ผลโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ชี้ชะตาทิศทางการเมืองไทย

วันนี้ (5 ก.ย. 2568) ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรจะมีการลงมติครั้งสำคัญเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ของประเทศไทย หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร พ้นจากตำแหน่ง ทำให้คณะรัฐมนตรีทั้งคณะต้องสิ้นสุดลงไปด้วย บทความนี้จะสรุปขั้นตอนและข้อมูลสำคัญที่ควรรู้เกี่ยวกับการลงมติในครั้งนี้

ใครคือผู้ที่จะได้รับเลือกเป็นนายกฯ คนใหม่?

ผู้ที่จะก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 จะต้องได้รับคะแนนเสียงสนับสนุนจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) มากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวน สส. ทั้งหมดที่มีอยู่ โดยปัจจุบันมีจำนวน สส. ทั้งหมด 492 คน ดังนั้น ผู้ที่ได้รับเลือกจะต้องมีคะแนนเสียงอย่างน้อย 247 เสียงขึ้นไป

ในการเสนอชื่อ ผู้ถูกเสนอชื่อแต่ละคนต้องได้รับการรับรองจาก สส. ไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของจำนวน สส. ทั้งหมด หรืออย่างน้อย 50 คน

ขั้นตอนการลงมติเป็นอย่างไร?

การลงมติครั้งนี้จะถูกบรรจุเป็นเรื่องด่วนลำดับที่ 8 ในการประชุมสภาฯ โดยมีขั้นตอนที่สำคัญดังนี้

• วิธีการลงคะแนน การลงมติจะใช้วิธีการขานชื่อ สส. ทีละคนตามลำดับตัวอักษร ซึ่งเป็นวิธีการที่เปิดเผยและโปร่งใ
• ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร คาดว่ากระบวนการทั้งหมดจะใช้เวลาไม่นาน และทราบผลภายในวันนี้
• ไม่มีการแสดงวิสัยทัศน์หรืออภิปราย ผู้ถูกเสนอชื่อไม่ต้องขึ้นแสดงวิสัยทัศน์ และสมาชิกสภาฯ จะไม่มีการอภิปรายเกี่ยวกับคุณสมบัติหรือนโยบายของผู้ถูกเสนอชื่อก่อนการลงมติ

เมื่อที่ประชุมมีมติเห็นชอบแล้ว ประธานสภาฯ จะเป็นผู้ส่งรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อให้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ต่อไป

การลงมติในวันนี้จึงถือเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์สำคัญที่ชี้ชะตาผู้นำประเทศคนใหม่และทิศทางการเมืองของไทยนับจากนี้

ศึกชิงเก้าอี้นายกฯ อนุทิน VS ชัยเกษม

การประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 กำลังจะมีความเข้มข้นขึ้น เมื่อมีผู้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงตำแหน่งถึงสองคนจากสองพรรคการเมืองใหญ่ ได้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล จากพรรคภูมิใจไทย และ ศ.พิเศษ ชัยเกษม นิติสิริ จากพรรคเพื่อไทย ทั้งสองมีแนวทางและข้อเสนอที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ดังนี้

• นายอนุทิน ชาญวีรกูล ชิงตำแหน่งด้วยเสียงข้างน้อย

นายอนุทิน หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้ประกาศพร้อมเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย แม้จะมีเสียง สส. ไม่ถึง 247 เสียง แต่ก็ได้รับการสนับสนุนจาก พรรคประชาชน ซึ่งเป็นแกนนำฝ่ายค้านเดิม โดยพรรคประชาชนได้ทำข้อตกลงที่ชัดเจนในรูปแบบ บันทึกความเข้าใจ (MOU) 5 ข้อ ซึ่งมีจุดยืนหลักคือ ผลักดันให้เกิดการยุบสภาและจัดทำประชามติเพื่อร่างรัฐธรรมนูญใหม่

จุดเด่น นายอนุทินแสดงความมั่นใจว่าจะสามารถรวบรวมเสียงสนับสนุนได้ ขณะที่พรรคประชาชนยืนยันว่าจะไม่มีการส่งคนเข้าร่วมรัฐบาลเพื่อรับตำแหน่งรัฐมนตรี หรือการต่อรองผลประโยชน์ใดๆ โดยจะทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลในฐานะฝ่ายค้านต่อไป

