svasdssvasds

จับตา ‘พีระพันธุ์’ ประชุมกองทุนอนุรักษ์ฯ เร่งเคาะงบก่อนปรับ ครม.

จับตา ‘พีระพันธุ์’ ประชุมกองทุนอนุรักษ์ฯ เร่งเคาะงบก่อนปรับ ครม.

จับตา “พีระพันธุ์” เรียกประชุม “กองทุนอนุรักษ์พลังงาน” สั่งเร่งเคาะงบฯปี 68 ค้างท่อกว่า 3,500 ล้าน เทกระจาดงบฯ ก่อนปรับ ครม.

SHORT CUT

  • นายพีระพันธุ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ได้เรียกประชุมคณะกรรมการส.กทอ.ชุดใหญ่
  • วาระสำคัญคือการอนุมัติร่างประกาศเปิดรับข้อเสนอโครงการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ประจำปี พ.ศ.2568 
  • น่าจับตาว่าการประชุม ส.กทอ. ครั้งนี้ เกิดขึ้นท่ามกลางกระแสการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในเดือน มิ.ย. นี้

จับตา “พีระพันธุ์” เรียกประชุม “กองทุนอนุรักษ์พลังงาน” สั่งเร่งเคาะงบฯปี 68 ค้างท่อกว่า 3,500 ล้าน เทกระจาดงบฯ ก่อนปรับ ครม.

แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงานเปิดเผยว่าในจันทร์ที่ 9 มิ.ย.นี้นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน (ส.กทอ.) ได้เรียกประชุมคณะกรรมการ ส.กทอ.ชุดใหญ่ที่ห้องประชุม 2503 ตึกบัญชาการ 2 ทำเนียบรัฐบาล

จับตา ‘พีระพันธุ์’ ประชุมกองทุนอนุรักษ์ฯ เร่งเคาะงบก่อนปรับ ครม.

โดยมีวาระสำคัญคือการอนุมัติร่างประกาศเปิดรับข้อเสนอโครงการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ที่มีวงเงินประจำปีงบประมาณรอการอนุมัติอยู่กว่า3,500 ล้านบาท 

ทั้งนี้เป็นที่น่าจับตาว่าการประชุม ส.กทอ.ที่มีนายพีระพันธุ์เป็นประธานในครั้งนี้พึ่งจะจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ของปี โดยก่อนหน้านี้มีการประชุมไปครั้งแรกตั้งแต่เมื่อเดือน ม.ค. โดยการเรียกประชุมในครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางกระแสการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.)ที่จะเกิดขึ้นในเดือน มิ.ย. โดยมีรายชื่อของนายพีระพันธุ์อยู่ในข่ายถูกปรับออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเช่นกัน

แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงานกล่าวว่าบอร์ด ส.กทอ.หลายคนได้มีการตั้งข้อสังเกตว่าการประชุมครั้งนี้ถือเป็นการประชุมที่สำคัญของกองทุนอนุรักษ์พลังงาน เนื่องจากมีการอนุมัติการประกาศรับสมัครโครงการที่ขอสนับสนุนจาก ส.กทอ.ซึ่งมีวงเงินงบประมาณของกองทุนที่รออนุมัติอยู่ถึง 3,500 ล้านบาท 

ตามปกติการดำเนินการในเรื่องนี้ต้องมีความรอบคอบ และความโปร่งใสในการดำเนินการ แต่นายพีระพันธุ์กลับสั่งให้มีการเร่งรัดดำเนินการในหลายขั้นตอน ตั้งแต่การเร่งรัดเรียกประชุมคณะกรรมการ รวมทั้งมีคำสั่งให้เร่งรัดออกประกาศเปิดรับข้อเสนอโครงการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานทันทีในวันที่ 10 มิ.ย.ซึ่งเป็นวันรุ่งขึ้นจากการประชุมในครั้งนี้ทันที

นอกจากนั้นในการประชุมครั้งนี้ก็ไม่มีการแจ้งกำหนดการประชุม และการแถลงข่าวให้กับสื่อมวลชนสายพลังงาน หรือสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลรับทราบแต่อย่างใด เสมือนว่านายพีระพันธุ์ไม่ต้องการให้สาธารณชนรับทราบหรือติดตามข่าวสารในเรื่องนี้ จะเห็นว่าการดำเนินการที่เร่งรีบและไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ ย่อมทำให้หน่วยงานที่ไม่ได้รับทราบข่าวสารต่างๆ ไม่สามารถยื่นข้อเสนอโครงการเข้ามาได้ทันตามกำหนดระยะเวลาที่คณะกรรมการคัดเลือกกำหนดไว้ จนอาจเปิดทางให้เครือข่ายพรรคพวกของตนเองสามารถที่จะยื่นโครงการเข้ามาของบประมาณได้ก่อน 

จับตา ‘พีระพันธุ์’ ประชุมกองทุนอนุรักษ์ฯ เร่งเคาะงบก่อนปรับ ครม.

