svasdssvasds

สรุป "นโยบายหาเสียง" พรรคใหญ่ชูแก้เศรษฐกิจ-ปากท้องเป็นหลัก

สรุป "นโยบายหาเสียง" พรรคใหญ่ชูแก้เศรษฐกิจ-ปากท้องเป็นหลัก

พรรคการเมืองส่วนใหญ่ชูนโยบายแก้ปัญหาเศรษฐกิจและปากท้องเป็นจุดขายหลักในการหาเสียงเลือกตั้ง นโยบายที่โดดเด่นมุ่งเน้นการลดภาระค่าครองชีพและเพิ่มรายได้ให้ประชาชน

SHORT CUT

  • พรรคการเมืองใหญ่ส่วนใหญ่ชูนโยบายแก้ปัญหาเศรษฐกิจและปากท้องเป็นจุดขายหลักในการหาเสียงเลือกตั้ง
  • นโยบายที่โดดเด่นมุ่งเน้นการลดภาระค่าครองชีพและเพิ่มรายได้ให้ประชาชน เช่น เงินดิจิทัล 10,000 บาท, การพักหนี้, รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย และการลดราคาพลังงาน
  • นอกเหนือจากประเด็นเศรษฐกิจ ยังมีการเสนอนโยบายแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง เช่น การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ การยกระดับสวัสดิการ และการปราบปรามอาชญากรรม

พรรคการเมืองส่วนใหญ่ชูนโยบายแก้ปัญหาเศรษฐกิจและปากท้องเป็นจุดขายหลักในการหาเสียงเลือกตั้ง นโยบายที่โดดเด่นมุ่งเน้นการลดภาระค่าครองชีพและเพิ่มรายได้ให้ประชาชน

บรรยากาศการเมืองไทยกลับมาคึกคัก หลังจากมีการประกาศยุบสภา ล่าสุด กกต. ได้เคาะวันที่คนไทยต้องออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งอย่างเป็นทางการแล้วคือ วันอาทิตย์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569

การเลือกตั้งครั้งนี้ถูกจับตามองว่าเป็น "จุดเปลี่ยน" สำคัญ เพราะไม่ใช่แค่การสลับขั้วอำนาจ แต่คือการเดิมพันด้วยนโยบายแก้ปัญหาระดับโครงสร้างของประเทศ

3 ความท้าทายใหญ่ที่ "รัฐบาลชุดใหม่" ต้องเผชิญ

สนามเลือกตั้งครั้งนี้ดุเดือดกว่าครั้งไหนๆ เพราะผู้สมัครต้องตอบโจทย์วิกฤตที่รุมเร้า

  1. วิกฤตเศรษฐกิจ: การปากท้องและค่าครองชีพที่พุ่งสูง
  2. ปัญหาความมั่นคง: ทั้งในระดับประเทศและสถานการณ์ชายแดนที่ต้องบริหารจัดการ
  3. คุณภาพชีวิต: การยกระดับสวัสดิการและสิทธิเสรีภาพของประชาชน

"พูดแล้วทำพลัส" นโยบายเรือธงจากพรรคภูมิใจไทย

ภายใต้การนำของอนุทิน ชาญวีรกูล พรรคภูมิใจไทยกำลังประกาศศักดาด้วยสโลแกนใหม่ที่อัปเกรดกว่าเดิมอย่าง “พูดแล้วทำพลัส” โดยมีเป้าหมายใหญ่คือการก้าวขึ้นเป็นพรรคอันดับหนึ่งของประเทศ พร้อมชูจุดขายการเป็น "รัฐบาลที่ไร้รอยต่อ" ต่อยอดนโยบายจากปัจจุบันสู่การแก้ปัญหาที่ยั่งยืน

หัวใจสำคัญของแคมเปญนี้ คือการประกาศสงครามกับ "4 ภัย" ที่กัดกินคุณภาพชีวิตคนไทย 

1. ภัยเศรษฐกิจ

เน้นการแก้ปัญหาปากท้องแบบครบวงจร ทั้งเฉพาะหน้าและระยะยาว

  • คนละครึ่งพลัส: สานต่อโครงการขวัญใจมหาชนให้ไปต่อแบบมีประสิทธิภาพกว่าเดิม
  • พักหนี้ครอบคลุม : นโยบายพักหนี้ทุกรูปแบบ วงเงิน 100,000 บาทต่อคน เพื่อให้ประชาชนมีลมหายใจต่อในภาวะเศรษฐกิจตึงตัว
  • ดูแลคนในระบบภาษี: ให้ความสำคัญและสิทธิประโยชน์กับผู้ที่เสียภาษีอย่างถูกต้อง เพื่อสร้างความเป็นธรรมในสังคม

