svasdssvasds

ตำรวจ เข้มคุมแนวชายแดนสกัด โควิด ลอบเข้าช่องทางธรรมชาติ

ตำรวจ เข้มคุมแนวชายแดนสกัด โควิด ลอบเข้าช่องทางธรรมชาติ

รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ออกคำสั่งกำชับทุกหน่วยในความรับผิดชอบ เพิ่มความเข้มงวดช่องทางธรรมชาติตามแนวชายแดน ป้องกันลักลอบหลบหนีเข้าเมืองช่วงปีใหม่

วันนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงมาตรการสกัดการลักลอบเข้าประเทศตามแนวชายแดนว่า กล่าวว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง ตำรวจตระเวนชายแดน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง บช.ภ. 2-9  ที่มีเขตพื้นที่ติดแนวชายแดน ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงและทหารสกัดการลักลอบเข้าชายแดนตามช่องทางธรรมชาติ โดยเฉพาะที่จังหวัดเชียงราย และเชียงใหม่ 

โดยในวันนี้ตนได้ออกหนังสือคำสั่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจเฝ้าระวังจุดเสี่ยงลักลอบเข้าประเทศตามช่องทางธรรมชาติ  พร้อมทั้งสถานประกอบการ และสืบสวนสอบสวนขบวนการลักลอบนำแรงงานต่างด้าวเข้าประเทศ และให้ทุกจังหวัดเพิ่มตำรวจสอบสวนโรค อย่างกรณีหญิงที่ติดเชื้อลักลอบเข้าประเทศ ตอนแรกก็ไม่ยอมรับ แต่จากการสืบสวนสอบสวนหญิงสาวที่ติดเชื้อโควิดถึงยอมรับมีการลักลอบเข้าประเทศจริง การสอบสวนโรคต้องเข้มงวดขึ้น ให้ ตชด. และ สตม. หาข้อมูลจุดเสี่ยงและขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าว ซึ่งต้อมยอมรับว่ามีอยู่ต้องสืบสวนหาหัวหน้าขบวนการดำเนินคดีอย่างจริงจัง ทั้ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.ควบคุมโรค

 

ด่วน! ด่านบงตง พบหญิงไทยกลับจากมาเลย์ติดโควิด

“แก้มบุ๋ม” ถามสาวติดโควิดจากพม่า ไปทำอะไรมา ทำไมต้องแอบลักลอบเข้าไทย?

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า โดยเฉพาะใกล้ช่วงวันหยุดยาวและเทศกาลปีใหม่ที่จะมาถึง ต้องเพิ่มจุดตรวจจุดสกัดแรงงานต่างด้าวตามแนวชายแดน ทั้งช่องทางปกติและช่องทางธรรมชาติที่ฉกฉวยโอกาสลักลอบเข้าประเทศ พร้อมเตือนไปยังผู้สุ่มเสี่ยงลักลอบเข้าประเทศพึงสังวร ความประมาทส่วนตัวแต่ทำให้คนอื่นได้รับความเดือดร้อน เพราะเท่าที่ทราบยังมีคนไทยที่ข้ามไปทำงานฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ถ้าจะกลับเข้าไทยต้องทำตามระบบกักตัว 14 วัน

นอกจากนี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ปฏิบัติราชการแทน ผบ.ตร. ได้มีวิทยุราชในราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เลขที่ 0007.33/3749 ถึง ผบช.น. ภ.1-9 สตม. และ ตชด. ด้วยในการประชุม ศปก.ศบค. เมื่อ 2 ธันวาคม 2563 เวลา 08.30 น. ณ ห้องประชุมกองทัพไทย ที่ประชุมได้มีมติมอบหมายให้ ตร. เฝ้าระวังและตรวจสอบการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายตารมแนวชายแดนอย่างเข้มข้น และให้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ในการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ในพื้นที่ตอนใน เพื่อเฝ้าระวังการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย รวมทั้งให้การสนับสนุนทีมสอบสวนโรคในการติดตามผู้ต้องสงสัย ผู้สัมผัส หรือผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จึงให้ดำเนินการดังนี้

1.ให้ ภ.2-9 บช.ตชด. และ สตม. เพิ่มความเข้มงวด กวดขัน ระดมสรรพกำลังในการป้องกันปราบปรามการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองตามแนวชายแดนอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะแนวชายแดนด้านที่ติดกับประเทศสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อย่างรุนแรง

2.ให้ บช.น. และภ.1-9 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาตั้งจุดตรวจ จุดสกัด เพื่อป้องกัน เฝ้าระวังการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายในพื้นที่ตอนใน โดยให้จัดทำแผนการปฏิบัติการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ให้ชัดเจน

3.ให้ บช.น. และภ.1-9 สนับสนุนเจ้าหนักงานควบคุมโรคติดต่อในการสอบสวนโรคและติดตามผู้ต้องสงสัย หรือผู้สัมผัส หรือผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยให้นำการสืบสวนทางเทคนิค หรือเทคโนโลยีที่ทันสมัยและหมาะสม มาใช้ในการสืบสวน เพื่อสนับสนุนเจ้าหนักงานควบคุมโรคติดต่อ ให้ได้ข้อเท็จจริงถึงพฤติการณ์ของผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และกลุ่มเสี่ยงที่สัมผัสผู้ติดเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

4.การดำเนินการตามข้อ 1-3 ให้มอบหมาย รอง ผบช.ควบคุม กำกับดูแลการปฏิบัติอย่างใกล้ชิด

related