• ศ.พิเศษ ชัยเกษม นิติสิริ ข้อเสนอยุบสภาทันที

พรรคเพื่อไทยยืนยันส่งชื่อ ศ.พิเศษ ชัยเกษม นิติสิริ เข้าชิงตำแหน่งด้วยข้อเสนอที่น่าจับตาคือ หากได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี จะประกาศยุบสภาทันที หลังจากถวายสัตย์ปฏิญาณและแถลงนโยบายต่อรัฐสภา

จุดเด่น ข้อเสนอนี้ตอบโจทย์ความต้องการของหลายฝ่ายที่ต้องการให้มีการเลือกตั้งใหม่ อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก ศ.พิเศษ ชัยเกษม ไม่ได้เป็น สส. จึงไม่สามารถแสดงวิสัยทัศน์ในที่ประชุมสภาฯ ได้

ไทม์ไลน์ศึกชิงเก้าอี้นายกฯ (5 ก.ย. 68)

การประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและพลิกผันตลอดช่วงเช้า สรุปเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นก่อนการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 32

• 09.00 น. นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เริ่มเปิดการประชุม แต่ต้องรอสมาชิกเนื่องจากองค์ประชุมยังไม่ครบ
• 09.09 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล เดินทางมาถึงอาคารรัฐสภา พร้อมเปิดเผยความรู้สึกว่า "ตื่นเต้นเป็นธรรมดา"
• 09.40 น. - เคลื่อนไหว "ขอเลื่อนวาระ"
• 09.40 น. น.ส.บุญย์ธิดา สมชัย สส.จากพรรคภูมิใจไทย เสนอญัตติขอเลื่อนวาระการโหวตนายกฯ จากลำดับที่ 8 ขึ้นมาพิจารณาก่อนทันที
• 09.50 น. สส.พรรคเพื่อไทยลุกขึ้นคัดค้าน ทำให้ประธานสภาฯ ต้องเปิดให้มีการอภิปรายโดยมี สส. ลงชื่ออภิปรายถึง 9 คน
• 10.20 น. - เสียงค้านจาก "พรรคประชาชาติ"
• 10.20 น. นายทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม จากพรรคประชาชาติ ลุกขึ้นอภิปรายขอให้เลื่อนการโหวตออกไปก่อน โดยให้เหตุผลว่าบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างพรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาชน เป็นการบ่อนทำลายรัฐธรรมนูญ และขู่ว่าจะยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ
• 11.22 น. การอภิปรายเสร็จสิ้นลง และสภาฯ เข้าสู่ขั้นตอนการลงมติเพื่อตัดสินใจว่าจะเลื่อนวาระโหวตนายกฯ ขึ้นมาหรือไม่
• 11.35 น. ผลการลงคะแนนปรากฏว่า สภาฯ มีมติเห็นชอบให้เลื่อนวาระโหวตนายกฯ ด้วยคะแนน 313 ต่อ 142 เสียง ซึ่งถือเป็นชัยชนะของฝ่ายที่ต้องการให้การโหวตเกิดขึ้นทันที
• 12.05 น. เริ่มเสนอชื่อชิงตำแหน่ง หลังจากนั้นไม่นาน สภาฯ ก็เริ่มกระบวนการโหวตอย่างเป็นทางการ

นายไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย เสนอชื่อ นายอนุทิน ชาญวีรกูล

นายสรวงศ์ เทียนทอง สส.พรรคเพื่อไทย เสนอชื่อ ศ.พิเศษ ชัยเกษม นิติสิริ

• 12.30 น. ประธานสภาฯ เปิดโอกาสให้ สส. อภิปรายสนับสนุนผู้ถูกเสนอชื่อทั้งสองคนเป็นเวลา 1 ชั่วโมง ก่อนที่จะเข้าสู่ขั้นตอนการลงมติโหวตเลือกนายกฯ อย่างเป็นทางการ
• เวลา 14.53 น. การออภิปราย จำนวน 16 คน เสร็จสิ้น  และประธานสภา ชี้แจงขั้นตอนการลงคะแนนเสียง โหวตเลือกนายกฯ
• เวลา 15.00 น. เริ่มต้นขั้นตอนการลงคะแนนเสียง โหวตเลือกนายกฯ โดยการขานชื่อเรียงลำดับ 
• ล่าสุดเวลา 15.50 น.สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรลงมติให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ขณะที่นายชัยเกษมได้คะแนน 152 เสียง โดยงดออกเสียง 27 เสียง