
SHORT CUT
กกต.ประกาศจำนวน สส. แบ่งเขตทั้ง 77 จังหวัด พบกรุงเทพฯ มากที่สุด 33 คน รองลงมาคือนครราชสีมา 16 คน ส่วนปทุมธานี-สมุทรสาคร มี สส.เพิ่มขึ้นมา 1 คน ด้านนครศรีธรรมราช-ลพบุรี หายไป 1 คน
หลังจากที่ราชกิจจานุเบกษา ลงประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เรื่องจำนวน สส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง และเขตเลือกตั้งของแต่ละจังหวัดจะพึงมี โดยคำนวณตามจำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธ.ค.2567
ทั้งนี้จำนวนราษฎรสัญชาติไทย ณ วันดังกล่าว ทั้งสิ้น 64,953,661 คน โดยเฉลี่ย 162,384 คน ต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหนึ่งคน ประกาศนี้เป็นการเผื่อไว้ในกรณีที่รัฐบาลยุบสภาก่อนสิ้นปี 2568
ทั้งนี้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ออกประกาศจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง จำนวน 400 คน สำหรับจังหวัดที่มี สส. แบบแบ่งเขตมากที่สุด ได้แก่
ย้อนไปเมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 2568 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ออกเอกสารข่าวชี้แจงการคำนวณจำนวน สส.เขตเลือกตั้งและเขตเลือกตั้ง สส. แต่ละจังหวัดพึงมี โดยใช้จำนวนราษฎรที่มีสัญชาติไทย ณ วันที่ 31 ธันวาคม ก่อนปีที่จะมีการเลือกตั้ง
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ขอประชาสัมพันธ์กรณีการประกาศจำนวน สส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งและจำนวนเขตเลือกตั้งของแต่ละจังหวัดจะพึงมี ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2568 ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561
1. การกำหนดจำนวน สส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง จำนวน 400 เขต เป็นการดำเนินการตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 86 (1) ซึ่งบัญญัติให้ไช้จำนวนราษฎรทั้งประเทศตามหลักฐานการทะเบียนราษฎรที่ประกาศในปีสุดท้ายก่อนปีที่มีการเลือกตั้ง เฉลี่ยด้วยจำนวน สส. 400 คน โดยได้นำจำนวนราษฎรสัญชาติไทยทั่วราชอาณาจักร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 จำนวน 64,953,661 คน มาใช้เป็นฐานคำนวณ หารด้วยจำนวน สส. 400 คน ส่งผลให้มีค่าเฉลี่ย 162,384 คน ต่อ สส. 1 คน (รายละเอียดตามประกาศ กกต. จำนวน สส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง)
2. กรณีที่มีการยุบสภาและต้องจัดให้มีการเลือกตั้งเป็นการทั่วไป ปี พ.ศ. 2569 และสำนักทะเบียนกลางได้มีประกาศ เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักรตามหลักฐานทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2568 จะกำหนดจำนวน สส. และเขตเลือกตั้ง สส. ในแต่ละจังหวัดใหม่ โดยนำจำนวนราษฎรสัญชาติไทย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2568 มาใช้เป็นฐานคำนวณตามรัฐธธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ อาจส่งผลให้บางจังหวัดมีจำนวน สส. และเขตเลือกตั้งเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้
3. จำนวน สส. และจำนวนเขตเลือกตั้งที่แต่ละจังหวัดพึงมี ใช้ข้อมูลจำนวนราษฎรที่มีสัญชาติไทยเท่านั้น โดยไม่ได้นำข้อมูลจำนวนราษฎรที่ไม่มีสัญชาติมาใช้ในการคำนวณจำนวน สส.และจำนวนเขตเลือกตั้ง (ซึ่งเป็นไปตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธธรรมนูญที่ 2/2566 เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2566 ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยว่า การกำหนดหนดจำนวน สส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่แต่ละจังหวัดจะพึงมีตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 86 (1) ที่กำหนดให้ใช้จำนวนราษฎรทั้งประเทศตามหลักฐานการทะเบียนราษฎรที่ประกาศในปีสุดท้ายก่อนปีที่มีการเลือกตั้ง นั้น คำว่า "ราษฎร" ไม่รวมถึงผู้ไม่ได้สัญชาติไทย (รายละเอียดตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธธรรมนูญ)
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ขอเรียนว่า การกำหนดจำนวน สส. แบบแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เป็นการดำเนินการโดยยึดหลักกฎหมาย รัฐธรรมนูญ และคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญอย่างเคร่งครัด
ที่มา : สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง