หล่อจนอึ้ง ! "แซม รณกฤต" เชื่อหรือไม่ จากเด็กผู้หญิง กลายเป็นหนุ่มฮอต

สำหรับวงการของเพศที่3 คงคุ้นหน้าคุ้นตากันบ้างแล้วกับหนุ่มหล่อ "แซม รณกฤต" บุคคลที่มีเพศกำเนิดเป็นผู้หญิง แต่ปัจจุบันเขาเรียกว่าตัวเองว่า "ผู้ชายข้ามเพศ" ซึ่งหนุ่มคนนี้เป็นหวานใจของนางงามร้อยเวที "นก ยลลดา" นายกสมาคมสตรีข้ามเพศแห่งประเทศไทย.

"แซม" เผยว่า เขารู้สึกว่าเขาเป็นผู้ชายมาตั้งแต่เด็ก และชอบผู้หญิงมาตลอด และยืนยันว่าตัวเองไม่ใช่ทอม แต่เขาคือผู้ชายที่อยู่ในร่างการผู้หญิง "แซม" เริ่มทำงานเก็บเงินตั้งแต่อายุ 16-17 เพื่อจะเข้าสู่การผ่าตัดเปลี่ยนเพศเป็นผู้ชายที่สมบูรณ์ ซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลาหลายปีกว่าจะสำเร็จ ขั้นตอนแรกคือเริ่มฉีดฮอร์โมนเพศชาย เพื่อทำให้มีหนวด มีเครา และเสียงเปลี่ยน จากนั้นก็ตัดเอาหน้าอกออก เอามดลูกรังไข่ออก เย็บช่องคลอด และสร้างอวัยวะเพศชายเทียม

" เริ่มขั้นแรกเลยผมจะเทคฮอร์โมนผู้ชายก่อน เทคมาตั้งแต่ 17 พอเทคไป 2 ปี อายุ 20 ผมก็เก็บตังค์ได้จำนวนหนึ่ง ผมก็ไปผ่าตัดหน้าอกทิ้ง ตัดมดลูกครับ และก็เย็บปิดช่องคลอด ตอนนี้เตรียมจะแปลงเพศแล้วแต่ว่ายังไม่ได้ปั้นองคชาต ต้องรอเก็บตังค์ก่อนแป๊บนึงครับ หน้าอกผ่าไป 6 หมื่น ตัดมดลูก 6 หมื่น เกือบ 7 หมื่น เย็บติดปากช่องคลอดประมาณ 9 หมื่น นี่ถ้ารวมปั้นองคชาตอีกก็เกือบ 5 แสนครับ แพงมาก ผมต้องเทคฮอร์โมนเหมือนเดิมตลอดชีวิต ประจำเดือนไม่มีครับ ตั้งแต่เทคฮอร์โมนประจำเดือนจะหยุดก็คือจะไม่มี ก่อนหน้านี้ก็มีปกติครับก็ไม่ชอบนะ ผมเคยคิดเลยว่าพอเทคฮอร์โมนมาแล้วถ้าต้องกลับไปมีประจำเดือนอีกผมตายแน่ ผมจะอยู่ได้ยังไงวะ รับไม่ได้อ่ะ ผู้ชายอะไรมีประจำเดือน ทุกวันนี้แม่ก็รู้ว่าเราไม่มีประจำเดือนแล้ว เมื่อก่อนแม่จะซื้อผ้าอนามัยมาให้ แต่หลังๆ ไม่เคยเห็นเราใช้หลังๆ เขาก็ไม่ซื้อผ้าอนามัยมาให้อีกเลย

แต่การที่ผมไม่มีประจำเดือนมันก็มีผลนะครับ เพราะฉะนั้นการที่คุณจะเทคฮอร์โมนคุณต้องแพลนอนาคตล่วงหน้าด้วยว่าคุณต้องการไปทางทิศไหน เช่น คุณเทคฮอร์โมนอีก 3-4 ปี คุณต้องเอามดลูกออกแน่ๆ หรือว่าคุณรีบเอาออกตั้งแต่ปีสองปีแรก เพราะว่ามันเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งมดลูก เพราะการเทคฮอร์โมนเนี่ยมันไปขัดไปทำให้มดลูกรังไข่เราไม่มีประจำเดือน ไข่มันไม่ตกตามฤดูกาลของมัน มันก็จะมีผลด้วย ถ้าจะเทค 1.เราก็ต้องยอมแลก อย่างผมเนี่ยผมเคยคิดไว้เลยขอให้ได้เทคเถอะ จะตายยังไงก็ยอมวะ เป็นมะเร็งกูก็เอาวะ แต่ว่าขอให้ได้เป็นผู้ชายเหอะ ให้ตายในร่างกายผู้ชายผมยอม"

ขอบคุณภาพจากเฟสบุ๊ก Sam Ronnakrit