คุม2สาวจ้างทำข้าวกล่องอลเวงฝากขัง ยังไม่พบตำรวจเอี่ยว-โยงขบวนการส่งบ่อน

จากกรณี นางสาว ธนิสร กุยแก้ว อายุ 42 ปี ผู้เสียหาย ที่รับทำข้าวกล่องจำนวน 10,000 กล่อง น้ำดื่มจำนวน 10,000 ขวด โดยว่าจ้างญาติและชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียงร่วมกันทำข้าวกล่องอย่างเร่งด่วนแบบหามรุ่งหามค่ำ เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ทันตามกำหนด ระหว่างเวลา 06.00 น. ถึง 07.00 น. เพื่อส่งให้ผู้ว่าจ้างสาว 2 ราย คือ นางสาวธนิตา  จันทร์อิ่ม และ นางสาว กัญจ์หทัย สุขใส ซึ่งมีการทำหนังสือสัญญาว่าจ้างเป็นลายลักษณ์อักษรให้มีการส่งข้าวกล่องทั้งหมด เมื่อวันที่ 5 พ.ย. ที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่าถูกปฏิเสธไม่จ่ายเงิน เนื่องจากทำผิดสัญญาว่าจ้างเรื่องเวลา และต้องถูกปรับเงินจำนวน 350,000 บาท สร้างความเดือดร้อนให้กับตนเองและชาวบ้านที่ร่วมกันรับทำข่าวกล่องในครั้งนี้

ที่ สภ.พญาแมน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้คุมตัว นางธนิตา จันทร์อิ่ม หรืออิ๋ว ผู้ชักชวน และ นางสาวกัญจ์หทัย สุกใส หรือป้าง ผู้ว่าจ้างหรือผู้ทำสัญญาทำข้าวกล่อง น้ำดื่ม ไข่ต้ม สอบปากคำเพิ่ม หลังจากเมื่อคืนนี้สอบปากคำนานกว่า 5 ชั่วโมงก่อนปล่อยตัวไป โดยนำแผงกั้นมาปิดทางเข้า-ออก และเขียนป้ายไม่มีส่วนเกี่ยวข้องห้ามเข้า ก่อนสอบสวนใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง พล.ต.ชัยเดช สุรวดี ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 35 และ พล.ต.ต.พยูห์ ธนะศรีสืบวงศ์ ผบกภ.จว.อุตรดิตถ์ ร่วมการสอบสวนในครั้งนี้

จากนั้นเวลา 12.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 10 นาย ได้ควบคุมตัวนางธนิตา จันทร์อิ่ม และนางสาวกัญจ์หทัย สุกใส ออกจากห้องสอบสวน เพื่อนำไปฝากขังที่ศาลจังหวัดอุตรดิตถ์ ขณะเดินออกจากห้องสอบสวน นางสาวกัญจ์หทัย ถูกควบคุมตัวออกมาก่อนเมื่อเห็นกองทัพสื่อมวลชนที่ยืนรออยู่ ส่งยิ้ม ส่วนนางธนิตา ใช้กระดาษปิดบังใบหน้า แม้ผู้สื่อข่าวจะพยายามสอบถามราละเอียด ทั้ง 2 ไม่ได้ตอบคำถามใดๆ ก่อนจะถูกนำตัวขึ้นไปรถควบคุมผู้ต้องหา สภ.พญาแมน ไปยังศาลจังหวัดอุตรดิตถ์

[gallery columns="1" size="full" ids="379738,379739"]

พล.ต.ต.พยูห์ ธนะศรีสืบวงศ์ ผบก.ภ.จว.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า ได้นำตัวผู้ต้องหา 2 คนมาสอบเพิ่มเติม เพื่อหาพยานหลักฐานให้รัดกุมที่สุด ในการพิสูจน์ความผิด เพื่อนำคดีขึ้นศาล โดยนำผู้ต้องหาไปฝากขังที่ศาลจังหวัดอุตรดิตถ์ ส่วนเรื่องการประกันตัวนั้นอยู่ในดุลยพินิจของศาล หากศาลไม่ให้ประกันตัวก็เข้าเรือนจำ หรือหากให้ประกันตัวในชั้นศาล ก็จะต้องรายงานตัวทุกระยะ

นอกจากนี้ ฝ่ายทหาร ตำรวจ และปกครอง ได้หารือร่วมกันสืบสวนขยายผลต่อ เพื่อหาว่ามีใครร่วมในขบวนการนี้อีกหรือไม่ และมีเหยื่อที่ถูกหลอกลวงเพิ่มเติมรวบรวมหลักฐานเอาผิดต่อไป แต่ในชั้นนี้ ผู้เสียหายแจ้งความ 1 ราย ส่วนที่เหลือเป็นพยาน ทุกขั้นตอนเจ้าหน้าที่ทำงานอย่างโปร่งใส รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ไม่มีเจ้าหน้ารัฐคนใด เข้าไปยุ่งเกี่ยว ส่วนที่มีการระบุว่ามีตำรวจเกี่ยวข้องในขบวนการในการช่วยไกล่เกลี่ยนั้น ยังไม่พบ ส่วนคดีเก่าๆ ทั้งฉ้อโกง ยักยอกทรัพย์ ยาเสพติด ตำรวจพยายามดำเนินคดีทุกคดี แต่เมื่อส่งขึ้นศาลแล้วก็จะหมดหน้าที่ของตำรวจ

ผู้สื่อข่าวได้ถามถึงข้าวกล่องที่สั่งทำจำนวนมากๆ เส้นทางส่งไปยังบ่อนในพื้นที่ใช่หรือไม่ พล.ต.ต.พยูห์ กล่าวว่า ขอตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบว่าเป็นจริงจะดำเนินการกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ผู้ต้องหาให้การภาคเสธขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น