บลูมเบิร์ก คาด "กัมพูชา" ได้อานิสงค์จากสงครามการค้า "จีน-สหรัฐฯ"

กัมพูชา ได้อานิสงค์จากสงครามการค้า จีน-สหรัฐฯ

การคาดการณ์ ของสำนักข่าวบลูมเบิร์ก ซึ่งระบุว่า บรรดาบริษัทสินค้าแฟชั่นต่างพากันหาแหล่งผลิตสินค้าในชาติเอเชียตะวันเฉียงใต้ เพื่อเป็นทางเลือกจากจีน ที่กำลังเผชิญสงครามการค้ากับสหรัฐฯ หนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจคือกัมพูชาและเวียดนาม

ผลศึกษาของสมาคมอุตสาหกรรมแฟชั่น ของสหรัฐฯ ที่เผยแพร่ในเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา พบว่า แม้บริษัท ที่เข้าร่วมการสำรวจทั้งหมด มีฐานการผลิตสินค้าในจีน แต่ 67% ระบุว่า พวกเขามีแนวโน้ม จะลดปริมาณการผลิตในจีนในช่วง 2 ปี ข้างหน้านี้

เอ็ดเวิร์ด โรเซนเฟลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Steven Madden บริษัทผลิตรองเท้า และเครื่องประดับชื่อดัง ระบุว่า ได้ย้ายฐานการผลิตกระเป๋าถือจากจีนไปที่กัมพูชาแล้ว โดยยอดกระเป๋าที่ผลิตมาจากกัมพูชาในปีนี้เพิ่มขึ้นถึง 15% และ จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ด้าน Tapestry บริษัทสินค้าหรูที่เป็นเจ้าของทั้ง Coach และ Kate Spade ระบุว่า ได้ใช้กลยุทธ์เดียวกันกับ Steven Madden เช่นกัน โดยได้เพิ่มการผลิตสินค้าในเวียดนามมากขึ้น ทำให้ตอนนี้สินค้าที่ผลิตจากจีนมีสัดส่วนเหลือไม่ถึง 5% เท่านั้น

ขณะที่ ธนาคารกลางกัมพูชา เผยว่า การส่งออกรองเท้าของกัมพูชาเพิ่มขึ้น 25% ในปีที่แล้ว ในขณะที่การส่งออกเครื่องแต่งกายเพิ่มขึ้น 8% โดยปัจจัยมาจากอุปสงค์จากสหรัฐฯ ที่เพิ่มมากขึ้น

ทั้งนี้ กัมพูชานั้นได้รับสิทธิพิเศษยกเว้นทางภาษีจากสหรัฐฯสำหรับสินค้าบางประเภท ซึ่งเป็นนโยบายของสหรัฐฯในการช่วยกระตุ้นการพัฒนาของประเทศด้อยพัฒนา และประธานาธิบดีทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ยังคงนโยบายนี้ไว้ต่อ

นอกจากนี้ เรื่องค่าแรงก็เป็นปัจจัยสำคัญ เพราะค่าแรงในจีนในสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่ง Oxford Economics ระบุว่า กัมพูชายังเป็นหนึ่งในประเทศที่ค่าแรงต่ำที่สุดในโลก และ อัตราค่าแรงในกัมพูชาอยู่ที่เพียงหนึ่งในสี่ของค่าแรงในจีนเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม สมาคมเครื่องแต่งกายและรองเท้าของสหรัฐฯ ก็เตือนว่าในความเป็นจริง การย้ายฐานการผลิตออกจากจีนก็ไม่ใช่เรื่องง่าย

เหตุผลก็คือ ผลิตภาพของแรงงานกัมพูชา นั้นยังต่ำกว่าจีน ซึ่งจะเป็นปัญหาสำคัญสำหรับสินค้าปราณีต โดยสภาพัฒนาฮ่องกง ได้สำรวจความเห็นจากบรรดาผู้จัดการโรงงานพบว่า ผลิตภาพของแรงงานกัมพูชาโดยเฉลี่ยอยู่ที่เพียง 50-60% เท่านั้นเมื่อเทียบกับผลิตภาพของแรงงานจีน

เหตุผลอีกประการคือ โครงสร้างพื้นฐานของประเทศกัมพูชา ที่ล้าหลังจีน รายงานดัชนีการแข่งขันโลกของ World Economic forum พบว่า กัมพูชาอยู่ในอันดับ 106 จาก 137 ประเทศ

ท้ายสุดก็คือเรื่องของการเมือง รัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่าการเลือกตั้งกัมพูชา เมื่อเดือนที่ผ่านมานั้นไม่โปร่งใส ซึ่งอาจส่งผลให้ทั้งสหรัฐฯและยุโรป ทบทวนนโยบายการค้าที่มีต่อกัมพูชา และมีความเป็นไปได้ที่จะมีการยกเลิกสิทธิพิเศษทางภาษี ต่ออุตสาหกรรมเครื่องแต่งกายกัมพูชา ซึ่งนักวิเคราะห์ระบุว่า หากเกิดขึ้นจริง จะส่งผลกระทบต่อกัมพูชาอย่างมาก เพราะสัดส่วนการส่งออกสินค้าของกัมพูชานั้น เป็นเครื่องแต่งกายมากถึง 64% นั่นเอง