หัวหน้าพรรคประธิปัตย์คนใหม่ให้สัญญาจะนำพาพรรคเป็นที่ 1 ในใจประชาชน ส่วนท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ที่จะไปร่วมกับพรรคพลังประชารัฐนั้นยังไม่ชัดเจนแต่มีกระแสข่าวว่าจะไปร่วมอย่างแน่นอน
กระแสข่าวที่เกิดขึ้นระบุว่า นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค โทรศัพท์ไปพูดคุยกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ว่าจุดยืนพรรคประชาธิปัตย์ จะไปร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ 100% แต่ขออย่าให้คนนอกแทรกแซงกระบวนการภายในพรรคประชาธิปัตย์ จึงมีการวิเคราะห์ว่า ประเด็นนี้น่าจะเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้นายจุรินทร์ชนะนายพีระพันธุ์ขาดลอย ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีเสียงสนับสนุนสูสีกัน ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ กล่าวขอบคุณสมาชิกพรรคที่ให้โอกาสทางการเมืองเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ พร้อมให้คำมั่นสัญญา จะทำให้ประชาธิปัตย์ไปสู่อุดมการณ์ที่ทันสมัย เพื่อเป็นหนึ่งในใจของประชาชนตลอดไป
นอกจากนี้ยังได้ขอบคุณชาวจังหวัดพังงาบ้านเกิด และคนไทยทั้งประเทศ รวมถึงสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ที่ให้ชีวิตทางการเมือง ขอบคุณ นายชวน หลีกภัย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ให้โอกาสพิสูจน์ตนเองในทางการเมือง พร้อมระบุว่าผลการเลือกหัวหน้าพรรควันนี้ เป็นคำตอบ ว่า ตัวเองเป็นหัวหน้าพรรคคนแรกในรอบ 73 ปี ที่ใช้เวลาพิสูจน์ตนเองนานถึง 33 ปี ซึ่งสะท้อนว่าหากเรามุ่งมั่น อดทน พรรคประชาธิปัตย์พร้อมให้ โอกาสเราทุกคน
ด้านนายสมชัย ศรีสุทธิยากร สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตกรรมการการเลือกตั้ง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุการไม่เอาประยุทธ์เป็นเรื่องของเหตุผล ไม่ใช่ตามกระแส โดยให้เหตุผลว่า พลเอกประยุทธ์อยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนานแล้ว ไม่มีผลงานโดดเด่น ที่ทำเป็นการใช้อำนาจพิเศษมากกว่าอำนาจปกติและใช่ว่าทำได้ดีนัก
เส้นทางของพลเอกประยุทธ์ ป็นการกระทำที่ไม่ได้มุ่งหวังให้เกิดสิ่งที่ดีแก่บ้านเมือง ไม่ว่าจะเป็นร่างรัฐธรรมนูญ เปลี่ยน กกต. ยกชุด สร้างพรรคการเมืองที่ได้เปรียบจากนโยบายและโครงการของรัฐ ดูดนักการเมืองที่ใช้ความได้เปรียบในฐานะรัฐบาลในการระดมทุน หลายอย่างที่เกิดขึ้นไม่มีใครจัดการได้ เช่นเรื่องแหวนแม่ นาฬิกาเพื่อน การโยกย้ายตำรวจที่ใกล้ชิดแบบไม่มีเหตุผล บุคลิกภาพ วุฒิภาวะ การให้เกียรติผู้อื่น และลงท้ายว่า “ไม่เอา ก็ คือไม่เอา ชัดมั้ย”