ทำความรู้จัก "พรรคกล้าธรรม" พรรคการเมืองไทย ที่ปัจจุบันนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ นั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรค เป็นสังกัดของ "กลุ่มธรรมนัส" ในปัจจุบัน
พรรคกล้าธรรม ชื่อย่อ กธ. เป็นพรรคการเมืองไทย ปัจจุบันนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เป็นหัวหน้าพรรค ไผ่ ลิกค์ เป็นเลขาธิการพรรค รวมถึงเป็นสังกัดของกลุ่มธรรมนัสในปัจจุบันโดยชื่อเดิมคือ พรรคเศรษฐกิจไทย ต่อมา ได้จัดประชุมใหญ่สามัญ ครั้งที่ 1/2566 เพื่อแก้ไขข้อบังคับพรรคโดยเปลี่ยนแปลงชื่อพรรคเป็น พรรคกล้าธรรม เปลี่ยนตราสัญลักษณ์พรรค นโยบายพรรคคำขวัญและอุดมการณ์พรรค
พรรคกล้าธรรมจัดประชุมใหญ่วิสามัญ วันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2567 ครั้งที่ 1/2567 เพื่อเลือกหัวหน้าพรรค และคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ หลังจากนายเชวงศักดิ์ ใจคำ ได้ยื่นหนังสือขอลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคกล้าธรรม เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม จึงทำให้กรรมการบริหารพรรคพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ โดยผลการลงคะแนนเลือกหัวหน้าพรรคกล้าธรรมคนใหม่ ปรากฏว่า
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ผู้แทนการค้าไทยได้รับคัดเลือกเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ ส่วนเลขาธิการพรรคยังคงเป็นนายสัจจวิทย์ ลีลาวณิชย์
ที่ทำการพรรคกล้าธรรมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนธันวาคม 2567 โดยจะใช้อาคารปานศรี ซึ่งเป็นที่ทำการเดิมของพรรคเศรษฐกิจไทยยุคของร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นที่ทำการพรรคอย่างเป็นทางการ และในส่วนของการเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งครั้งถัดไป พรรคกล้าธรรมจะไปทุกภาค แต่จะเน้นพิเศษในภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือในบางพื้นที่ และจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่มี อิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รับผิดชอบพื้นที่
ทั้งนี้ พรรคกล้าธรรมจะไม่มีการเข้าไปร่วมในการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดโดยตรง แต่ยังมีการสนับสนุนสมาชิกพรรคกันอยู่
ย้อนกลับไปในวันพุธที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2565 พรรคเศรษฐกิจไทยได้ปรากฏเป็นข่าวอีกครั้งว่า ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า สส. พะเยา และอดีตเลขาธิการ พรรคพลังประชารัฐ พร้อม ส.ส. ในกลุ่มอีก 20 คนได้เตรียมย้ายเข้ามาสังกัดพรรคเศรษฐกิจไทย ซึ่งมีกระแสข่าวที่ยังไม่ได้รับการยืนยันชัดเจนว่าปรากฏชื่อของ พลเอก วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เป็นหัวหน้าพรรค นายอภิชัย เตชะอุบล สส. บัญชีรายชื่อ และอดีตเหรัญญิก พรรคประชาธิปัตย์ เป็นเลขาธิการพรรค และพลตำรวจเอกพัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พลเรือเอกศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ น้องชายของ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นที่ปรึกษาพรรค
จากนั้นในวันพฤหัสบดีที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2565 นาย ไผ่ ลิกค์ ส.ส. กำแพงเพชร เขต 1 ซึ่งโดนขับออกจาก พรรคพลังประชารัฐ เช่นเดียวกับ ร้อยเอกธรรมนัส ได้โพสต์เฟซบุ๊กยืนยันว่า กลุ่ม ส.ส. ทั้ง 21 คนจะย้ายเข้าไปสังกัดพรรคเศรษฐกิจไทยเพราะแนวทางเข้ากันได้
พรรคเศรษฐกิจไทยได้แจ้งต่อสภาผู้แทนราษฏรว่า ได้ทำการรับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ถูกขับออกจากพรรคพลังประชารัฐ จำนวน 18 คน เข้าสังกัดพรรคเศรษฐกิจไทย จากนั้นในวันอังคารที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 ซึ่งเป็นการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ส.ส. ในสังกัดพรรคเศรษฐกิจไทยก็ได้เข้าร่วมประชุมเป็นครั้งแรก
จากนั้นในวันที่ 18 ส.ค. 2567 หลังจากที่ร้อยเอกธรรมนัสประกาศแยกทางเดินกับพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จากกรณีที่ไม่มีชื่อของร้อยเอกธรรมนัสในโผคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก็มีกระแสข่าวว่าร้อยเอกธรรมนัสเตรียมนำ ส.ส. ในสังกัดของตนเองออกจากพรรคพลังประชารัฐมาสังกัดพรรคกล้าธรรม
ต่อมาเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2567 นายกฤดิทัช แสงธนโยธิน สส. บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคใหม่ ถูกขับออกจากพรรค และในวันถัดมา นายเชาวฤทธิ์ ขจรพงศ์กีรติ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคพลังสังคมใหม่ก็ถูกขับออกพรรค ต่อมาทั้งสองได้เข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรคกล้าธรรม
วันที่ 15 ต.ค. 2567 บัญชา เดชเจริญศิริกุล สส. บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคท้องที่ไทย ได้ย้ายมาสังกัดพรรคกล้าธรรมทำให้ทางพรรคมี ส.ส. ในสภาทั้งสิ้น 3 คน จากนั้นอีก 6 วันต่อมา ปรีดา บุญเพลิง สส. บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคครูไทยเพื่อประชาชน ซึ่งถูกขับออกจากพรรคได้ย้ายมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคกล้าธรรม ทำให้พรรคมี สส. ในสภาทั้งสิ้น 4 คน
ต่อมาเมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 2567 ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐมีมติขับร้อยเอกธรรมนัส พร้อม สส. ในกลุ่มธรรมนัส รวมจำนวน 20 คน ให้พ้นจากการเป็นสมาชิกพรรค โดยให้เหตุผลว่ามีแนวความคิดและอุดมการณ์ที่ต่างกัน ก่อนมีมติขับออกจากพรรคอย่างสมบูรณ์โดยที่ประชุมร่วมระหว่างคณะกรรมการบริหารและ สส.
จากนั้นเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. นฤมลได้เปิดเผยว่า ร้อยเอกธรมนัส และ สส. ในกลุ่มธรรมนัส จะย้ายมาสังกัดพรรคกล้าธรรม โดยจะมีการประชุมใหญ่เพื่อเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ภายในปี พ.ศ. 2568 เนื่องจากต้องใช้เวลาเตรียมการ
จากนั้นในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 พรรคกล้าธรรมได้จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปีครั้งที่ 1/2568 เพื่อเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ เนื่องจากมีกรรมการบริหารพรรคชุดเดิมจำนวน 7 คนจากทั้งหมด 11 คนลาออกทำให้กรรมการบริหารพรรคเหลือไม่ถึงกึ่งหนึ่งจึงต้องพ้นจากตำแหน่ง โดยในช่วงแรกมีทั้งหมด 25 คน[36] ก่อนที่จะเพิ่มเป็น 32 คน โดยที่ประชุมมีมติเลือกนฤมลเป็นหัวหน้าพรรคสมัยที่ 2 ส่วนตำแหน่งเลขาธิการพรรคเป็นของไผ่ ลิกค์ ร้อยเอกธรรมนัสเป็นประธานที่ปรึกษาพรรค