 

 

2. ภัยความมั่นคงชายแดน

ยืนหยัดในจุดแข็งเรื่องการป้องกันประเทศ โดยพร้อมสนับสนุนกองทัพอย่างเต็มกำลังในการปกป้องอธิปไตย เพื่อให้มั่นใจว่าความขัดแย้งตามแนวชายแดนจะไม่ลุกลามเข้ามาส่งผลกระทบต่อความสงบสุขภายในประเทศ

3. ภัยสังคม

  • ปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์: เร่งถอนรากถอนโคนมิจฉาชีพที่หากินบนความเดือดร้อนของประชาชน
  • ยาเสพติดต้องหมดไป: ต่อยอดการทำงานอย่างเข้มข้นจากช่วงที่เป็นรัฐบาล 2 เดือนแรก เพื่อสร้างสังคมที่ปลอดภัยอย่างแท้จริง

4. ภัยธรรมชาติ

  • โซลาร์ฟาร์มชุมชน: กระจายการเข้าถึงพลังงานสะอาด และลดภาระค่าไฟให้ประชาชน
  • Roadmap 2050 : ตั้งเป้าพาประเทศไทยไปสู่เป้าหมาย Net Zero หรือการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050

 

เพื่อไทยตอกย้ำ “ยกเครื่องประเทศไทย เพื่อไทยทำได้” 

พรรคเพื่อไทยมุ่งแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างเศรษฐกิจ สังคม และคุณภาพชีวิต โดยเฉพาะเรื่องรายได้ ความเหลื่อมล้ำ และหนี้สินของประชาชน

นอกจากนี้ยังคงตอกย้ำจุดเด่นเดิม คือทำนโยบายที่เกิดขึ้นจริงไม่ใช่แค่หาเสียง  ด้วยประโยคที่ว่า “ยกเครื่องประเทศไทย เพื่อไทยทำได้”

ปฏิบัติการ "Quick Win" ลดภาระค่าครองชีพทันที

หัวใจสำคัญของเพื่อไทยคือการทำให้ประชาชน "หายใจคล่อง" ตั้งแต่ช่วงแรกของการบริหาร โดยโฟกัสไปที่ 2 นโยบายไฮไลต์

  • หวยเกษียณ (เปลี่ยนเงินเสี่ยงโชคเป็นเงินออม): ตั้งเป้าทำให้สำเร็จใน 3 เดือนแรก เป็นการจูงใจให้คนออมเงินผ่านการซื้อหวย หากไม่ถูกรางวัล เงินนั้นจะถูกเก็บไว้เป็นเงินออมยามเกษียณ
  • ล้างหนี้แบบครบวงจร: ไม่ปล่อยให้คนไทยสู้หนี้ลำพัง โดยครอบคลุมทั้ง หนี้นอกระบบ, หนี้เสีย (NPL), หนี้เกษตรกร และหนี้ผู้สูงอายุ รวมถึงมีมาตรการประคับประคอง "ลูกหนี้ดี" เพื่อคืนศักดิ์ศรีและโอกาสในการลืมตาอ้าปาก

Roadmap 10 ข้อ: พลิกฟื้นเศรษฐกิจไทยให้ยั่งยืน

เพื่อให้ประเทศไทยหลุดจากกับดักรายได้ปานกลาง พรรคเสนอแนวทางฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ครอบคลุมทั้งระดับฐานรากและระดับโลก:

  • สร้างความเชื่อมั่น: ฟื้นฟูเสถียรภาพงบประมาณเพื่อดึงอันดับเครดิตประเทศให้สูงขึ้น
  • อัดฉีดกำลังซื้อ: ใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยตรง (เช่น Digital Wallet 10,000 บาท) เพื่อสร้างพายุหมุนทางเศรษฐกิจ
  • ดึงทุนต่างชาติ: ปฏิรูปกฎหมายและภาษีให้เอื้อต่อการลงทุน (Ease of Doing Business)
  • เศรษฐกิจแห่งอนาคต: มุ่งเน้น AI และเทคโนโลยี พร้อมดึงธุรกิจนอกระบบ (Underground Economy) เข้าสู่ระบบเพื่อขยายฐานภาษีและสร้างโอกาสให้ SME

