svasdssvasds

ประธานสภาฯ บรรจุวาระ "โหวตนายกฯ" คนใหม่ 5 ก.ย. หลัง พ.ร.ฎ.ยุบสภา ถูกตีกลับ

ประธานสภาฯ บรรจุวาระ "โหวตนายกฯ" คนใหม่ 5 ก.ย. หลัง พ.ร.ฎ.ยุบสภา ถูกตีกลับ

ประธานสภาฯ บรรจุระเบียบวาระ "โหวตนายกฯ คนใหม่" 5 ก.ย. หลังจากร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาของเพื่อไทย ถูกตีกลับมายังทำเนียบฯ ปมข้อขัดแย้งทางกฎหมาย

SHORT CUT

  • ประธานสภาฯ บรรจุวาระด่วนเพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ในวันที่ 5 กันยายน 2568
  • การนัดประชุมเกิดขึ้นหลังจากร่างพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ยุบสภาที่เสนอโดยรัฐบาลรักษาการถูกตีกลับ
  • ร่าง พ.ร.ฎ. ยุบสภาถูกส่งคืนเนื่องจากมีปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับอำนาจของรัฐบาลรักษาการในการทูลเกล้าฯ เสนอ

ประธานสภาฯ บรรจุระเบียบวาระ "โหวตนายกฯ คนใหม่" 5 ก.ย. หลังจากร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาของเพื่อไทย ถูกตีกลับมายังทำเนียบฯ ปมข้อขัดแย้งทางกฎหมาย

มีรายงานว่า นายอาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้มีหนังสือด่วนที่สุด แจ้งไปยังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) วันที่ 3 ก.ย.2568 

เรื่อง ระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพิ่มเติม 

โดยเนื้อหา ระบุว่า ด้วยประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้มีคำสั่งให้บรรจุเรื่องตามระเบียบวาระ เรื่องด่วนที่ 8 พิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 159 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เพิ่มเติมในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ 26 ปีที่ 3 ครั้งที่ 20 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ ในวันศุกร์ที่  5 กันยายน 2568 

จึงเรียนมาเพื่อทราบ โดยระเบียบวาระการประชุมครั้งดังกล่าว จะเป็นไปตามที่แนบมา

ประธานสภาฯ บรรจุวาระ "โหวตนายกฯ" คนใหม่ 5 ก.ย. หลัง พ.ร.ฎ.ยุบสภา ถูกตีกลับ

การนัดประชุมโหวตนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของสภาผู้แทนราษฎร อย่างเป็นทางการ เกิดขึ้นหลังจากร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภา ที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ผู้ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ได้นำขึ้นทูลเกล้าฯ เมื่อวันที่ 2 ก.ย.2568 ท่ามกลางความเห็นต่างของหลายฝ่ายในข้อกฎหมายว่า มีอำนาจดำเนินการหรือไม่ 

กระทั่ง เวลาประมาณ 14.30 น. (3 ก.ย.68) ทางสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้รับแจ้งเป็น หนังสือตีกลับจากสำนักองคมนตรี ในฐานะหน่วยงานกลั่นกรอง และถวายความเห็นประกอบการกราบบังคมทูล เพื่อทรงมีพระบรมราชวินิจฉัย และทรงลงพระปรมาภิไธย พร้อมกับส่งคืนร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภามายัง สลค. เพื่อให้พิจารณาข้อกฎหมายอย่างถี่ถ้วน เนื่องจากเป็นเรื่องที่มีปัญหาข้อขัดแย้ง ว่ากระทำได้หรือไม่

ประกอบกับเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้ทำความเห็นประกอบว่า รัฐบาลรักษาการ ไม่สามารถกราบบังคมทูลร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาได้ จึงไม่สามารถกราบบังคมทูล เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย

ทั้งนี้หลังจาก สลค.ได้รับหนังสือแจ้งกลับมา จึงได้แจ้งต่อนายภูมิธรรม เวชยชัย  

related