SHORT CUT
"พริษฐ์" ฉะเดือด "พิเชษฐ์" กลางสภาฯ ปมงบรีโนเวตรัฐสภาปี 69 มอง "เลวร้าย" เพราะไม่จำเป็นเร่งด่วน ด้าน "พิเชษฐ์" โต้เป็นเรื่องศักดิ์ศรี พร้อมท้าให้ตรวจสอบ
ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาฯ สมัยวิสามัญ (เป็นพิเศษ) เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วาระแรก เป็นวันที่สอง โดยมีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม
ทั้งนี้ก่อนเข้าสู่การอภิปรายงบประมาณ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ใช้สิทธิชี้แจงหลังจากที่ในการประชุมสภาฯ เมื่อ 28 พ.ค. นั้นมีการพาดพิงจากนายพิเชษฐ์ในกรณีการตรวจสอบงบประมาณเพื่อใช้ปรับปรุงพื้นที่รัฐสภา ว่า การตรวจสอบโดยคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาฯ ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาประชาธิปไตย ทั้งนี้ทุจริตไม่ได้เกี่ยวกับการจัดทำงบประมาณเท่านั้น แต่การตั้งงบฯ ที่ไม่จำเป็นคือความเลวร้าย เพราะนำงบประมาณที่เป็นเงินภาษีของประชาชนมาใช้ในสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์หรือจำเป็นเร่งด่วน เช่น การตกแต่งฉากหลังบัลลังก์ประธาน งบประมาณ 133 ล้านบาท แม้มีกระบวนการโปร่งใส แต่มุมมองของตนไม่ควรใช้เงินภาษีของประชาชนสักบาทไปทำ เพราะไม่ได้ทำให้การประชุมสภาฯ มีประสิทธิภาพ
“แม้ไม่มีการใช้จ่าย มีหลักฐานเอื้อผลประโยชน์ แต่การตั้งงบกับโครงการที่ไม่เป็นจำเป็นถือว่าเลวร้ายต่อการทำงบประมาณ ส่วนที่ท้าให้ผมไปตรวจสอบหน่วยงานกระทรวงอื่น ซึ่งผมทำในมาตรฐานเดียวกัน ฐานะสส.มีความชอบธรรมอะไร ตรวจสอบหน่วยงานอื่น หากหน่วยงานต้นสังกัดมองว่าตั้งงบไม่สมเหตุสมผล จึงให้ความสำคัญกับการตรวจสอบงบของสภาฯ ที่บอกว่าสิ่งที่ทำให้หน้าที่ทำให้สภาฯ เสียหาย แต่การทำหน้าที่ไม่ทำให้เกิดความเสียหาย แต่หากผู้บริหารไม่สามารถตอบคำถามจนประชาชนหมดข้อสงสัย จะทำให้สภาฯเสียหาย” นายพริษฐ์ อภิปราย
ทำให้ นายพิเชษฐ์ ชี้แจงว่า งบประมาณก่อสร้างรัฐสภา หมื่นล้านบาท จริงแล้วคือ 2 หมื่นล้านบาท แต่ถูกตัดงบประมารจึงต้องคอยตั้งงบเพิ่มในแต่ละปีเพื่อก่อสร้างให้ครบตามแบบไว้ ซึ่งการได้รับงบประมาณของสภาฯ เป็นความยากลำบากที่ได้มา ตนฐานะผู้บริหารยืนยันจะปกป้องงบประมาณของรัฐสภาเต็มที่ และพร้อมให้กมธ.ตรวจสอบ ไม่มีปัญหา