ยกระดับคุณภาพชีวิต: การเดินทาง-ที่อยู่อาศัย-สุขภาพ

  • การคมนาคมรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย (เริ่มใน 3 เดือนแรก) พร้อมระบบ Feeder รถเมล์แอร์ 10 บาท เชื่อมต่อทั่วกรุง
  • ที่อยู่อาศัยบ้านเพื่อคนไทย จัดหาที่พักอาศัยใกล้แนวรถไฟฟ้าในราคาที่คนทำงานจ่ายไหว
  • สาธารณสุข30 บาทรักษาทุกโรค (Upgrade) ต่อยอดระบบเดิมให้ทันสมัย เข้าถึงง่าย และครอบคลุมเทคโนโลยีใหม่ๆ

"ไทยไม่เทา เท่ากัน ทันโลก" 

พรรคประชาชนยังคงเดินหน้าด้วยดีเอ็นเอเดิมที่ชัดเจน นั่นคือการเน้นจุดแข็งด้านการ "ปฏิรูปเชิงโครงสร้าง" โดยไม่ได้มองแค่การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่เป็นการรื้อกระดานเพื่อเปลี่ยนสมดุลอำนาจใหม่ทั้งประเทศ

ปักธง "รัฐธรรมนูญใหม่" หัวใจของการเปลี่ยนสมดุลอำนาจ

โจทย์การเมืองหลักที่พรรคชูเป็นธงนำคือการทำ "รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน" ซึ่งไม่ใช่แค่การแก้ไขรายมาตรา แต่มีเป้าหมายลึกไปกว่านั้น

  • ลดอำนาจ ส.ว.: ตัดวงจรการเลือกนายกรัฐมนตรี เพื่อคืนอำนาจการตัดสินใจให้ผู้แทนที่มาจากการเลือกตั้ง
  • สสร. ต้องมาจากการเลือกตั้ง: ย้ำจุดยืนว่า "กติกาของประเทศ" ต้องร่างโดยคนของประชาชน เพื่อสร้างความยึดโยงที่แท้จริง

ถอดรหัส Motto “ไทยไม่เทา เท่ากัน ทันโลก”

สโลแกนนี้ไม่ใช่แค่คำคล้องจอง แต่คือการสรุป 3 เสาหลักที่พรรคพยายามสื่อสาร

  • สู้ทุนสีเทา ปราบคอร์รัปชัน สร้างรัฐที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล
  • ลดความเหลื่อมล้ำผ่านสวัสดิการ "ถ้วนหน้า" ตั้งแต่เกิดจนเกษียณ และการปฏิรูปที่ดินเกษตรกร
  • ปรับตัวให้ทันความเปลี่ยนแปลง ปฏิรูประบบการศึกษา และสร้างประเทศที่ดึงดูดใจให้คนอยากมีลูก

"ไทยหายจน" แคมเปญจากพรรคประชาธิปัตย์

พรรคประชาธิปัตย์ ใช้แคมเปญหาเสียงหลักว่า “ไทยหายจน” และแนวคิด “ประเทศไทยไม่ทน” เน้นแก้ปัญหาความยากจน ปากท้อง และคุณภาพชีวิตประชาชน พร้อมย้ำความสำคัญของ การเมืองสุจริต และ ความเป็นมืออาชีพในการบริหารประเทศ

แนวคิดและแก่นหลักของนโยบาย  คือ เศรษฐกิจและปากท้อง แก้ปัญหาความยากจนและสร้างสภาพเศรษฐกิจที่ช่วยยกระดับรายได้ประชาชน รับฟังปัญหาปากท้องของประชาชน

  • พรรคประชาธิปัตย์ย้ำว่าจะทำการเมืองบนหลัก ความซื่อสัตย์-สุจริต, ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน
  • เศรษฐกิจ-ปากท้องประชาชน เศรษฐกิจสุจริต ไม่โกง ไม่ประชานิยมเกินตัว เน้นวินัยการคลัง
  • สนับสนุน SMEs และผู้ประกอบการรายย่อย เข้าถึงแหล่งทุน ดอกเบี้ยต่ำ
  • เกษตรกรรมและรายได้ชนบท ประกันรายได้เกษตรกร (ข้าว ยางพารา ปาล์ม มันสำปะหลัง ฯล
  • พัฒนาระบบบำนาญพื้นฐานถ้วนหน้าแบบไม่กระทบวินัยการคลั
  • พัฒนาระบบ หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าอย่างยั่งยืน

"ทำจริง มากกว่าพูด" จุดยืนสำคัญของพรรคกล้าธรรม

พรรคกล้าธรรมเป็นพรรคที่ต้องจับตามองในการเลือกตั้ง 2569  เพราะอาจจะมีบทบาทสำคัญในการตั้งรัฐบาล จุดยืนสำคัญของพรรคกล้าธรรม เน้น “ทำจริง มากกว่าพูด” โดยประกาศยึดมั่นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ในการปกครองประเทศ พรรคกล้าธรรมยังไม่มีการประกาศนโยบายอย่างเป็นทางการ

