อดีตครูสอนพระปริยัติธรรมผูกคอตายคาด "โรคซึมเศร้า"

อดีตครูสอนพระปริยัติธรรมบวชมากว่า 20 พรรษา เป็นโรคซึมเศร้าสึกออกมากลับบ้าน จู่ๆผูกคอตายในห้องนอน ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยเผยในรอบ 2 เดือน ซึมเศร้าผูกคอตายแล้ว 5 รายฝากคนในครอบครัวดูแลใส่ใจซึ่งกันและกัน

พันตำรวจโทเชษฐา อ่อนสุต พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสงคราม พร้อมแพทย์หญิงธัญพร จันทร์ธีระ แพทย์เวรโรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างเบญจธรรมสมุทรสงคราม เข้าตรวจสอบศพนายณรงค์ชัย รัตน์พิทักษ์ อายุ 62 ปี ซึ่งผูกคอตายภายในห้องนอนในบ้านพักเลขที่ 62/4 หมู่ 4 ตำบลแหลมใหญ่ อำเภอเมืองสมุทรสงคราม

โดยสภาพนั่งพับเพียบพิงพนังห้อง ลำคอผูกด้วยเชือกในล่อนสีเขียว ผูกกับขื่อบ้าน ญาตินำศพลงมานอนรอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ คาดว่าเสียชีวิตประมาณ 3 ชั่วโมง

นายสังห์ คชรัตน์ อายุ 45 ปี น้องเขยผู้ตาย เล่าว่า นายณรงค์ชัย ผู้ตายเคยอุปสมบทชื่อพระณรงค์ชัย รัตโน โดยบวชที่วัดปากสมุทร ตำบลแหลมใหญ่ อำเภอเมืองสมุทรสงคราม มานานเกือบ 20 ปี และเคยเป็นครูสอนพระปริยัติธรรม ผ่านการปฏิบัติธรรมโครงการอบรมพระสังฆาธิการคณะสงฆ์ภาค 15 รุ่นที่ 4 เมื่อปี 2554 ต่อมามีอาการป่วยเป็นโรคซึมเศร้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลสงฆ์

กระทั่งเมื่อเดือนก่อนได้ลาสิกขาบทกลับมาอยู่บ้านก็มักปิดประตูเก็บตัวอยู่ในห้อง ซึ่งตนและญาติๆก็จะคอยดูแลเป็นช่วงๆ ก่อนเกิดเหตุตนเห็นว่ามืดแล้วยังไม่ออกมากินข้าวเย็น จึงงัดห้องเข้าไปดูก็พบว่านายณรงค์ชัย ผู้ตาย ผูกคอเสียชีวิตไปแล้ว ตนตกใจมากจึงรีบนำศพลงมาพยายามช่วยเหลือ แต่ก็ไม่ทันนายณรงค์ชัย ผู้ตาย เสียชีวิตไปแล้ว

จากการสอบสวนเบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่านายณรงค์ชัย ผู้ตายมีอาการซึมเศร้า และไม่อยากเป็นภาระของญาติพี่น้องจึงตัดสินใจผูกคอตายจากโลกนี้ไปก็เป็นได้ ซึ่งแพทย์เวรไม่สามารถลงความเห็นการเสียชีวิตได้เจ้าหน้าที่จึงส่งศพชันสูตรที่โรงพยาบาลราชบุรีเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไปต่อไป

นายอนุวัฒน์ ภัทรจิตตานันท์ เจ้าหน้าที่เวชกรฉุกเฉินกล่าวว่า ในพื้นที่รับผิดชอบของหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างเบญจธรรมสมุทรสงคราม ในรอบ 2 เดือนมีผู้ผูกคอเสียชีวิตถึง 5 ราย ซึ่งยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด

แต่ก็คาดว่าเกิดจากโรคซึมเศร้า จึงขอฝากคนในครอบครัวสอดส่องดูแลสังเกตพฤติกรรมคนในบ้านว่ามีอาการซึมเศร้า หรือ เครียด หรือผิดปกติอะไรหรือไม่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการสูญเสียชีวิตของคนที่รักในครอบครัวอีกต่อไป