“กรณีที่กมธ.การพัฒนาการเมือง เชิญข้าราชการสภาฯ ไปชี้แจงงบประมาณของรัฐสภา เป็นข้าราชการตัวเล็กตัวน้อย พบสิ่งที่เลวร้ายที่สุด คือ ไลฟ์สดต้อนเขา ให้ตอบให้ได้ แล้วเป็นพระเอก เป็นวีรบุรุษโซเชียล จากนั้นนำไปไปตัดต่อ ตัดตอน ลงในติ๊กต๊อก ยูทูป ทำให้ข้าราชการเสียหาย ซึ่งท่านรับผิดชอบได้หรือไม่ เพราะทัวร์ลงข้าราชการรัฐสภา” นายพิเชษฐ์ ชี้แจง
นายพิเชษฐ์ ชี้แจงด้วยว่าการไลฟ์สดต้องขออนุญาตจากที่ประชุมและลงมติเสียงส่วนใหญ่ ขณะที่การเผยแพร่การประชุมต้องมีการรับรองบันทึกการประชุม การทำงานขอให้มีวัตถุประสงค์ทำงานให้บริสุทธิ์ ทำงานเพื่อประชาชน สำหรับงบประมาณที่ขอเพื่อทำฉากหลัก ก่อนหน้านี้เคยมีงบแต่ถูกตัดไป หากไม่ทำตอนนี้ จะทำตอนไหน อีก 100 ปีหรือไม่ ทั้งนี้ตนไม่เดือดร้อน แต่เป็นศักดิ์ศรีของสภาฯ เป็นหน้าตาและเป็นเกียรติ
"วันนี้สภาฯ เป็นสภาที่เป็นเกียรติ ศักดิ์ศรีของประเทศ อยู่เป็นอันดับสองของโลก หากทำที่จอดรถครบ จะเป็นอันดับหนึ่งของโลก ทั้งนี้การทำงบสามารถตรวจสอบได่ทุกเวลา อย่างกรณีที่มีประเด็นหมูกะทะ สตง. และ ปปง. ได้ตั้งสำนักงานชั่วคราวที่สภาฯ ตรวจสอบได้เต็มที่ สมัยสภาฯอู่ทองใน มีโรงฉายภาพยนตร์ จุคนได้ 100-200 คน ฉายหนังความเป็นมาของรัฐสภาไทย ปัจจุบันจะทำเป็น 4D เพื่อรองรับแขกเมือง งบแค่ 8,000 ล้านบาท จากงบ 3หมื่นล้านบาทต่อสู่ได้เท่านี้ รวมถึงเสาไม้สักที่ต้องบำรุงรักษา” นายพิเชษฐ์ ชี้แจง
ทั้งนี้ นายพริษฐ์ ใช้สิทธิอภิปรายต่อว่า การถ่ายทอดสดของกมธ. ทำตามแนวปฏิบัติ ซึ่งได้ขอมติไว้แล้ว ส่วนที่บอกว่าตนตัดต่อบางส่วนไปลงโซเชียลนั้นไม่มี แต่หากมีการตัดต่อสามารถย้อนไปดูคลิปเต็มได้ ดังนั้นการกล่าวหาตนไปตัดต่อเกินเลยข้อเท็จจริง
“มีงานวิจัยว่า ประเทศไหนที่มีห้องประชุมสภาฯ ใหญ่ คะแนนประชาธิปไตยจะไม่สูงมาก ขนาดของห้องประชุมไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนพัฒนาประชาธิปไตย ที่จอดรถ เวลานี้ประชาชนที่ติดต่อธุระ เจาหน้าที่ชี้แจงมีปัญหาที่จอดรถ เมื่อค้นพบว่า มีการวางแบบต่ำกว่ากฎหมายกำหนด ทำไมประชาชนฐานะผู้เสียภาษีต้องมารับผิดชอบที่ผิดพลาดในอดีต ทั้งนี้กมธ.พัฒนาการเมืองทำหน้าที่ และตรวจสอบเพิ่มเติมขอให้ส่งเอกสารมาให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการต่อ และหากมีการประชุมครั้งถัดไป ผมจะเชิญท่านมาเอง” นายพริษฐ์ กล่าว
ทำให้นายพิเชษฐ์ กล่าวตอบโต้ว่า “ผมจะพาท่าน และ ภัณฑิล น่วมเจิม สส.พรรคประชาชน พร้อมสื่อมวลชน เดินไปกับตน และตนพร้อมชี้แจงทุกอย่างของงบปี2569 ส่วนประเด็นศาลาแก้วที่พบความชำรุด จำเป็นต้องปรับปรุงเพื่อให้รองรับกับการเปิดลานสักการะ ราชานุสาวรีย์รัชกาลที่7 ที่จะกิดต้นปีหน้า"