พรรคประชาชน-ภูมิใจไทย เตรียมคว่ำงบฯ 69 ชี้งบฯ ขาดโปร่งใส

เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 พรรคการเมืองสำคัญสองพรรค ได้แก่ พรรคภูมิใจไทย และ พรรคประชาชน ได้ออกมาประกาศจุดยืนอย่างชัดเจนในการ โหวตคว่ำร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 โดยต่างฝ่ายต่างให้เหตุผลถึงความไม่เห็นด้วยกับแนวคิดและการจัดสรรงบประมาณฉบับนี้ ซึ่งเน้นย้ำถึงประเด็นความไม่เป็นธรรม การขาดการตอบสนองต่อข้อเสนอแนะ และการจัดสรรที่ไม่เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน

โดยพรรคภูมิใจไทย ไม่เห็นหัวประชาชน และความไม่เป็นธรรมในการจัดสรร เวลา 16.00 น. ของวันที่ 15 ส.ค. 2568 น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี ในฐานะโฆษกพรรคภูมิใจไทย ได้เปิดเผยถึงมติของพรรคที่ตัดสินใจโหวตคว่ำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2569 เหตุผลหลักมาจากความไม่เห็นด้วยกับวิธีคิดในการจัดทำงบประมาณฉบับนี้ โดยมีรายละเอียดดังนี้

งบประมาณส่วนใหญ่ไม่เน้นประชาชน: พรรคภูมิใจไทยมองว่า รายละเอียดงบประมาณส่วนใหญ่เน้นไปที่ งบก่อสร้าง และงบครุภัณฑ์ ในขณะที่งบประมาณที่จัดสรรเพื่อประชาชนจริงๆ มีน้อยมาก

งบกลางขาดความโปร่งใส: พรรคมีความกังวลต่องบกลางที่ ไม่มีที่มาและไม่รู้ที่ไปของงบประมาณ ซึ่งพรรคได้มีการท้วงติงไปแล้ว

การจัดสรรงบท้องถิ่นไม่เป็นธรรม: หนึ่งในประเด็นสำคัญที่พรรคภูมิใจไทยหยิบยกขึ้นมาคือ การจัดสรรงบประมาณให้กับ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ที่ไม่มีความเป็นธรรม และรัฐบาลไม่รับฟังเหตุผลที่พรรคได้ท้วงติงไป

ขณะที่พรรคประชาชน: ชี้จุดผิดปกติ "งบไขมัน" แต่รัฐบาลไม่แก้ไข ก่อนหน้าพรรคภูมิใจไทย ในเวลา 13.00 น. ของวันเดียวกัน (15 ส.ค. 2568) น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมด้วย สส.ของพรรค ได้ร่วมกันแถลงจุดยืนในการโหวตคว่ำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2569 ในวาระ 3 พรรคประชาชนได้พิจารณาอย่างถี่ถ้วนและมีมติไม่เห็นชอบด้วยเหตุผลดังนี้

รัฐบาลเมินเฉยข้อเสนอแนะ: แม้ว่า สส.พรรคประชาชนจะมีการให้ข้อเสนอแนะและข้อคิดเห็นในการ ปรับลดหรือตัดทอนงบประมาณ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและคุ้มค่ากับการใช้จ่ายเงินภาษี รวมถึงการเตรียมความพร้อมสำหรับสถานการณ์ในอนาคต แต่ รัฐบาลหรือกรรมาธิการเสียงข้างมากกลับไม่ได้นำข้อเสนอแนะเหล่านี้ไปปรับปรุงเปลี่ยนแปลงงบประมาณเลยแม้แต่น้อย

งบประมาณ "ไขมัน" ไม่ถูกลด: พรรคประชาชนได้ชี้ให้เห็นถึงจุดที่ผิดปกติ ซึ่งเป็น "งบไขมัน" หรือรายจ่ายที่เกินจำเป็น สิ้นเปลือง และไม่คุ้มค่า ซึ่งสามารถลด ละ หรือเลื่อนโครงการเหล่านั้นออกไปได้ เพื่อเก็บงบประมาณไว้ใช้ในยามฉุกเฉินหรือเมื่อเกิดวิกฤตเศรษฐกิจของประเทศ อย่างไรก็ตาม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง และพรรคไม่สามารถแก้ไขงบประมาณใดๆ ได้แม้แต่มาตราเดียว เนื่องจากเป็นเสียงข้างน้อยในสภา

การตัดสินใจโหวตคว่ำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2569 ของทั้งพรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาชน สะท้อนให้เห็นถึง ความไม่พอใจอย่างรุนแรงต่อกระบวนการและเนื้อหาของการจัดทำงบประมาณ ทั้งสองพรรคต่างมีความกังวลคล้ายกันในประเด็นเรื่อง การจัดสรรที่ไม่เป็นธรรม ไม่ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง และการขาดความยืดหยุ่นของรัฐบาลในการรับฟังและปรับปรุงแก้ไขงบประมาณให้มีประสิทธิภาพและโปร่งใสยิ่งขึ้น การโหวตคว่ำงบประมาณทั้งฉบับนี้จึงเป็นสัญญาณที่สำคัญจากพรรคการเมืองที่แสดงออกถึงความรับผิดชอบในการตรวจสอบการใช้งบประมาณแผ่นดิน ซึ่งเป็นเงินภาษีของประชาชน