SHORT CUT
"วรภัค ธันยาวงษ์" ชี้แจงทุกข้อกล่าวหา หลังถูกพาดพิงเอี่ยวขบวนการสแกมเมอร์ข้ามชาติ พร้อมลาออกเพื่อสู้คดี เปิดทุกข้อกล่าวหา-คำชี้แจง
วันที่ 22 ต.ค. 2568 นายวรภัค ธันยาวงษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง แถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงอย่างเป็นทางการ หลังจากมีกระแสข่าวพาดพิงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการสแกมเมอร์ข้ามชาติ
ก่อนการแถลงข่าว นายวรภัคได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Vorapak Tanyawong ชี้แจงถึงกรณีดังกล่าวว่า เป็นความพยายามของ "ขบวนการถ่วงความเจริญของประเทศชาติ" ที่ต้องการดิสเครดิตรัฐบาล โดยยืนยันความบริสุทธิ์ของตนเองและครอบครัว โดยเฉพาะข้อกล่าวหาล่าสุดที่พาดพิงถึงภรรยาว่ารับสินบนเป็นสกุลเงินดิจิทัล (คริปโท) ซึ่งนายวรภัค ยืนยันว่า “ภรรยาผมยังไม่เคยเกี่ยวข้องอะไรใดๆ ไม่เคยมีบัญชีคริปโทเคอร์เรนซีใดๆ ทั้งสิ้น”
สาเหตุที่การชี้แจงล่าช้า เนื่องจากตนเองเพิ่งเดินทางกลับจากการประชุมประจำปีของธนาคารโลก และ IMF ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา และทุ่มเทเวลาส่วนใหญ่ในการผลักดันนโยบายเศรษฐกิจสำคัญของรัฐบาล ซึ่งล่าสุดเพิ่งผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไปเมื่อวานนี้
"รัฐบาลนี้มีเวลาในการทำงานน้อยมาก แต่เราพยายามทุ่มเทกันเต็มที่ ผมใช้เวลาส่วนใหญ่ขับเคลื่อนผลักดันเรื่องงานเป็นหลัก เลยทำให้การชี้แจงข้อเท็จจริงส่วนตัวล่าช้าไปหน่อย"
นอกจากนี้ รมช.คลัง ยังได้ประกาศว่าจะเริ่มดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการใส่ร้ายป้ายสี และบิดเบือนข้อเท็จจริงอย่างเต็มที่ พร้อมแสดงความผิดหวังต่อบุคคลที่เคยชื่นชม แต่ปัจจุบันมีอคติทางการเมือง และพยายามบิดเบือนข้อมูล
ในช่วงท้ายของโพสต์ นายวรภัคได้ขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาให้ พร้อมทั้งขอบคุณทีมงานธนาคารกรุงไทยที่ทำงานอย่างหนักในโครงการ "คนละครึ่ง พลัส" ซึ่งสะท้อนว่าตนเองมุ่งมั่นกับการทำงานเพื่อส่วนรวมเป็นหลัก โดยการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในบ่ายวันนี้คาดว่าจะเป็นการชี้แจงรายละเอียดทั้งหมดอีกครั้ง
ล่าสุด เวลา 14.00 น. นายวรภัค ธันยาวงษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้ออกมาแถลงชี้แจงอย่างละเอียดถึงกรณีที่ถูกกล่าวหาว่าพัวพันกับกลุ่มมิจฉาชีพข้ามชาติ หรือ "แก๊งสแกมเมอร์" รวมถึงข้อกล่าวหาเรื่องการเป็นนอมินีและผลประโยชน์ส่วนตัว โดยยืนยันความบริสุทธิ์และประสบการณ์ทำงานด้านการเงินกว่า 30 ปี ก่อนประกาศลาออกจากตำแหน่งเพื่อเดินหน้าต่อสู้ทางกฎหมายอย่างเต็มที่
นายวรภัคยืนยันอย่างหนักแน่นว่า ไม่เคยเกี่ยวข้องใดๆ กับขบวนการหลอกลวงต้มตุ๋น หรือแก๊งสแกมเมอร์ ทั้งในกัมพูชาและที่อื่นใดในโลก โดยชี้แจงข้อเท็จจริงที่ถูกโยงดังนี้
ประเด็นการซื้อหุ้นบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส (Finansia Syrus) ถูกกล่าวหาว่าเป็นการทำธุรกรรมในฐานะนอมินี แต่ นายวรภัค ชี้แจงว่า
ที่มาของการซื้อหุ้น ในปี 2564 ตนเห็นโอกาสในการเข้าซื้อหุ้น 29% จากผู้ถือหุ้นเดิมในราคาที่เหมาะสม เพื่อสร้างการเติบโตของบริษัทในอนาคต ซึ่งเป็นไปตามกฎหมาย
การจัดหาเงินทุน การซื้อหุ้นดังกล่าวใช้เงินไม่กี่ร้อยล้านบาท เพื่อเข้าควบคุมบริษัทที่มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 2 มีการจัดตั้งบริษัท "ฟิวกริม ฟินันซ่า" ถือหุ้น 60/40 เพื่อเข้าซื้อหุ้น 29% และทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ (Tender Offer) ในเวลาต่อมา
แหล่งเงินกู้ที่ถูกเชื่อมโยง ได้มีการขอวงเงินกู้จาก 2 ส่วน คือ Capital Asia Investment (ดูแลโดยรัฐบาลสิงคโปร์) และ BIC Bank ลาว (ดูแลโดยนักธุรกิจลาว) แต่สุดท้ายไม่ได้มีการกู้เงินจากแหล่งใดเลย เนื่องจากไม่มีผู้ถือหุ้นรายอื่นขายหุ้นเพิ่ม
ความเกี่ยวข้องกับ BIC กัมพูชา ตนไม่ทราบว่า BIC Bank ลาว เกี่ยวพันกับ BIC กัมพูชาหรือไม่ แต่เท่าที่ทราบในปัจจุบันไม่มีความเกี่ยวข้องกันแล้ว เนื่องจาก BIC กัมพูชา มี Apsara Holding ถือหุ้น 99% และนายยิมเลียก ถือ 1%
การขายหุ้น: หลังจากเข้าถือหุ้น ได้มีการปรับโครงสร้างองค์กร และจ้างบริษัทที่ปรึกษา McKinsey เข้ามา แต่การปรับไม่เป็นไปตามเป้าหมาย จึงตัดสินใจ ขายหุ้นทั้งหมดในปี 2567 ให้กับนายช่วงชัย หุ้นส่วนเดิม และ ลาออกจากตำแหน่งกรรมการทุกตำแหน่ง โดยไม่ได้เกี่ยวข้องกับการบริหารบริษัทอีก
ในช่วงท้ายของการแถลง นายวรภัคประกาศ ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง โดยให้เหตุผลว่า