svasdssvasds

“บิ๊กตู่” แซะ กทม.อากาศเป็นพิษเพราะมีม็อบ ย้ำรอเลือกตั้ง

“บิ๊กตู่” แซะ กทม.อากาศเป็นพิษเพราะมีม็อบ ย้ำรอเลือกตั้ง

นายกฯ ลงพื้นที่ราชบุรี ร่วมปลูกต้นไม้วันต้นไม้ของชาติ ย้ำ ร.10 ทรงคาดหวังให้บ้านเมืองสงบสุข บอก กทม.อากาศเป็นพิษเพราะมีการชุมนุม พร้อมขอบคุณเจ้าหน้าที่แก้ปัญหาสันติไม่บานปลาย ย้ำเลือกตั้งใจเย็นๆ เป็นไปตามโรดแมป

วันนี้(23พ.ค.)พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือคสช. พร้อมคณะลงพื้นที่จังหวัดราชบุรี เพื่อไปเป็นประธานในโครงการประชารัฐร่วมใจปลูกต้นไม้ให้แผ่นดินปีพ.ศ. 2561 ที่ศูนย์ศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้ม อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดราชบุรี ซึ่งในวันนี้ตรงกับวันต้นไม้แห่งชาติ

“บิ๊กตู่” แซะ กทม.อากาศเป็นพิษเพราะมีม็อบ ย้ำรอเลือกตั้ง

โดยพลเอกประยุทธ์ ได้เป็นสักขีพยานในการมอบหนังสืออนุญาตแสดงโครงการป่าชุมชน รวมทั้งมอบต้นกล้ายางนาแก่ผู้ว่าราชการจังหวัด 7 จังหวัด และกล่าวมอบนโยบายตอนหนึ่งว่า วันนี้ตื่นมารู้สึกงงๆ มึนๆ จึงมาวิเคราะห์ว่าทำไมจึงเป็นแบบนี้ เพระปกติจะรู้สึกสดชื่น แต่คงเป็นเพราะอากาศเสีย เมื่อมาที่ธรรมชาติสวยงาม ร่างกายก็ไม่สบายเพราะชินกันของเสีย ซึ่งอยากให้ กทม.เป็นแบบนี้ ก่อนเข้ามาได้ฟังเพลงต้นไม้ของพ่อ ใช้เวลา 50 ปี ซึ่งตนจะไปดูต้นประดู่ ที่เคยทรงปลูกไว้

“บิ๊กตู่” แซะ กทม.อากาศเป็นพิษเพราะมีม็อบ ย้ำรอเลือกตั้ง

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้เข้าใจว่าความเท่าเทียมคือเท่าเทียมของโอกาส ไม่มีผู้มีอิทธิพลรังแกคนจน ซึ่งรัฐบาลจะต้องดูแลส่วนนี้ และย้ำว่ามีความจำเป็นต้องพัฒนาประเทศอย่างเร่งด่วนซึ่งเมื่อรัฐบาลพูดก็ต้องคิดไตร่ตรองด้วย และต้องคำนึงถึงคนอื่นในพื้นที่อื่นๆ ด้วย และต้องรักและสามัคคีกันมากขึ้น เพราะเป็นบ่อเกิดความสำเร็จ เพื่อทำให้เกิดความยั่งยืน รัฐบาลจึงจำเป็นต้องบริหารตามหลักการ โดยมียุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปเป็นกรอบ ที่จะมีเรื่องงบประมาณเข้ามาเกี่ยวข้อง ถ้าการบริหารราชการแผ่นดินถ้าไม่ใช้กฎหมายก็เกิดปัญหา ซึ่งหลายอย่างก็เกิดขึ้นให้เห็นแล้วว่าเป็นภาระของประเทศขนาดไหน แต่ตนไม่ได้โทษใคร และแม้ตัวเลขจีดีพีจะสูงขึ้นแต่รัฐบาลไม่ได้พอใจหรือดีใจจนไม่ทำอะไรเลย เพราะเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา โดยจะเร่งหารายได้อื่นๆ โดยต้องผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ ขณะที่ราคาน้ำมันที่สูงขึ้น บังคับไม่ได้ ไม่ว่ารัฐบาลใดก็บังคับไม่ได้ เพราะอยู่ในกลไกการค้าโลก ต้องเข้าใจกลไกเหล่านี้ ถ้าไม่เข้าใจก็จะถูกบิดเบือนไปจนมีปัญหา

