ยึดระเบิดซุกในป่า 2 จุด ที่หนองจิก จ.ปัตตานี

เร่งสอบเหตุกราดยิงรถไฟ นครศรีฯ-ยะลา ไร้เจ็บ

ที่สถานีรถไฟยะลา อ.เมือง จ.ยะลา ฝ่ายช่างประจำสถานีรถไฟยะลา เร่งตรวจสอบความเสียหายของตู้โดยสารรถไฟ ขบวนที่ 454 นครศรีธรรมราช - สุไหงโกลก - ยะลา เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธสงครามยังไม่ทราบชนิดซุ่มยิงขบวนรถไฟเป็นชุดๆหลายสิบนัด บริเวณสองข้างทาง บ้านดือแย  หมู่ที่ 4 ต.สาวอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ก่อนถึงสะพานข้ามแม่น้ำสายบุรี เขตรอยต่อกับ ม.4 ต.บาลอ อ.รามัน จ.ยะลา ซึ่งเป็นขบวนรถ ปลายทาง สถานีรถไฟยะลา

ทำให้เจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาความสงบเรียบร้อยประจำขบวนรถ จำนวน 7 นาย ได้ยิงตอบโต้ เป็นเวลากว่า 10นาที ขณะที่พนักงานขับรถไฟ ได้พาขบวนรถไปจอดที่สถานีบาลอ อ.รามัน จ.ยะลา จากการตรวจสอบไม่พบมีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ และขบวนรถสามารถวิ่งไปต่อได้มาจอดตรวจสอบอีกครั้ง ที่สถานีรถไฟยะลา โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเวลา 17.05 น.วานนี้

สำหรับรถไฟขบวนดังกล่าว เป็นขบวนวิ่งนครศรีธรรมราช - ยะลา - สุไหงโกลก - ยะลา ซึ่งได้วิ่งออกจากสถานีสุไหงโก-ลก เวลา 15.30 น.กำหนดการถึงปลายทางสถานียะลา ในเวลา 18.00 น.

ส่วนที่จ.ปัตตานี พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี พร้อมพ.อ.หาญพล เพชรม่วง ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกรมทหารพรานที่ 43 และพ.ต.อ.ฐมณ์พงศ์ เพ็ชรพิรุณ ผู้กำกับการสภ.หนองจิก จ.ปัตตานี นำตัว นายอิบรอเป สิเดะ ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีความมั่นคง จำนวน 3 หมาย ซึ่งถูกจับกุมขณะเจ้าหน้าที่เข้าปิดล้อมตรวจค้นจนเกิดปะทะกันขึ้น เมื่อวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา เข้าชี้จุดที่ผู้ต้องหาสารภาพว่า มีระเบิดซุกซ่อนไว้ในป่า จำนวน 2 จุด ในพื้นที่หมู่ 1 ต.ดอนรัก อ.หนองจิก จ.ปัตตานี

โดยจุดที่ซุกระเบิดจุดแรกอยู่ในป่ากลางทุ่งนา พบระเบิดแบบไปป์บอมบ์ จำนวน 2 ลูก สภาพพร้อมใช้งานซุกในท่อพีวีซีฝังดินไว้ จากนั้นผู้ต้องหาได้ไปชี้จุดที่ 2 ซึ่งเป็นอุปกรณ์ประกอบระเบิด ห่างจากจุดแรกประมาณ 500 เมตร ถูกซุกซ่อนไว้ในป่ารกทึบ มีทั้งดินระเบิด และวงจรระเบิดซุกในท่อพีวีซีฝังดินไว้ เจ้าหน้าที่จึงนำของกลางทั้งหมดออกมาตรวจสอบ ปรากฏว่าอุปกรณ์ประกอบระเบิดที่ยึดได้ในจุดที่ 2 หากนำไปประกอบจะได้ระเบิดชนิดไปป์บอมบ์ จำนวน 5 ลูก

เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดของกลางไว้ทั้งหมดไปตรวจสอบ โดยเฉพาะวัตถุพยานที่สามารถตรวจสอบดีเอ็นเอ ว่าจะตรงกับข้อมูลประวัติคดีความมั่นคงว่าเป็นกลุ่มใด ส่วนระเบิดที่ยึดได้นั้น นายอิบรอเป ระบุว่าเป็นของ นายยูโซ๊ะ แมะตีเมาะ ที่หลบหนีไปจากเหตุปะทะ