svasdssvasds

มิตซูบิชิ ชี้คนไทยจะใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น ถ้ารัฐสนับสนุนจุดชาร์จ

มิตซูบิชิ ชี้คนไทยจะใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น ถ้ารัฐสนับสนุนจุดชาร์จ

มิตซูบิชิเผย พร้อมเดินทางสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน เน้นโครงการ CSR ให้คุณภาพชีวิตของชุมชนต่างจังหวัดดีขึ้น ปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นแล้ว แต่ยังขาดการสนับสนุนจากรัฐ

เมื่อพูดถึงมิตซูบิชิ ใคร ๆ ก็ต้องนึกถึงรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่น แต่เมื่อตลาดรถยนต์ไฟฟ้ากำลังมาแรง มีหรือที่มิตซูบิชิจะพลาด จากงานสัมมนาที่ Springnews จัดขึ้นเมื่อวันที่ 25 ก.ค. 2565 Virtual Forum Innovation Keeping the World : Rethink Recover นวัตกรรมรักษ์โลก ในช่วง Session แรก ได้เรียนเชิญผู้บริหารมิซูบิชิมาร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความต้องการของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าว่ายังมีปัญหาตรงไหนบ้าง และมีนวัตกรรมอะไรดี ๆ ที่อยากบอกบ้าง

คุณ เอกอธิ รัตนอารี กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายงานทรัพยากรบุคคลและบริหารทั่วไป บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ได้ให้ความเห็นว่า

ในช่วงนี้ รถยนต์ไฟฟ้ามีส่วนสำคัญจริง ๆ ในการช่วยลดมลพิษที่เกิดขึ้นบนท้องถนน แม้ว่าปัจจุบันยอดขายของรถ EV หรือ PHEV จะยังมีไม่ถึง 1% ในตลาดรวมก็ตาม และทางมิตซูบิชิเองก็มีรถยนต์ไฟฟ้าที่เหมาะสมกับสถานการณ์คือ Mitsubishi Outlander PHEV ซึ่งเป็น SUV Plug-in Hybrid ปล่อยไอเสียต่ำ ประหยัดน้ำมัน และเราก็ให้ความสำคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อมมาก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

มาตรการด้านสิ่งแวดล้อมของมิตซูบิชิ

เราค่อนข้างชัดเจน ในเป้าหมายลดคาร์บอนให้ได้ภายในปี 2040 เรามี CSR (จิตอาสา) ปลูกป่าชุมชน เกือบ 100 ไร่แล้ว ที่ชลบุรี สระบุรี โคราช เพื่อสร้างรายได้ให้ชุมชน มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และโปรเจกต์ของเราจะต้องเป็นโครงการระยะยาว เช่น Solar For Life เพื่อมุ่งหวังว่า ชีวิตผู้คนในต่างจังหวัดจะต้องดีขึ้น ด้วยการติดตั้งโซลาร์เซลล์บนหลังคา ช่วยลดลบประมาณสาธารณสุข เพื่อจะมีเงินเหลือไปซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัยขึ้น

โรงงานของมิตซูบิชิได้รับการรับรองให้ใช้พลังงานน้อยที่สุด ให้เกิดของเสียน้อยที่สุด และเราต้องปลูกจิตสำนึกให้คนของเราเข้าใจเรื่องการลดพลังงานด้วย เพื่อนำไปปรับใช้ให้มันกลายเป็นจิตสำนึกและกระจายสู่สังคม

เป้าหมายที่ชัดเจนในเรื่องของสิ่งแวดล้อมคือ

  • ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลง 40% ภายในปี 2030
  • ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็นศูนย์ (Carbon Neutral) ภายในปี 2050

แต่การจะไปให้ถึงความเป็นกลางทางคาร์บอนได้นั้น มิตซูบิชิจะต้องลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ขององค์กรลง เน้นการปลูกฝังจากภายในองค์กรก่อนและขยายสู่ชุมชน ดูดกลับคาร์บอนไดออกไซด์ด้วยกิจกรรม CSR ของมิตซูบิชิ

นอกจากนี้มิตซูบิชิยังเผยว่า จะเปลี่ยนไปใช้หลังคาพลังงานจากแสงอาทิตย์ (Solar Cell) บนอาคารทุกแห่งขององค์กรพร้อมมีจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่ม และลดการใช้กระแสไฟฟ้าภายในโรงงานที่ดูเหมือนจะสิ้นเปลืองลง เช่น การเปลี่ยนไปใช้หลอดไฟ LED ประหยัดพลังงาน การใช้พัดลมขนาดใหญ่ภายในโรงงานเพื่อให้อากาศถ่ายเท เป็นต้น

ปัญหาที่พบเจอ

รถ EV 100% ในไทยยังมีข้อจำกัดเรื่องสถานีชาร์จอยู่ ซึ่งการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานยานยนต์ไฟฟ้าไม่เพียงพอ แม้ว่าตอนนี้สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในไทยจะมีมากกว่า 12,000 หัวชาร์จแล้วก็ตาม ตามที่รัฐบาลประกาศกลยุทธ์ 30@30 หรือต้องมีการผลิต EV ถึง 30% จากกำลังการผลิตรถยนต์ทั้งประเทศในปี 2030 แต่เหลือเวลาอีกเพียง 8 ปี ต้องมาดูกันว่าจะทำได้หรือไม่

ในด้านนวัตกรรมของมิตซูบิชิ ตอนนี้เราได้ริเริ่มผลิต Plug-in hybrid หรือแบตเตอรี่ที่เรียกว่า ไอบรีฟ ที่สามารถเป็นกล่องกักเก็บพลังงานใช้ได้ทั้งกับรถและในบ้านครัวเรือนได้ ซึ่งจะประหยัดและได้ประโยชน์กันทุกครัวเรือน 1 เครื่องใช้งานได้หลากหลาย ทำให้ประชาชนประหยัดเงินได้ด้วย

ประโยคเด็ดจากคุณ เอกอธิ ถึงรัฐบาล

รัฐบาลต้องมาดูบ้าง เพราะต่างประเทศเขารองรับ แต่ของเรายังไม่มีการรองรับ โครงสร้างพื้นฐานยานยนต์ไฟฟ้าถือเป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้นรัฐบาลควรลงมาสนับสนุนผู้ประกอบการที่ทำสถานีชาร์จบ้าง โดยให้ Incentive เพิ่มเติม

เมื่อวันที่ 25 ก.ค. 2565 ที่ผ่านมา Springnews ได้จัดงานสัมมนาในหัวข้อ Innovation Keeping the World : Rethink Recover ขึ้น เพื่อชวนอุตสาหกรรมน้อยใหญ่มาร่วมพูดคุยถึงแนวทางการหาคำตอบร่วมกันว่า นวัตกรรมไทยจะสามารถช่วยโลกใบนี้ได้อย่างไร โดยจะแบ่งออกเป็น 2 Session ได้แก่ Zero Carbon และ Zero Wasteซึ่งสามารถรับชมย้อนหลังได้ที่ >>> https://www.springnews.co.th/news/

related