“บิ๊กตู่” แซะ กทม.อากาศเป็นพิษเพราะมีม็อบ ย้ำรอเลือกตั้ง

นายกฯ ยังกล่าวว่า ต้นไม้ที่ปลูกขอให้ช่วยกันรักษาไว้ ห้ามให้ตาย เพราะ มาตรา44 ไม่สามารถห้ามต้นไม้ไม่ให้ตายได้ เมื่อต้องการอะไรก็เรียกร้องให้ใช้ ม.44 เมื่อไม่ต้องการก็โทษมาตรา 44 แต่ ม.44 ไม่ได้ใช่ทุกเรื่อง การใช้ต้องไม่ฝืนกฎหมาย เพราะวันหน้าต้องมีประชาธิปไตย และไปสู่การเลือกตั้ง จึงอยากบอกประชาชนว่าการประท้วงต่างๆ ล้วนมีผล หากมีการชุมนุม ประท้วง ขัดแย้งวุ่นวายกันตอนนี้ สิ่งต่างๆล้มทันที และหลายเรื่องยังเป็นคดีในศาลอย่าให้ใครบิดเบือน เพราะเมื่อไหร่ก็ตาม ที่บ้านเมืองไม่สงบ มีการประท้วง มีการเคลื่อนย้ายคนไปมา จะมีปัญหาโดยเฉพาะด้านการลงทุน และการท่องเที่ยวด้วย เพราะ 3 ปีที่ผ่านมามีการลงทุนไปแล้วจำนวนมาก จึงต้องไม่ทำให้เกิดปัญหาตรงนี้อีกเด็ดขาด อย่าคิดว่าบ้านเราเป็นของเรา

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า วันนี้อากาศดี เพราะออกซิเจนเข้าปอด แค่เมื่อวานออกซิเจนน้อย เพราะมีชุมนุม คนเยอะอากาศเป็นพิษ แต่ทุกอย่างเรียบร้อย ไม่ลุกลามบานปลาย เพราะประชาชนทุกคนเข้าใจ และรัฐบาลก็ได้ประกาศไปแล้ว ซึ่งในต่างประทศก็มีการประท้วงแบบนี้ แต่เมื่อขออนุญาตแล้วก็อยู่ที่เดียว ไม่ว่ากี่วันกี่ปีก็ไม่เคลื่อนไปไหน และรัฐบาลก็จะเข้ามาแก้ไขเอง แต่ตนไม่ต้องรอให้ร้องก็แก้ปัญหาอยู่แล้ว ยืนยันมั้งรัฐบาลและคสช.ไม่เป็นศัตรูกับใคร ใครเป็นศัตรูกับตนไม่ทราบ แต่เป็นศัตรูกับกฏหมายไม่ได้ ทั้งนี้ขอบคุณเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะทหาร ตำรวจที่แก้ปัญหาอย่างสันติ ไม่มีการตีหรือยิงกัน และย้ำว่ารัฐบาลไม่อยากให้บานปลาย เพราะต่างประเทศจับตาดูอยู่ ซึ่งเป็นการในวิธีการของเราไม่รุนแรงเหมือนในต่างประเทศ ที่มีการสู้รบ โดยเริ่มจากการขัดแย้งภายใน มีคนตายเป็นล้านๆ คน จึงไม่มีการประท้วงเคลื่อนย้ายและเคารพกฎหมาย แต่ประเทศไทย ยังไม่เจอเหตุการณ์ขนาดนั้น จึงไม่รู้ว่ามันร้ายแรงแค่ไหน รัฐบาลจึงจำเป็นต้องเข้ามาควบคุมสถานการณ์เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินเดินหน้าสู่ประชาธิปไตยและรัฐบาลที่มีธรรมาภิบาล แม้ตนจะพูดเพราะไม่เป็น แต่หัวใจคิดถึงทุกคน ทุกศาสนาในประเทศไทย ที่อยู่อย่างสันติมาโดยตลอดภายใต้ร่มพระบารมีของราชจักรีวงศ์ทุกพระองค์มาจนถึงวันนี้รัชกาลที่ 10 โดยรัชกาลนี้ต้องเป็นรัชกาลที่บ้านเมืองสงบ ปลอดภัย ประชาชนมีชีวติความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เป็นสิ่งทีารัฐบาลน้อมนำพระราโชบายมาปฏิบัติทุกเรื่อง เพราะพระองค์ทรงคาดหวังว่าประเทศของเราต้องดีขึ้น สงบสุขยิ่งขึ้นอย่างสันติ มีการปฏิรูปและทำทุกอย่างให้เกิดความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เดินทางมาเพื่อสร้างความเข้าใจ ไม่ได้มาพูดเพื่อรักตน หรือเกลียด แต่ขออย่าเกลียดประเทศ หรือจังหวัด ผู้ว่าฯ และตำรวจในจังหวัดของตัวเองเพระทุกคนเป็นคนไทยทั้งสิ้น ขอให้ช่วยกันทำความดีเพื่อชาติและแผ่นดินในทุกโอกาส ส่วนการเลือกตั้งขอให้ใจเย็นๆ เป็นไปตามโรดแมป ตนขี้เกียจพูดอีกแล้ว

พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนตัวเป็นคนจริงจัง แม้จะโมโหบ้าง เพราะต้องการแก้ปัญหา ซึ่งหากอยากให้รัฐบาลยิ้มเฉยๆให้รอรัฐบาลต่อไป แต่ตนเองนั้นจะยิ้มสู้

อย่างไรก็ตามอยากให้ข้าราชการปรับตัว ทำงานเพื่อประชาชน พร้อมกันนี้ได้ฝากให้ทุกคนร่วมกันปลูกไม้ประดับ เพื่อให้เกิดความสวยงาม โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนนี้

จากนั้นในเวลา 09.50 น. นายกรัฐมนตรี ได้พบปะกับประชาชนที่เข้าร่วมเปิดโครงการ พร้อมกับทำมือส่งสัญลักษณ์ไอเลิฟยู และแวะทักทายกับ ชิซูกะและโนบิตะ ลูกลิงชิมแปนซี ซึ่งเป็นของกลางที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ล่อซื้อจากผู้กระทำความผิด และกำลังประสานส่งกลับไปยังประเทศอินโดนีเซีย โดยนายกรัฐมนตรี ได้อุ้มชิซูกะ แล้วก็หยอกล้อทักทายอย่างเป็นกันเอง

จากนั้นได้ขึ้นรถรางเพื่อเยี่ยมชมโครงการศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้ม อันเนื่องมาจากพระราชดำริ และปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ ปลานิล และปลายี่สก ที่อ่างเก็บน้ำเขาชะงุ้มพร้อมกล่าวว่า อย่าทะเลาะกันอยู่กันดีๆ  นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังได้เยี่ยมชมพลับพลาที่ประทับ ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 เมื่อ พ.ศ. 2555 และชมต้นประดู่ที่ทรงปลูก โดยได้เรียกรองนายกรัฐมนตรีและคณะมาถ่ายรูปพร้อมกล่าวว่า ได้ยินเพลงต้นไม้ของพ่อแล้วขนลุก สิ่งที่ท่านทำ ต้นไม้ที่ท่านปลูก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงหนึ่งระหว่างการเยี่ยมชมที่อ่างเก็บน้ำเขาชะงุ้ม นายกรัฐมนตรีเห็นผู้สื่อข่าววิ่งตาม จึงหันมาพูดว่า "พวกนี้ไม่เหนื่อยกันหรือไง ไม่พักผ่อนกันหรอ เมื่อวานก็เห็นไปอยู่กลุ่มม็อบ ขอโทษนะ ที่มันสั้นไปหน่อย เลยไม่ได้ทำข่าวหลายวัน"

อย่างไรก็ตามการลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรีและคณะมีชาวบ้านขอถ่ายภาพเซลฟี่ซึ่งนายกรัฐมนตรีปฏิเสธ โดยบอกว่าขอไม่ให้ถ่ายเดี่ยว ถ้าจะถ่ายให้ถ่ายเป็นภาพหมู่ เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยขอไว้ เพราะถ้าถ่ายกันคนหนึ่งจะเกิดความวุ่นวายขอถ่ายกันหลายคน ซึ่งนายกรัฐมนตรีบอกกับชาวบ้านด้วยว่าให้เราเดินไปด้วยกัน โดยชาวบ้านก็บอกว่าเราจะเดินไปด้วยกัน ซึ่งภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจนายกรัฐมนตรีได้เดินทางกลับกรุงเทพมหานครเพื่อปฏิบัติภารกิจต่อไป

 

 

related