svasdssvasds

9 ลักษณะการจับมือ ที่ความหมายแตกต่างกัน รับวันวาเลนไทน์ 2566

9 ลักษณะการจับมือ ที่ความหมายแตกต่างกัน รับวันวาเลนไทน์ 2566

สำหรับ เทศกาลวันวาเลนไทน์ การ จับมือ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งการสื่อสาร ที่มีความหมาย และเป็นจุดเริ่มต้นของการสัมผัส ก่อนจะสานต่อไปยังการสัมผัส บอกความรู้สึกในจุดอื่นๆ มีการ บอกลักษณะการ "จับมือ" กันไว้ทั้งหมด 9 ลักษณะคร่าวๆ ซึ่งมีความหมาย มีรายละเอียดปลีกย่อยแตกต่างกันไป

ภาษากาย นับเป็นภาษาที่สำคัญสำหรับการใช้สานต่อความสัมพันธ์ต่างๆ เพราะมันสามารถ "สื่อสาร" และส่งสาส์น ความรู้สึก ข้างในลึกๆออกไปยังผู้ถูกสัมผัสได้ แม้ว่า จะไม่มีการพูดบทสนทนากันเลย  และนับได้ว่า มันเป็นความมหัศจรรย์ของมนุษย์ ที่การใช้สัมผัสต่างๆของร่างกาย แทนคำพูด และการ "จับมือ" ก็ถือเป็นอีกหนึ่งการสื่อสาร ที่มีความหมายมากมาย และ เป็นจุดเริ่มต้น ของการสัมผัส ก่อนจะสานต่อไปยังการสัมผัส บอกความรู้สึกในจุดอื่นๆ 
.
อย่างน้อยๆ การ "จับมือ" กัน ก็จะส่งผลให้อุณหภูมิของทั้ง 2 คน ถ่ายทอดไหลผ่านหมุนเวียน ส่งผ่านถึงกันได้ , ในทุกครั้งที่จับมือ จะสัมผัสได้ถึงความอบอุ่น , ให้ความรู้สึกสบาย , ให้ความมั่นใจ และ ช่วยลดความเจ็บปวดในความรู้สึกบางอย่างได้ เพราะการจับมือกัน อย่างน้อย เราทุกคน ก็ไม่ได้อยู่เดียวดาย อ้างว้าง ท่ามกลางความเหงา บนโลกใบนี้ 
.
อย่างไรก็ตาม มีการ บอกลักษณะการ "จับมือ" กันไว้ทั้งหมด 9 ลักษณะคร่าวๆ ซึ่งแต่ละแบบ มีความหมาย มีนัยยะ ที่มีรายละเอียดปลีกย่อยแตกต่างกันไป 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

1)  ฝ่ามือประกบกัน : The Down-Facing Palm 
เป็นลักษณะการจับมือ ที่ฝ่ายชาย มักจะจับฝ่ายหญิงแบบนี้บ่อยๆ มันสามารถบ่งบอกถึงการปกป้อง การมีความรับผิดชอบ สถานการณ์การจับมือรูปแบบนี้มักจะมาในช่วงเวลา อาทิ การข้ามถนน 
ฝ่ามือประกบกัน : The Down-Facing Palm
 

2) นิ้วประสานกันทั้งหมด และล็อกข้อมือ :  The Interlocked Fingers
.
การจับมือลักษณะนี้ คือแสดงออกถึงความสัมพันธ์ที่แนบแน่น และมีความมั่นใจ

 นิ้วประสานกันทั้งหมด และล็อกข้อมือ :  The Interlocked Fingers
 

3) เกี่ยวปลายนิ้วชี้ : The Finger Grab
.
การจับมือที่หลวมๆ แปลว่าให้อิสระต่อกัน มีพื้นที่ให้แก่กัน ความสัมพันธ์แบบไม่อึดอัด 
เกี่ยวปลายนิ้วชี้ : The Finger Grab
4.  เกี่ยวปลายนิ้วก้อย : The One-Finger Handhold

