
มาราธอนซีเกมส์ ที่เงียบจนน่าใจหาย : ไม่ถ่ายทอด ไม่มีงบ ไม่ให้ความสำคัญ - และชุดแข่งที่สร้างบาดแผลให้นักกีฬา บดบังรัศมีซีเกมส์ 2025
ท่ามกลางกระแสความตื่นตัว และป๊อปปูลาร์ของการวิ่งมาราธอนในประเทศไทย ที่ซึ่งงานวิ่งระดับทวีปอย่าง Amazing Thailand Marathon , บางแสน มาราธอน , บุรีรัมย์ มาราธอน และรายการใหญ่ๆ สามารถดึงดูดผู้คนเรือนหมื่น และการวิ่งได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตคนเมือง แต่กลับกลายเป็นเรื่องตลกร้ายที่ยากจะขำออก เมื่อการแข่งขันวิ่งมาราธอน (42.195 กม.) ในกีฬาซีเกมส์ 2025 ณ สนามลู่ปั่นจักรยานเจริญสุขมงคลจิต หรือ สกายเลน กลับดำเนินไปอย่างเงียบเชียบ ปราศจากการถ่ายทอดสด และเต็มไปด้วยเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงมาตรฐานการจัดการที่ตกต่ำอย่างน่าใจหาย
ขณะที่ กอบเกียรติ แสงวนิชย์ หัวเรือใหญ่แห่ง Amazing Thailand Marathon Bangkok และหนึ่งในทีมงานที่ถูกดึงเข้ามาช่วยกู้สถานการณ์ในนาทีสุดท้าย เปิดเผย ข้อความที่สะท้อนถึงความล้มเหลวเชิงโครงสร้าง คำตอบที่เขาได้รับเมื่อทวงถามถึงการถ่ายทอดสดคือคำว่า "ไม่มีงบ"
"เรื่องแบบนี้ ดื่มไวน์ดีๆ ขวดเดียวยังแพงกว่าค่าถ่ายทอดเลยครับ" กอบเกียรติกล่าวเปรียบเปรยอย่างเจ็บแสบ สะท้อนให้เห็นว่าปัญหาที่แท้จริงอาจไม่ใช่การขาดแคลนทรัพยากร แต่คือการจัดลำดับความสำคัญที่บิดเบี้ยวของผู้มีอำนาจตัดสินใจ ที่มองไม่เห็นคุณค่าของกีฬามวลชนที่สามารถสร้าง Soft Power ได้มหาศาล
ความโกลาหลไม่ได้เกิดขึ้นเพียงแค่วันแข่ง สัญญาณเตือนภัยดังขึ้นล่วงหน้าหลายวันเมื่อมีการเปิดเผยว่า การวัดเส้นทางวิ่งโดยผู้แทนระดับเอเชียเพิ่งจะเกิดขึ้นก่อนงานเริ่มเพียงไม่กี่วัน ทั้งที่ขั้นตอนนี้ควรเสร็จสิ้นล่วงหน้านับเดือน การทำงานแบบ "ต่างคนต่างทำ" ไร้ซึ่งการบูรณาการระหว่างหน่วยงาน ทำให้สนามที่มีศักยภาพระดับสากลอย่างสนามลู่ปั่นฯ ไม่ถูกใช้งานอย่างคุ้มค่า
แทนที่จะเป็นมหกรรมที่ดึงดูดนักวิ่งสมัครเล่นนับหมื่นมาร่วมสร้างสีสัน เหมือนงานวิ่งเมเจอร์ระดับโลก การแข่งขันกลับจบลงด้วยภาพของความเงียบเหงา
นอกเหนือจากความล้มเหลวในการจัดการ ดราม่ามีเข้ามาอีกหนึ่งเรื่องนั่นคือ "ชุดแข่งขัน"
ภาพของนักวิ่งหญิงทีมชาติไทยที่มีบาดแผลจากการเสียดสีของชุดอย่างรุนแรง จนต้องใช้พลาสเตอร์ปิดทับ เป็นหลักฐานที่บ่งบอกถึงความบกพร่องในการออกแบบและการเลือกใช้วัสดุ
คำถามสำคัญที่ถูกโยนกลับไปยังผู้รับผิดชอบคือ:
คุณภาพวัสดุ: ในยุคที่เทคโนโลยีผ้ากีฬาไปไกลถึงระดับนาโน เนื้อผ้าที่หนา ระบายอากาศไม่ได้ และกักเก็บเหงื่อ จนกลายเป็นกระดาษทรายที่บาดผิวนักกีฬา เกิดขึ้นกับทีมชาติไทยได้อย่างไร?
ดีไซน์ที่อาจไม่ตอบโจทย์ : การใช้เข็มกลัดจำนวนมากติดเบอร์วิ่ง (BIB) และขนาดของ BIB ที่ใหญ่เทอะทะจนบดบังการระบายอากาศ สะท้อนถึงความไม่ใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ ที่ส่งผลต่อสมรรถนะมหาศาลในการวิ่งระยะไกล
การผูกขาดแบรนด์ : การยึดติดกับผู้ผลิตรายเดียวโดยไม่มีการตรวจสอบคุณภาพ (QC) ที่เข้มงวด หรือการทดสอบการใช้งานจริง (Field Test) ในระยะมาราธอน เป็นการเอาเปรียบนักกีฬาที่ฝึกซ้อมมาแรมปีเพื่อมาพ่ายแพ้ต่ออุปกรณ์ของชาติตนเองหรือไม่ ?
ซีเกมส์ 2025 ในส่วนของมาราธอน ไม่ได้จบลงแค่ความเงียบเป็นเป่าสากของการถ่ายทอดสด และ ผู้คนที่รักกีฬาวิ่งเฝ้าติดตามทางโซเชียลมีเดีย แต่มันจบลงด้วยเสียงสะท้อนแห่งความเจ็บปวด เพราะช่วงเวลานี้ กีฬาวิ่ง กำลังได้รับความนิยมในประเทศไทยเป็นอย่างมาก
ทั้งทางใจของผู้จัดงานที่เห็นศักยภาพที่ถูกทำลาย และทางกายของนักกีฬาที่ต้องแบกรับบาดแผลจากความไม่เป็นมืออาชีพ ความไม่พร้อม
นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของงบประมาณที่ไม่เพียงพอ แต่คือภาพสะท้อนของระบบราชการกีฬาที่ขาดวิสัยทัศน์ ขาดความเข้าใจในบริบทของกีฬาสมัยใหม่ และที่สำคัญที่สุด คือการขาดความเคารพต่อนักกีฬาที่เป็นตัวแทนของคนทั้งชาติ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง