ใช้เชือกผูกพันธนาการที่ข้อมือและลำคอ เพื่อทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ พร้อมกล่าวว่า เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญได้มีการกล่าวอ้างถึงชื่อของตน 2 คน ถึงพฤติกรรม รวมถึงกิจกรรมก่อนหน้านี้ที่ได้ดำเนินการจัดทำแผ่นป้าย ข้อความ "คิดว่ามาตรา 112 ควรแก้ไขหรือยกเลิก" พร้อมนำสติ๊กเกอร์มาให้ติดเพื่อแสดงความเห็น

ซึ่งรวมถึงการเชิญชวนให้นายพิธา นำสติ๊กเกอร์ไปแปะด้วย ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง ล้มล้างการปกครอง จึงขอให้เปาบุ้นจิ้น ได้ทำการประหารตนแทนคนอื่นๆ ที่ทำกิจกรรมการเมืองแล้วถูกจับติดคุกอยู่ตอนนี้ด้วยเถิด

นอกจากนี้ ยังพบว่ามีกลุ่ม ศปปส. ที่เดินทางมาติดตามการยื่นคำร้องของ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ที่จะให้ กกต. พิจารณายุบพรรคก้าวไกลเช่นกัน  

สำหรับบรรยากาศที่ศูนย์ราชการ มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ มาคอยดูแลความปลอดภัย

 ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related