
SHORT CUT
"จ่าเอก ยศสิงห์" ลุยน้ำอยุธยา จับมือ อบจ. เยียวยา 400 ครัวเรือน สั่งด่วนโรงงานห้ามปล่อย “น้ำเสียเด็ดขาด” ย้ำ "เราคือทีมเดียวกัน ทีมของประชาชน"
พระนครศรีอยุธยา – กระทรวงอุตสาหกรรมเดินหน้าประสานงานเชิงรุก หลังได้รับสัญญาณจาก นางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ถึงสถานการณ์อุทกภัยที่กำลังส่งผลกระทบอย่างหนักต่อพี่น้องชาวอยุธยา โดย จ่าเอก ยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ไม่รอช้า นำทีมผู้บริหารกระทรวงฯ ลงพื้นที่ทันที เพื่อร่วมดูแล เยียวยา และวางมาตรการป้องกันความเดือดร้อนของประชาชนแบบครบวงจร
ลงพื้นที่ ตำบลบางกระสั้น อำเภอบางปะอิน ทั้งในเขตชุมชนทั่วไปและพื้นที่อพยพยาก เช่น “บ้านดาบ” ซึ่งประชาชนจำนวนมากต้องพายเรือออกจากบ้านที่ถูกน้ำล้อมเพื่อมารับถุงยังชีพ
กว่า 400 ครัวเรือน ได้รับถุงยังชีพและน้ำดื่มจากกระทรวงอุตสาหกรรมในครั้งนี้ โดยมี นายกสมทรง พันธ์เจริญวรกุล และผู้นำท้องถิ่นร่วมประสานงานอย่างใกล้ชิด แสดงถึงความร่วมมือที่เหนียวแน่นของรัฐกับพื้นที่
รมช.อุตสาหกรรมย้ำชัดระหว่างลงพื้นที่ว่า “ขอให้ทุกโรงงานหยุดการปล่อยน้ำเสียในช่วงน้ำท่วมทันที เพื่อไม่ให้ปัญหาสิ่งแวดล้อมซ้ำเติมความเดือดร้อนของชาวบ้าน ถ้าโรงงานไหนทำผิด ประชาชนแจ้งได้ทุกช่องทาง นโยบายของผมคือ ปิดเร็ว–เปิดเร็ว–พึ่งพาได้”
พร้อมสั่งให้ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด จัดระบบเฝ้าระวังรอยรั่วน้ำเสียแบบเข้มงวด รวมถึงให้สถานประกอบการในพื้นที่ร่วมทำ CSR สนับสนุนคชาชีพผู้เดือดร้อนและช่วยงานท้องถิ่น เช่น วางกระสอบทราย ทำทางสัญจรชั่วคราว และจัดทีมช่วยเหลือพิเศษสำหรับผู้สูงอายุ–ผู้พิการ
จ่าเอก ยศสิงห์ ได้กล่าวชื่นชมการทำงานของท้องถิ่น โดยเฉพาะนายกสมทรง พันธ์เจริญวรกุล ว่าเป็นผู้นำที่ห่วงใยประชาชนอย่างแท้จริง และกระทรวงอุตสาหกรรมพร้อมเคียงข้างอย่างเต็มที่
“ทันทีที่นายกสมทรงแจ้งว่าชาวอยุธยาเดือดร้อน ผมรีบมาทันที เพราะเราคือทีมเดียวกัน ทีมของประชาชน หน้าที่ของรัฐคือไม่ปล่อยให้ประชาชนสู้ลำพัง”
นอกจากนี้ กระทรวงยังเตรียมจัดตั้ง “อาสาสมัครอุตสาหกรรม” เปิดให้ทุกอาชีพเข้าร่วม เพื่อเป็นเครือข่ายแจ้งเหตุและช่วยดูแลโรงงาน–ชุมชนในสถานการณ์วิกฤต
หนึ่งในภาพที่สะท้อนการทำงานอย่างจริงใจ คือช่วงที่ชาวบ้านบ้านดาบต้องพายเรือมารับถุงยังชีพ และจ่าเอกยศสิงห์เดินลุยน้ำลงไปช่วยขนถุงยังชีพมอบให้เอง
ประชาชนจำนวนมากกล่าวว่า “ดีใจที่รัฐบาลไม่ทิ้งพื้นที่ น้ำท่วมทุกปี แต่ปีนี้รู้สึกว่ามีคนเห็นความลำบากของเราเร็วกว่าเดิม”