ไม่พลาด!! “แฝดรติวัฒน์” เก็บแต้มนำ “เดวิสคัพไทย” ปราบ “ฟิลิปปินส์”

เทนนิสชิงแชมป์โลก ประเภททีมชาย รายการ "เดวิสคัพ" ปี 2019 กลุ่ม 2 โซนเอเชีย/โอเชียเนีย ระหว่าง ทีมชาติไทย พบกับ ทีมชาติฟิลิปปินส์ ที่ศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งชาติ เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 6 เมษายน เป็นวันสุดท้าย แข่งขันประเภทคู่ และประเภทเดี่ยวชนมือ โดยผลวันแรก ทีมไทยนำ 2-0 คู่ ทำให้ต้องการอีกเพียงแค่แต้มเดียวจะคว้าชัยชนะในแมตช์นี้ทันที

ประเภทคู่ “ต้น” สนฉัตร รติวัฒน์ มือ 177 ของโลกในประเภทคู่ และ “ต้อง” สรรค์ชัย รติวัฒน์ มือ 143 ของโลกในประเภทคู่ นักหวดคู่แฝดมือ 1 ของไทย จอมเก๋าวัย 37 ปี พบกับ ฟรานซิส เคซี่ย์ อัลคันทาร่า วัย 27 ปี และ ฮูเรนเซ่ โซซิโม่ เมนโดซ่า ดาวรุ่งวัย 22 ปี

เซตแรก ต่างยื้อเกมเสิร์ฟของตัวเองเอาไว้ได้ เท่ากัน 4-4 จากนั้น สนฉัตรและสรรค์ชัย อาศัยทีมเวิร์กที่ดีกว่า เบรกเกมที่ 9 ขึ้นนำ 5-4 ก่อนออกมาเสิร์ฟปิดเซตเอาชนะไป 6-4 ทำให้ขึ้นนำ 1-0 เซต ส่วนเซตสองคู่แฝดไทยเบรกเกมที่ 3 ชิงขึ้นนำก่อน 2-1 ด้านฟิลิปปินส์มาเบรกคืนได้ในเกมที่ 10 เสมอ 5-5 สนฉัตรและสรรค์ชัย ใช้ความเก๋าเบรกคืน ขึ้นนำ 6-5 และออกมาปิดเกมเสิร์ฟของตัวเองไว้ได้ ชนะไป 7-5

สรุป สนฉัตรและสรรค์ชัย ชนะ 2-0 เซต 6-4, 7-5 ใช้เวลาแข่งขัน 1 ชั่วโมง 24 นาที เก็บแต้มที่ 3 ซึ่งเป็นแต้มสำคัญให้ทีมเดวิสคัพไทยชนะฟิลิปปินส์แน่นอน

คู่ถัดมาเป็นการแข่งขันประเภทเดี่ยวชนมือ ระหว่างเดี่ยวมือ 1 ซึ่งทั้งสองทีมต่างเปลี่ยนตัวผู้เล่นและส่งดาวรุ่งลงไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ โดยทีมไทย ส่ง "บูม" กษิดิศ สำเร็จ วัย 18 ปี พบกับ จอห์น ไบรอัน เดกาซ่า โอติโก้ วัย 19 ปีของฟิลิปปินส์ โดยคู่นี้ยังไม่เคยเจอกันมาก่อน และปรากฏว่า กษิดิศ ซึ่งชนะในเซตแรก 6-4 แพ้ในเซตสอง 3-6 และได้ขอยอมแพ้ในระหว่างการเล่นซูเปอร์ไทเบรกในเซตสาม เนื่องจากมีอาการตะคริวที่ขาทั้งสองข้าง ทำให้ กษิดิศ แพ้ไปด้วยสกอร์ 6-4, 3-6 และซูเปอร์ไทเบรก 6-7

ส่วนเดี่ยวชนมือคู่สุดท้าย ทั้งสองทีมต่างมีความเห็นตรงกันว่า จะไม่ลงทำการแข่งขัน ทำให้สกอร์จบอยู่ที่ ทีมไทย ชนะ ทีมฟิลิปปินส์ 3-1 คู่ โดยการแข่งขันครั้งนี้เป็นการแข่งขันเพื่อเก็บคะแนนไว้จัดอันดับ รองรับกับการเปลี่ยนรูปแบบการแข่งขันใหม่ของสหพันธ์เทนนิสนานาชาติ (ไอทีเอฟ) ต่อไป

หลังการแข่งขัน “กัปตันปิ๊ก” ร.ต.อ.ดนัย อุดมโชค กัปตันทีมเดวิสคัพไทย กล่าวว่า นักกีฬาทุกคนทำหน้าที่ได้สมบูรณ์แบบ ซึ่งโดยภาพรวมและด้วยศักยภาพของนักกีฬาชุดนี้ถือว่าเป็นชุดที่ดีที่สุด โดยครั้งนี้ได้ส่ง “เน็ต” พลภูมิ ดาวรุ่งวัย 19 ปี ลงแข่งแมตช์แรก และเก็บชัยชนะได้ ซึ่งถือว่า พลภูมิ ได้พิสูจน์ตัวเองในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับเพื่อนร่วมทีมได้มากขึ้น ขณะที่ “บูม” กษิดิศ สำเร็จ ก็ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์เพิ่มเติมให้ตัวเอง และจะเป็นกำลังสำคัญต่อไปให้ทีมชาติไทย ส่วน “จูเนียร์” วิชยา ตรงเจริญชัยกุล มือ 1 ไทย เราก็ตั้งความหวังกับเขาไว้อยู่แล้ว เช่นเดียวกับ “ต้น” สนฉัตร และ “ต้อง” สรรค์ชัย รติวัฒน์ ที่ไม่ทำให้ผิดหวัง

“ปีนี้คิดว่าเดวิสคัพจะไม่มีการแข่งขันแล้วในปีนี้ ซึ่งนักกีฬาทุกคนก็คงจะต้องมองต่อไปถึงกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ โดยคิดว่าทุกคนก็คงจะพยายามทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันซีเกมส์ครั้งนี้” กัปตันปิ๊ก กล่าว