2 นักมวยไทยค่ายดัง โดนเอารูปไปโพสต์ หลอกขายบริการทางเพศ

ที่ บก.ปอท. นายธีรวัฒน์ เศษวิสัย อายุ 19 ปี หรือ สมเดช ปิ่นสินชัย นักมวยไทย รุ่น 112 ปอนด์ นายชัยอนันต์ ปานคง อายุ 20 ปี หรือ พันมงคล ปิ่นสินชัย นักมวยไทย รุ่น 100 ปอนด์ พร้อมด้วย นายธีรพงศ์ เศษวิสัย อายุ 19 ปี หรือ สามารถ ปิ่นสินชัย นักมวยไทย รุ่น 115 ปอนด์ เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.หญิง ปัณณพร ยิ่งเรงเริง รอง สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. แจ้งความว่าโดนคนร้ายไม่ทราบเป็นใครแอบเอารูปภาพในชุดสวมกางเกงนักมวย ที่กำลังซ้อมมวยอยู่ที่ค่ายปิ่นสินชัย เลขที่ 72 ถนนสุคนธสวัสดิ์ ข.ลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กทม. จากเฟชบุ๊กของตนทั้งสองคน ไปปลอมไลน์ และลงประกาศขายบริการทางเพศ ในเว็บไซต์ gboysiam69.com มีคนหลงเชื่อติดต่อซื้อบริการแล้วแต่กลับไม่ไปให้บริการ ก่อนจะฟ้องไปทางเว็บไซดต์ดังกล่าว ว่าตนสองคนโกง

นายธีรวัฒน์ กล่าวว่า ตนทราบเรื่องนี้เมื่อวานประมาณ 16.30 น. ขณะซ้อมมวยเสร็จ มีคนมาแอดเป็นเพื่อนในเฟสบุ๊กของสามารถน้องชายฝาแฝด สอบถามมาว่าตนได้ไปหลอกขายบริการทางเพศ แล้วชักดาบไม่ไปให้บริการใครเขาหรือเปล่า เพราะเห็นมีรูปตนสองคนลงประกาศแจ้งเตือนสมาชิกในเว็บไซต์ดังกล่าวให้ระวังทั้งสองคนว่าเป็นพวกมิจฉาชีพ ก่อนจะส่งข้อความที่มีการติดต่อตกลงราคาค่าบริการมาให้ทางแมสเซนเจอร์

ส่วนนายชัยอนันต์ บอกว่า มีคนแอดมาเป็นเพื่อนในเฟชบุ๊ก 2-3 ราย ก่อนแจ้งเรื่องว่าตนไปโกงค่าบริการขายตัว ตกลงกันแล้วแต่ไม่ไปให้บริการ จนถูกประจานในเว็บไซต์ดังกล่าว

นายธีรวัฒน์ บอกต่อ ตนและเพื่อนๆ นักมวยทุกคนในค่ายต่างภาคภูมิใจในอาชีพนักมวย เป็นอาชีพสุจริต หาเลี้ยงชีพด้วยลำแข้ง ซ้อมมวยหนักเพื่อขึ้นเวทีชกกับคู่ต่อสู้ ยอมเหนื่อยเสียเหงื่อ เจ็บตัว เพื่อรายได้มาเลี้ยงตัวอละครอบครัว ไม่เคยคิดจะหาลำไพ่ด้วยการไปขายบริการทางเพศกับใครแบบนี้เลย การเรารูปตนไปประกาศแบบนี้สร้างความเสื่อมเสียและคนเข้าใจผิด จึงต้องมาแจ้งความเอาเรื่องให้ถึงที่สุด นอกจากชื่อเสียงส่วนตัวของเราสองคนแล้วยังทำให้ชื่อเสียงของค่ายปิ่นสินชัย”เสียหายไปด้วย

ร.ต.ท.ปัณณพร ร้อยเวรสอบสวน ได้แจ้งผู้เสียหายทราบว่ากรณีดังกล่าวเป็นความผิดตามกฎหมายอาญามาตรา 328 ข้อหาหมิ่นประมาท ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 อำนาจการสอบสวนเป็นของ สน.ท้องที่ที่ผู้เสียหายทราบการกระทำผิด คือ สน.โชคชัย ได้แนะนำผู้เสียหายไปพบพนักงานสอบสวน สน.ท้องที่เกิดเหตุ ส่วนทาง บก.ปอท.จะช่วยในการตรวจสอบการนำเข้าสู่ระบบฯ

พร้อมกับ รายงานให้ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผกก.3 บก.ปอท.ทราบ จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ต.อิสรพงศ์ ทิพย์อาภากุล สว.กก.3 บก.ปอท. ตรวจสอบเว็บไซต์เบื้องต้น พบว่า เป็นเว็บไซต์ ไอพี.อยู่ในต่างประเทศ จะช่วยแจ้งผู้ดูแลเว็บทราบว่ามีการแอบอ้างเป็นผู้เสียหาย ขอทางเว็บนำรูปประกาศว่าเป็นมิจฉาชีพออก

ส่วนกรณีคนร้ายที่แอบอ้างเป็นผู้เสียหายทั้งสองซึ่งจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.การค้าประเวณี ทาง บก.ปอท.จะช่วยตรวจสอบการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ของคนร้ายส่งต่อให้ สน.ท้องที่เกิดเหตุดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกง และ พ.ร.บ.ค้าประเวณี ต่อไป