
SHORT CUT
เปิดตัวรายชื่อว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 100 อันดับล่าสุดของพรรคเพื่อไทย ปรากฏชื่อ 'นายรวิศ สอดส่อง' หรือ 'วิน' ที่กลายเป็นที่จับตามอง
'นายรวิศ สอดส่อง' หรือ 'วิน' ที่กลายเป็นที่จับตามองในฐานะ ‘สายเลือดใหม่' ที่มีความโดดเด่นทั้งด้านวิชาการ การบริหารธุรกิจ และประสบการณ์งานสภาฯ ซึ่งการก้าวเข้ามาร่วมทัพครั้งนี้ นายรวิศ ไม่ได้มาเพียงในฐานะทายาทของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง (อดีต รมว.ยุติธรรม) เท่านั้น แต่ยังพกพาเครดิตการทำงานจริงที่จับต้องได้มาอย่างโชกโชน
นายรวิศ สอดส่อง สำเร็จการศึกษาปริญญาตรีด้านเศรษฐศาสตร์ (Bachelor of Arts in Economics) จาก University of Victoria (UVic) ประเทศแคนาดา ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับ Top ของโลก ก่อนจะกลับมาต่อยอดความเชี่ยวชาญในระดับปริญญาโทด้านเศรษฐศาสตร์การจัดการ (Master of Arts in Managerial Economics) จากคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
นอกจากนี้ นายรวิศ ยังมีสายสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับแกนนำรุ่นใหม่ของพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะการเป็นศิษย์เก่าในหลักสูตร "มินิ วปอ." (หลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักรสำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต - วปอ.บอ.) รุ่นที่ 1 ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย อีกด้วย
ก่อนจะก้าวเข้าสู่เส้นทางการเมืองอย่างเต็มตัว นายรวิศ สอดส่อง ได้พิสูจน์ฝีมือในภาคธุรกิจในฐานะผู้ก่อตั้งและผู้บริหาร บริษัท วิน ฟู้ด อินดัสตรี คอร์ปอเรชั่น จำกัด และบริษัทในเครือ ซึ่งดำเนินธุรกิจระหว่างประเทศในการนำเข้าอาหารสำเร็จรูป เพื่อจัดจำหน่ายไปยังห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ มากกว่า 10 ปี โดยสามารถสร้างยอดขายได้มากกว่า 100 ล้านบาทต่อปี
ประสบการณ์ในการบริหารห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) และการครองส่วนแบ่งในตลาดค้าปลีกระดับบนนี้ ทำให้มีความเข้าใจลึกซึ้งถึงกลไกเศรษฐกิจมหภาค ความต้องการของผู้บริโภค และความท้าทายของผู้ประกอบการในไทยอย่างแท้จริง ซึ่งทักษะด้านการบริหารจัดการและวิสัยทัศน์ทางธุรกิจนี้เองที่เป็น "เครดิตสำคัญ" ในการนำมาต่อยอดเพื่อขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจและปากท้องของประชาชนได้
บนเส้นทางการทำงานในฝ่ายนิติบัญญัติ นายรวิศ สอดส่อง ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งสำคัญในคณะกรรมาธิการที่ดูแลโครงสร้างพื้นฐานและกลไกเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะการทำหน้าที่เป็น โฆษกและกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 เพื่อร่วมกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินแผ่นดินให้เกิดประโยชน์สูงสุด ควบคู่ไปกับบทบาทใน คณะอนุกรรมาธิการศึกษาราคาพลังงานฯ ที่มีส่วนสำคัญในการหาแนวทางลดต้นทุนพลังงาน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับภาคธุรกิจ และลดภาระค่าครองชีพของประชาชน
นอกจากนี้ ยังเคยได้นำความเชี่ยวชาญโดยตรงจากภาคธุรกิจมาต่อยอดในฐานะ กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.อาหาร เพื่อพัฒนากฎหมายที่ช่วยยกระดับอุตสาหกรรมอาหารไทยให้มีมาตรฐานสากลอีกด้วย
นอกจากบทบาทต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว นายรวิศ สอดส่อง ยังเคยดำรงตำแหน่ง หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (ในยุคของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง) โดยมีบทบาทสำคัญในการเป็น "มือประสาน" และ "ตัวแทน" ในการออกงานสำคัญระดับประเทศและระหว่างประเทศ เช่น การร่วมเจรจาและต้อนรับคณะทูตานุทูต รวมถึงการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ภัยพิบัติเพื่อช่วยเหลือประชาชนอีกด้วย
บทบาทเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความพร้อมในการเป็นฟันเฟืองสำคัญที่เข้าใจทั้งงานโครงสร้างระดับมหภาคและการแก้ปัญหาปากท้องประชาชน ดังนั้น การที่ นายรวิศ สอดส่อง เข้าสู่การเมือง ถือเป็นจุดเด่นที่น่าจับตา ในฐานะ “สายเลือดใหม่" ผสมผสานกับประสบการณ์ "นักธุรกิจร้อยล้าน" และบทบาท "มือทำงานในสภา" ได้อย่างลงตัว
ซึ่งคุณสมบัติที่ครบเครื่องทั้งในเชิงบริหารและนิติบัญญัตินี้เอง จะกลายเป็นอาวุธสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนการเมืองไทยให้ก้าวไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ตอบโจทย์ความต้องการของสังคมยุคใหม่ได้อย่างแท้จริง