เป็นอีกหนึ่งลักษณะการจับมือ ที่ดูผ่อนคลาย แม้จะไม่สนิมสนมแบบแนบแน่นแบบ  นิ้วประสานกันทั้งหมด แต่มันก็ยังอยู่ในลักษณะที่เต็มไปด้วยความโรแมนติก และ มีสีสัน และมีความเล่นๆ เจ้าชู้เล็กๆ
เกี่ยวปลายนิ้วก้อย : The One-Finger Handhold
5. โอบไหล่แล้วล็อกประสานมือไว้ The Over-The-Shoulder Lock  

การจับมือในลักษณะนี้ หมายถึงการที่ฝ่ายชายพร้อมจะแสดงการปกป้องจากอันตราย  และพร้อมที่จะเสียสละได้  
โอบไหล่แล้วล็อกประสานมือไว้ The Over-The-Shoulder Lock
6.  จับมือแบบหลวมๆ : The Passive Handhold


การรับมือแบบไม่แนบแน่นแบบนี้ มันหมายความว่า เปิดพื้นที่ให้มีความคิด มีพื้นที่ระหว่างกัน แต่ อีกนัยนึง ก็หมายความว่า กำลังมีเรื่องครุ่นคิดอยู่ 

จับมือแบบหลวมๆ : The Passive Handhold
7. จับตรงสันมือ : The "My Lady"

.
การจับมือที่คนจับจับบริเวณสันมือ หรือง่ามมือนั้น หมายถึงการจับมือที่มีความ "สุภาพ" ให้เกียรติเจือปนอยู่  แม้มันจะสัมผัสกันอย่างไม่เต็ม 100 เปอร์เซนต์ แต่สื่อความหมายถึงความแข็งแรง มั่นคง มีความเคารพ ความรัก และ ความเชื่อใจ การจับลักษณะนี้ใช้ในงานแต่งงานก็จะน่าจะเหมาะกับแวดล้อมทั้งหมด 

จับตรงสันมือ : The "My Lady"

 

8 จับแบบประสานนิ้ว แต่ไม่ล็อกแน่น : The Relaxed Lace

แม้การจับมือในลักษณะนี้จะดูไม่ค่อยพบเห็นบ่อยนัก แต่มันก็มีความหมายว่า ทั้ง 2 คน มีความไว้เนื้อเชื่อใจ มีความมั่นใจ และสถานะทางอรมณ์ที่มั่นคงต่อกัน พอสมควรแล้ว และมีความแนบชิดสนิทสนมกันมากแล้ว 

จับแบบประสานนิ้ว แต่ไม่ล็อกแน่น : The Relaxed Lace

9. ไขว้แขนจับข้อมือ : The Wrist Grab
.
การจับมือ ไขว้แขนแล้วจับข้อมือนั้น มีลักษณะพิเศษ เพราะมันไม่ได้หมายความว่า ทั้ง 2 ฝ่ายจับกันแค่มือส่วนล่างเท่านั้น แต่มันหมายถึงการเกี่ยวพันของแขนด้วย ถ้าหากจะจับในลักษณะนี้ ซึ่งมันหมายถึงการกระตือรือร้นและอยากเดินหน้าความสัมพันธ์
.
สำหรับ 9 ลักษณะการจับมือ ที่ความหมายความหมายแตกต่างกัน รับวันวาเลนไทน์นั้น สุดท้ายแล้ว มันอาจจะไม่ได้สื่อความหมายอย่างตรงไปตรงมาทั้งหมด แต่อย่างน้อยๆการจับมือกัน สัมผัสกัน มันก็เป็น ภาษากาย ที่บ่งบอกว่า คนเรามีความรู้สึกดีๆต่อกัน  

 ไขว้แขนจับข้อมือ : The Wrist Grab
.

related