ที่น่าสนใจก็คือช่างเป็นความพอดิบพอดีที่ในปีนี้นายพีระพันธุ์ได้สั่งให้มีการกำหนดหลักเกณฑ์ในการจัดสรรงบประมาณของกองทุนฯในวงเงินกว่า 400 ล้านบาทจากวงเงินทั้งหมด 3,500 ล้านบาท ไปให้กับโครงการที่เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ไม่เคยดำเนินการมาก่อน เป็นโครงการสาธิตในพื้นที่เฉพาะ และให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีที่พัฒนาโดยคนไทยซึ่งจากการกำหนดคุณสมบัติแบบนี้คล้ายกับการล็อกสเป็กในการประมูลราคาโครงการต่างๆ

แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงานกล่าวต่อว่า ช่างเป็นความบังเอิญอย่างไม่น่าเชื่ออีกเช่นกันว่าเมื่อปลายปี 2567 นายพีระพันธุ์ได้ออกมาสนับสนุน “โครงการโซลาร์ราคาถูก” ซึ่งโครงการนี้ยังเป็นโครงการต้นแบบที่ยังไม่ได้ใช้จริงในเชิงพาณิชย์ แต่นายพีระพันธุ์ก็ได้ออกมาเล่นใหญ่สนับสนุนโครงการนี้ถึงขนาดบอกว่าโครงการนี้จะทำให้คนไทยได้ใช้โซลาร์เซลล์ราคาถูกแข่งขันกับเทคโนโลยีระดับโลกได้

อย่างไรก็ตามข้อมูลจากศูนย์ทดสอบผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ สวทช. (PTEC) ระบุว่าอินเวอร์เตอร์ที่ใช้กับแผงโซลาร์เซลล์ในโครงการต้นแบบนี้ยังไม่ได้มาตรฐาน และมีการตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพบด้วยว่าวัสดุอุปกรณ์บางตัวนั้นคนประดิษฐ์ซื้อจากต่างประเทศ มาแกะแล้วประกอบใหม่เพื่อให้ราคาถูกลง ไม่ได้เข้าข่ายการสร้างเทคโนโลยีด้านพลังงานใหม่แต่อย่างใด ที่สำคัญหากปล่อยให้มีการใช้งานโดยยังไม่ผ่านมาตรฐานการทดสอบอาจเกิดอันตรายกับบ้านเรือนประชาชนได้จึงต้องจับตาว่าหากมีการยื่นโครงการนี้เข้ามาเพื่อของบฯจากกองทุนอนุรักษ์ฯก็เท่ากับว่านายพีระพันธุ์ใช้อำนาจหน้าที่เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับโครงการที่ตนเองสนับสนุน ทั้งที่โครงการยังไม่ผ่านการทดสอบ 

“การเร่งรีบประชุม และอนุมัติการออกประกาศรับสมัครโครงการ จึงเป็นเหมือนบันไดขั้นแรกที่นายพีระพันธุ์จะได้ควบคุมการอนุมัติงบประมาณ และโครงการที่จะได้เงินจากกองทุนฯนี้ ซึ่งคงหนีไม่พ้นการเอื้อประโยชน์ให้กับพวกพ้อง หรือนำเงินที่ได้นี้ไปต่อยอดโครงการที่จะสร้างประโยชน์ทางการเมืองให้กับตัวเอง หากมีการประชุมเกิดขึ้นจริงแล้วมีการอนุมัติให้เริ่มออกประกาศรับข้อเสนอโครงการเข้ามาสู่การพิจารณา ก็จะเป็นจุดเริ่มต้นของความเสี่ยงของคณะกรรมการทุกคนที่อาจติดร่างแหไปด้วย เหมือนที่ในอดีตเคยเกิดปัญหากับอดีตข้าราชการระดับสูงของกระทรวงพลังงานที่ถูกสอบสวนและลงโทษสถานหนัก” แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน กล่าว

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯและรมว.พลังงาน ยังได้มีการลงนามคำสั่งแต่งตั้ง “นายอธึก อัศวานันท์” ที่ปรึกษาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ซึ่งเป็นคนสนิทของตนเองมาเป็นประธานอนุกรรมการบริหารกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน 

คณะกรรมการชุดนี้จะทำหน้าที่ในการคัดเลือกและอนุมัติโครงการที่มีการยื่นเสนอของบประมาณเข้ามาให้ กรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน (ส.กทอ.) พิจารณา ซึ่งการดำเนินการในลักษณะนี้เท่ากับว่านายพีระพันธุ์เข้ามาควบคุมการคัดเลือกโครงการต่างๆ ที่จะได้รับอนุมัติเงินสนับสนุนจาก ส.กทอ.ด้วยตนเอง ผ่านการทำงานของคณะอนุกรรมการบริหารกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน

จับตา ‘พีระพันธุ์’ ประชุมกองทุนอนุรักษ์ฯ เร่งเคาะงบก่อนปรับ ครม.