"เพื่อไทย" เตรียมแคมเปญออกเสียงประชามติ กระทุ้ง กกต. เร่งกำหนดหลักเกณฑ์

จาตุรนต์ ฉายแสง ในฐานะประธานกรรมการรณรงค์สื่อสารประชามติและรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน พรรคเพื่อไทย และคณะกรรมการฯ แถลงข่าวยืนยันยันจุดยืนของพรรคที่จะผลักดันให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่เป็นของประชาชน และเพื่อประชาชนอย่างแท้จริงผ่านกระบวนการจัดทำประชามติ และการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญโดยผู้ที่เป็นตัวแทนหรือมืความยึดโยงกับประชาชนมากที่สุด

ภายใต้แนวคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 18/2568 และเพื่อขับเคลื่อนภารกิจอันสำคัญยิ่งนี้ พรรคเพื่อไทยจึงได้มีคำสั่งที่ 0017/2568 แต่งตั้งคณะกรรมการรณรงค์

ทั้งนี้ คณะกรรมการเชิญชวนให้ประชาชนผู้มีสิทธิออกเสียงได้มาออกเสียงลงคะแนนในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 ซึ่งเป็นวันเดียวกับวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป ซึ่งการจัดทำประชามติในครั้งนี้ หากผ่านความเห็นชอบของประชาชนก็จะเกิดความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ และเป็น "ต้นทุนทุนทางสังคมและทางการเมือง" ที่รัฐสภาจะจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต่อไป แต่หากการจัดทำประชามติในครั้งนี้ไม่ผ่านความเห็นชอบของประชาชน อาจจะมีผลเสียถึงขั้นทำให้การทำรัฐธธรรมนูฉบับใหม่ไม่เกิดขึ้นได้อีกเลย ซึ่งจะส่งผลเสียหายต่อประเทศชาติและประชาชนไปอีกยาวนาน

กรอบและแนวทางในการทำงานในช่วงระยะเวลาอันจำกัด

• เร่งจัดทำคำอธิบายหรือชุดความคิดที่แสดงให้เห็นถึงปัญหาและข้อจำกัดของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ซึ่งเป็นเหตุผลที่จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่เป็นของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง พร้อมทั้งมอบหมายให้ผู้สมัคร สส. ของพรรคสื่อสารต่อกับประชาชนไปควบคู่กับการหาเสียงเลือกตั้งเร่งสร้างภาคีเครือข่ายความร่วมมือทั้งจากพรรคการเมือง กลุ่มการเมือง องค์รเอกชน และเครือข่ายต่างๆ เพื่อมาร่วมกิจกรรมรณรงค์ให้เห็นชอบต่อการจัดทำรัฐธธรรมนูฉบับใหม่
• มีหนังสือถึงคณะกรรมการการเลือกตั้งในฐานะที่เป็นองค์กรที่รับผิดชอบเรื่องการออกเสียงประชามติได้เร่งกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการให้ประชาชน พรรคการเมือง องค์กรเอกชน และกลุ่มต่างๆ ในสังคมได้มีสิทธิเสรีภาพในการจัดกิจกรรมรณรงค์การออกเสียงประชามติอย่างเท่าเทียมและเร่งดำเนินการเผยแพร่กระบวนการและขั้นตอนออกเสียงประชามติแก่ผู้มีสิทธิออกเสียง รวมไปถึงการออกเสียงนอกเขตเลือกตั้ง

อีกทั้งยังมีความกังวลว่าประชาชนที่ไม่มีข้อมูลเพียงพอ หากลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2569 ไปแล้ว อาจจะไม่ได้วางแผนมาออกเสียงประชามติในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 อาจจะทำให้เสียสิทธิ และถูกตัดสิทธิหลังจากนี้ เนื่องจากการออกเสียงประชามติไม่สามารถกระทำช่วงหน้าได้เหมือนเลือกตั้งทั่วไป

คณะกรรมการเห็นว่า การจะทำให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารเกิดความเข้าใจ และเห็นความสำคัญ ของการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ในการทำประชามติครั้งนี้ ไม่อาจประสบความสำเร็จได้
โดยพรรคการเมืองหนึ่งพรรคการเมืองใด หรือกลุ่มองค์กรหนึ่งองค์กรใดตามลำพัง พรรคเพื่อไทยจึงพร้อมที่จะร่วมมือกับพรรคการเมืองกลุ่มองค์กรต่างๆ และประชาชนทั่วไป โดยเรายินดีจะเข้าร่วมทำเรายินดีจะเข้าร่วมทำกิจกรรม กับทุกภาคส่วนในทุกเวทีที่สามารถทำได้ กับทุกภาคส่วนในทุกเวทีที่สามารถทำได้

“ผมขอเชิญชวนทุกพรรคการเมือง ทุกองค์กรภาคประชาชน ภาคเอกชน นักวิชาการ สื่อมวลชน และประชาชนทุกคน ช่วยกันทำให้ประชามติครั้งนี้เป็น "วาระร่วมของประเทศ" ช่วยกัน อธิบาย ช่วยกันรณรงค์ และชวนกันออกไปใช้สิทธิให้มากที่สุด เพราะถ้าทุกฝ่ายช่วยกัน ประชามติครั้งนี้
จะผ่าน และประเทศไทยจะได้เริ่มต้นเส้นทางสู่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่เป็นของประชาชนอย่างแท้จริง” จาตุรนต์ กล่าว