แนวทางแก้ปัญหา

  • มุ่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจและปากท้องของคนจน, เกษตรกร, แล ผู้ประกอบการรายย่อย
  • สนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan): ช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยให้มีเงินทุนหมุนเวียน
  • การเกษตรและนวัตกรรม สนับสนุนนโยบายตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้เกษตรกร และปรับโครงสร้างหนี้

"เด็ดขาดแก้วิกฤต พลิกโฉมประเทศ" สโลแกนรวมไทยสร้างชาติ

พรรครวมไทยสร้างชาติ ประกาศสโลแกน “เด็ดขาดแก้วิกฤต พลิกโฉมประเทศ” 

นโยบายที่สำคัญของพรรครวมไทยสร้างชาติ

  • ยกเลิก MOU 43 – MOU 44
  • ยึดหลักสากลคือการใช้ระบบ “สันปันน้ำ” แผนที่ 1 ต่อ 50,000
  • “สร้างรั้วไทย – กัมพูชา” : ขีดเส้นแบ่งเขตแดนให้ชัดเจน
  • ออกรบ 200,000 บาท” : จ่ายทันทีต่อรอบภารกิจ
  • เกณฑ์ทหารสมัครใจรับ 30,000 บาท
  • ขยับรายได้ทหารเกณฑ์ขั้นต่ำ 15,000 บาท

ด้านเศรษฐกิจ

  • หั่นราคาน้ำมันต่ำกว่า 30 บาท/ลิตร
  • ลดค่าไฟเหลือ 3.3 บาท/หน่วย
  • เสรีโซลาร์ ประชาชนผลิตไฟใช้เอง ไม่ต้องขอใบอนุญาต
  • ลบประวัติเครดิตบูโร จ่ายจบ กู้ใหม่ได้ทันที : เมื่อชำระหนี้ที่ธนาคารหมด
  • ข้าว 15,000 บาท/ตัน ปาล์ม 6 บาท/กก.
  • ปุ๋ยรัฐ 500 บาท/กระสอบ

การศึกษา

อยากเรียนอะไรต้องได้เรียน-ใช้หนี้ด้วยงาน

จับตา "นโยบายชุดจริง" ทำไมตอนนี้พรรคการเมืองถึงยังกั๊กข้อมูล?

แม้เราจะเริ่มเห็นการหาเสียงและแคมเปญต่างๆ ออกมาบ้างแล้ว แต่รู้หรือไม่ว่า "นโยบายฉบับทางการ" ของพรรคการเมือง ยังไม่ได้ถูกประกาศออกมาแบบเต็มรูปแบบ ซึ่งมีเหตุผลสำคัญด้านกฎหมายและกลยุทธ์กั้นกลางอยู่

กฎเหล็ก กกต.: เส้นตายที่ทุกพรรคต้องเจอ

  • ทุกพรรคต้องยื่นรายละเอียดนโยบายต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไม่น้อยกว่า 20 วันก่อนวันเลือกตั้ง สส. ทั่วไป
  • กกต. จะทำหน้าที่ตรวจสอบความครบถ้วนของเนื้อหา โดยเฉพาะเรื่องที่มาของเงินที่ใช้ในนโยบาย และความคุ้มค่าหรือผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
  • เมื่อผ่านการตรวจสอบแล้ว กกต. จะเป็นผู้เผยแพร่ข้อมูลเหล่านี้ให้ประชาชนได้รับทราบอย่างเป็นทางการ เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจก่อนเข้าคูหา

ทำไมต้องรอ "นโยบายฉบับทางการ"?

การที่พรรคการเมืองยังไม่เปิดไพ่หมดในตอนนี้ มีนัยสำคัญ 2 ด้าน

  • ด้านกฎหมาย: นโยบายที่ยื่นต่อ กกต. จะต้องระบุรายละเอียดที่ชัดเจน (เช่น ต้องใช้เงินเท่าไหร่ เอาเงินมาจากไหน) ซึ่งหากระบุผิดพลาดอาจมีผลทางกฎหมายตามมา
  • ด้านการเมือง: เป็นเรื่องของกลยุทธ์การหาเสียง เพื่อรอดูท่าทีคู่แข่งและไม่ให้ถูกบลัฟนโยบายก่อนเวลาอันควร

 

 

 

related