หาคำตอบร่วมกันในเรื่องของ Empathy ความทุกข์ใจของคนอื่น ใช่เรื่องที่เราต้องยอมรับ หรือว่าการเข้าอกเข้าใจคนอื่นเป็นเรื่องง่าย เพียงแค่เราเอาใจเขามาใส่ใจเรา?
ความสุขทุกข์ของคนเราไม่เหมือนกัน บางคนรู้สึกหนักหนา แต่บางคนมองว่าเรื่องแค่นี้เอง นั่นเป็นเพราะต่อมความรู้สึกของคนเราไม่เท่ากัน การที่จะไม่ทำให้ทุกอย่างแย่ขึ้น นั่นก็คือการมี Empathy ซึ่งวิธีทำก็ง่ายมาก เพียงแค่เอาใจเขามาใส่ใจเราให้เพิ่มขึ้นเท่านั้นค่ะ
หลายครั้งที่ต้องเผชิญหน้ากับความทุกข์ใจของคนอื่น หรือเวลาที่คนอื่นกำลังเจอกับเรื่องแย่ๆ อยู่ การที่เรารู้สึกเข้าใจเขา ความรู้สึกแบบนั้นใช่ Empathy หรือ ความเข้าอกเข้าใจหรือไม่?
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
“Empathy” เมื่อความเห็นอกเห็นใจ มีความสำคัญช่วง WORK FROM HOME
ฉันเป็นซึมเศร้าหรือแค่เครียด! กับ 8 สัญญาณ ก่อนเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้า
ถ้าจะให้นิยามคำว่า Empathy ก็คือ ความสามารถหรือความเข้าใจ ที่ช่วยให้เราเข้าถึงความรู้สึกของคนอื่นมากขึ้น ถึงแม้ว่าว่าต่างคนจะต่างความคิด และทำให้เห็นต่างกันในบางครั้ง นั่นก็ไม่ใช่เรื่องผิด
แต่ถ้าความขัดแย้งที่เห็นต่างในบาครั้งนั้น เป็นการนำมาซึ่งปัญหา พร้อมทั้งส่งผลกระทบทั้งทางร่างกาย และสุขภาพจิตใจของใคร เราควรจะลงเปิดใจให้อีกฝ่ายเพิ่มขึ้น แล้วเพิ่มความคิดที่ว่าเราควรเอาใจเขามาใส่ใจเราให้มันเพิ่มขึ้น
Empathy ต่างจาก Sympathy อย่างไร?
เพราะฉะนั้น Empathy จึงต่างกับ sympathy ตรงที่เป็นความรู้สึกเห็นใจ ที่เกิดจากการเอาใจเขามาใส่ใจเรานั่นเอง
ประเภทของ Empathy
วิธีแสดงความห่วงใย ในรูปแบบ Empathy
การรับฟังอย่างตั้งใจ จะช่วยให้เราเข้าใจความรู้สึก เหตุผล และเหตุการณืที่เกิดได้มากขึ้น รวมไปถึงการสังเกตสีหน้าและท่าทาง ก็ช่วยให้เราเข้าใจและให้กำลังใจได้ถูกวิธี
ถึงแม้ว่าเราจะเอาความรู้สึกของเขามาใส่ในใจเรา ประหนึ่งเป็นผู้ประสบเอง แต่การเอาความคิดเห็นส่วนตัว มุมมอง ความรู้สึกของเราเข้าไปตัดสินเรื่องดังกล่าว เพราะ Empathy คือการมองในสิ่งที่เกิดขึ้นในมุมของของผู้ที่กำลังเผชิญเหตุการณ์
เพราะนอกจากการทำหน้าที่ผู้ฟังที่ดีแล้ว การให้กำลังใจ หรือการพูดคุยที่ดี ที่ทำให้เขารับรุ้ได้ว่าเราอยู่ข่างๆ ตรงนีเสมอ ในยามที่เขาต้องการ จะเพิ่มความรู้สึกดีไม่ให้อีกฝ่ายรู้สึกสิ้นหวัง เสมือนอยู่เผชิญหน้ากับปัญหาคนเดียว
เมื่อเราทำทั้งหมดแล้ว ทั้งการเห็นอกเห็นใจและการเข้าใจความรู้สึกของอีกฝ่าย อีกสิ่งที่ควรจะทำนอกจากการให้กำลังใจปากเปล่าแล้ว นั่นก็คือการให้ความช่วยเหลือเท่าที่เราทำได้ เพราะการที่เราพยายามที่จะช่วยเหลือ ก็เป็นเสมือนพลังอีกอย่างที่ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกดีเพิ่มขึ้นเช่นกัน
ที่มา verywellmind / Psychology Today / Inc.com