คนไทยต้องรู้! ลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้า-ลงประชามติ ต้องแยกกันลงทะเบียน
คนไทยต้องเลือกตั้งใหม่ในปี2569 ความหวังของผู้คนที่จะแก้ไขปัญหาต่างๆ แต่คนไทยต้องรู้! ลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้า-‘ลงประชามติ’ ต้องแยกกันลงทะเบียน
SHORT CUT
- แม้จะจัดในช่วงเวลาใกล้เคียงหรือวันเดียวกัน แต่การลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า และการลงทะเบียนออกเสียงประชามติ เป็นคนละกระบวนการ ผู้มีสิทธิต้องลงทะเบียนแยกกัน หากต้องการใช้สิทธิให้ครบถ้วน
- การออกเสียงประชามติจะไม่มีการลงคะแนนล่วงหน้าเหมือนเลือกตั้ง สส. แต่สามารถลงทะเบียนขอออกเสียงประชามตินอกเขตได้ และต้องไปใช้สิทธิในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 ณ หน่วยออกเสียงกลางที่ลงทะเบียนไว้เท่านั้น
- วันเลือกตั้งและออกเสียงประชามติคือวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 ส่วนการเลือกตั้งล่วงหน้าสำหรับ สส. จัดวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2569 โดยเปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่ 20 ธันวาคม 2568 ถึง 5 มกราคม 2569 การติดตามประกาศจาก กกต. อย่างใกล้ชิดจึงเป็นกุญแจไม่ให้พลาดสิทธิของตนเอง
คนไทยต้องเลือกตั้งใหม่ในปี2569 ความหวังของผู้คนที่จะแก้ไขปัญหาต่างๆ แต่คนไทยต้องรู้! ลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้า-‘ลงประชามติ’ ต้องแยกกันลงทะเบียน
เสียงนาฬิกาการเมืองไทยเริ่มเดินเข้าสู่ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่ออีกครั้ง เมื่อกระแสข่าวเรื่อง “การเลือกตั้งใหม่” ในปี 2569 ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง ท่ามกลางความคาดหวังของประชาชนต่อเสถียรภาพทางการเมือง ทิศทางเศรษฐกิจ และบทบาทของรัฐบาลชุดต่อไป การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนขั้วอำนาจ แต่ถูกมองว่าเป็นจุดชี้ชะตาสำคัญ ว่าประเทศไทยจะก้าวต่ออย่างไรในวันที่โจทย์รอบด้านท้าทายกว่าที่เคย
แต่…การเลือกตั้งในครั้งนี้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้แจ้งประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งในครั้งนี้ เป็นครั้งแรกที่มีการเลือกตั้ง สส. พร้อมกับการออกเสียงประชามติ กกต.ได้ออกระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ที่กำหนดวันออกเสียงประชามติในวันเดียวกับวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่เป็นการทั่วไป พ.ศ. 2568
ทั้งนี้ระเบียบ กกต.ได้ออกรองรับพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. 2564 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ที่กำหนดให้นายกรัฐมนตรีหารือร่วมกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง กำหนดวันให้มีการออกเสียงประชามติ ทั้งนี้ หากเห็นสมควรว่า การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่เป็นการเลือกตั้งทั่วไปอยู่ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน อาจกำหนดให้วันออกเสียงประชามติและวันเลือกตั้งเป็นการทั่วไปเป็นวันเดียวกัน กกต.จึงได้ออกระเบียบรองรับ ซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างรอการประกาศเผยแพร่ในเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา
โดยการออกเสียงประชามติจะไม่มีการออกเสียงประชามติล่วงหน้าแต่สามารถออกเสียงประชามตินอกเขตเลือกตั้งในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนได้ออกเสียงประชามติ ส่วนประชาชนที่มีภูมิลำเนาที่จังหวัดสงขลา สามารถลงทะเบียนขอออกเสียงประชามตินอกเขตได้ โดยไม่ต้องเดินทางไปออกเสียงในเขตที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ไม่ต้องกลับไปเลือกที่ภูมิลำเนา ส่วนรายละเอียดการลงทะเบียน กกต.จะประกาศให้รับทราบต่อไป หากระเบียบ กกต.ฉบับดังกล่าวมีผลบังคับใช้แล้ว
อย่างไรก็ตามหากมีการออกเสียงประชามติเป็นวันเดียวกับการเลือกตั้ง สส. ผู้มีสิทธิออกเสียงจะต้องออกไปใช้สิทธิในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 แต่สำหรับผู้มีสิทธิที่ไม่สะดวกกลับไปใช้สิทธิตามภูมิลำเนาที่มีสิทธิตามทะเบียนบ้า โดย กกต.จะได้เตรียมอำนวยความสะดวก โดยจะเปิดให้ลงทะเบียนเพื่อขอใช้สิทธิออกเสียงประชามตินอกเขตได้ ณ หน่วยออกเสียงกลางที่สะดวกได้ ซึ่งขณะนี้ได้ยกร่างระเบียบที่เกี่ยวข้องเพื่อออกมารองรับแล้ว อยู่ระหว่างรอประกาศราชกิจจานุเบกษา ทั้งนี้ระยะเวลาเปิดระบบให้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิออกเสียงนอกเขตอาจใกล้เคียงกับการลงทะเบียนขอใช้สิทธินอกเขตและนอกราชอาณาจักรของการเลือกตั้ง สส. โดยการออกเสียงประชามตินอกเขตจะต้องไปใช้สิทธิออกเสียงในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ณ หน่วยออกเสียงกลางที่ได้ลงทะเบียนไว้เท่านั้น
พร้อมกันนี้หากผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่สามารถไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 ณ หน่วยเลือกตั้งที่มีชื่อตามทะเบียนบ้านได้ และมีความประสงค์จะขอใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนนก่อนวันเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2569 เวลา 08.00–17.00 น. ท่านสามารถยื่นคำขอลงทะเบียนใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนนก่อนวันเลือกตั้งได้ ตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2568 ถึงวันที่ 5 มกราคม 2569
ปิดท้ายประเด็นสำคัญที่คนไทยต้องไม่พลาด คือ การใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า และการลงประชามติ ไม่ใช่ขั้นตอนเดียวกัน แม้จะเกิดขึ้นในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน แต่ผู้มีสิทธิจำเป็นต้อง แยกลงทะเบียนตามแต่ละกระบวนการ หากต้องการใช้สิทธิอย่างครบถ้วน การตรวจสอบข้อมูล ข่าวสาร และกำหนดการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด จึงเป็นกุญแจสำคัญที่จะไม่ทำให้เสียงของเราหายไปเพราะความเข้าใจคลาดเคลื่อน เพราะทุกการลงทะเบียน คือการยืนยันสิทธิ และทุกการใช้สิทธิ คือพลังของประชาชนในระบอบประชาธิปไตย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
