SHORT CUT
รักชนก สส.ประชาชน วิพากษ์งบปรับปรุงสภา พิเชษฐ์ รองประธานสภา ใช้สิทธิชี้แจงโต้กลับ เรื่องงบประมาณ 8,000 ล้านบาทและท้าให้ไปตรวจสอบงบกระทรวงแทน
พิเชษฐ์อธิบายเหตุผลสร้างที่จอดรถเพิ่ม เพื่อให้สมดุลกับพื้นที่ใช้สอย ปรับปรุงศาลาแก้วรับอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 7 และสร้างโรงหนัง 4D เพื่อการศึกษาประชาธิปไตย
รักชนกยืนยันไม่ได้กล่าวหาทุจริต แต่อายที่ประชาชนวิพากษ์วิจารณ์ ขณะที่พิเชษฐ์ยืนยันโครงการมีเหตุผลและยินดีให้ตรวจสอบเต็มที่
รองประธานสภาพิเชษฐ์ โต้ สส.รักชนก เหตุตรวจสอบงบปรับปรุงสภา 8,000 ล้าน ชี้แจงเหตุผลสร้างที่จอดรถ ศาลาแก้ว และโรงหนัง 4D
ช่วงหนึ่งในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร รักชนก ศรีนอก สส.พรรคประชาชน ได้อภิปรายถึงกระบวนการตรวจสอบการทุจริตในการใช้งบประมาณ การจัดซื้อจัดจ้างในราคาที่ผิดปกติ และได้ยกตัวอย่างการตรวจสอบพิรุธในโครงการที่ยังไม่ได้รับอนุมัติงบประมาณ เช่น โครงการปรับปรุงรัฐสภา ที่ทำให้สังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในช่วงที่ผ่านมา
ทำให้ “พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน” รองประธานสภาฯ คนที่ 1 ปฏิบัติหน้าที่ประธานในที่ประชุม ใช้สิทธิชี้แจง ทั้งประเด็นการตั้งโครงการสร้างอาคารที่จอดรถ การปรับปรุงศาลาแก้ว การสร้างโรงภาพยนตร์ 4D โดยสรุปจากคำชี้แจงของพิเชษฐ์เป็นประเด็นดังนี้
ไม่เพียงพอต่อผู้ใช้งาน พื้นที่ใช้สอยของสภาผู้แทนราษฎร 400,000 ตารางเมตร ถ้าจะให้สมดุลกับที่จอดรถจะต้องมีที่จอดรถถึง 7,000 คัน วันนี้เรามี 3,000 คัน ถือว่าผิดกฎหมาย โดยสัดส่วนแล้วพื้นที่ใช้สอยต่อที่จอดรถต้องสมดุลกัน ถ้าถามว่าทำไมตอนนั้นไม่ทำ เพราะงบประมาณของสภาในการก่อสร้างกว่า 2 หมื่นล้าน ถูกตัดเหลือ 1.2 หมื่นล้าน ทำให้ได้สร้างสภาใหม่ไปก่อน และหาทางแต่งเติมให้สมบูรณ์ ดังนั้นเมื่อรับมอบแล้วเมื่อกลางปี 2567 ที่ผ่านมา จึงต้องหาทางดูแลให้สมบูรณ์แบบสมศักดิ์ศรีฝ่ายนิติบัญญัติของประเทศ
ศาลามีน้ำล้อมรอบ เต็มไปด้วยตะไคร่ ไม่มีใครเดินเข้าไปเหยียบ เพราะใช้ประโยชน์ไม่ได้ เราปรับปรุง เพราะว่าจะมีการประดิษฐานอนุสาวรีย์ของรัชกาลที่ 7 ในช่วงต้นปีหน้า ศาลาแก้วต้องทำให้เกิดประโยชน์ให้สมดุลกับอนุสาวรีย์ที่จะมาตั้งในต้นปีหน้า ดังนั้นวันนี้ศาลาแก้วเริ่มผุพังแล้ว บางส่วนเป็นหลังคาเปลือย ไม่มีสิ่งห่อหุ้ม และร้อน จึงต้องตั้งงบประมาณปรับปรุงให้ใช้ประโยชน์ให้ได้ “แขกบ้านแขกเมืองที่จะมาใน งานเปิดอนุสาวรีย์ในต้นปีหน้า จำเป็นจะต้องต้อนรับแขกเราต้องทำ”
ท่านใดที่เคยเป็นคณะกรรมาธิการวิสามัญงบประมาณ ท่านจะรู้ว่าท่านนั่งอยู่ตรงนั้นสองเดือน 60 วัน มันลำบากมาก มันไม่มีที่วางเอกสาร มันมีจอคอมพิวเตอร์ที่บังหน้าทั้งหมดมองไม่เห็นใคร เมื่อทำมาแล้วมันใช้การไม่สะดวก ห้องงบประมาณที่รัฐสภาอู่ทองในสมัยก่อนดีกว่านี้อีก กดปุ่มให้คอมพิวเตอร์ลงไปได้
รัฐสภาเก่าเราเคยมีห้องฉาย ซึ่งบรรจุคนได้ 100 - 200 คน ฉายหนังให้พี่น้องประชาชนที่เข้ามาเยี่ยมชมสภาได้ดูประวัติศาสตร์ และความเป็นมาของประชาธิปไตย ซึ่งในวันนี้เรามาเยี่ยมสภา ก็มาสวัสดีแค่นี้ ให้เขารู้ประวัติศาสตร์ ให้รู้ประชาธิปไตย ให้ดื่มด่ำก่อนกลับบ้าน
“ต้องทำครับ ท่านตรวจสอบได้เลย มันล้ำหน้าไม่ได้เหรอครับ มันทันสมัยไม่ได้เหรอครับสภาผู้แทนเนี่ย มันเป็นต้นแบบของความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีไม่ได้เหรอครับ”
“ใครจะตรวจสอบก็ทำได้เลย ถ้างบประมาณผ่านผมยินดีให้ตรวจสอบเต็มที่ ท่านพริษฐ์ครับ ถ้าท่านเก่งจริงอะ ท่านตรวจสอบงบประมาณของกระทรวงต่างๆสิครับ 20,000 หน้า ท่านตรวจสอบได้เลย นี่บ้านของเราเองมีงบแค่ 8,000 ล้าน จะมีรื้อรั้วบ้านทำไม แน่จริงไปตรวจสอบงบประมาณกระทรวง ทบวง กรม มีเป็นแสนๆล้าน”
รักชนก ศรีนอก ใช้สิทธิพาดพิง ระบุว่า ตนไม่ได้กล่าวหาว่าสภามีการทุจริต เพียงแค่ยกตัวอย่างว่าเป็นมิติใหม่ เพราะก่อนหน้านี้ ต้องรอให้มีการทุจริต หรือมีการโกงกินเกิดขึ้นก่อน แต่นี่เราสามารถจับผิดได้ตั้งแต่งบประมาณยังไม่ถูกใช้
“คำถามคือ เมื่อเราทำผิดกฎหมาย แล้วทำไมเราไม่หาคนที่ทำผิดกฎหมายมาลงโทษ จับติดคุก หรือทำอะไรก็ได้ ทำไมต้องนำงบประมาณของประชาชนไปโปะ เพื่อให้เรื่องที่ผิดกลายเป็นเรื่องที่ถูก โดยคนที่ทำผิดยังไม่ถูกลงโทษ”
“นี่มันคือบ้านของเรา ดิฉันเลยอาย อายที่สภามีงบประมาณเหล่านี้ และพี่น้องประชาชนวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่สมเหตุสมผล ดิฉันไม่มั่นใจว่าเราจะมีพลังมากพอไปตัดงบประมาณที่ไม่สมเหตุสมผลเหล่านี้หรือเปล่า” — รักชนก ศรีนอก กล่าว