ทราบหรือไม่? เด็กมากกว่า 20% มีโอกาสตกเป็นเหยื่อจากการแสวงหาประโยชน์ทางเพศออนไลน์ ขณะที่ประเทศไทยมีรายงานการล่วงละเมิดทางเพศเด็กทางออนไลน์เป็นอันดับ 2 ของโลก และอัตราการเติบโตของเว็บมืดก็เพิ่มสูงขึ้นถึง 5 เท่า
จากสถิติเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศเด็กทางออนไลน์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติพบว่า คนร้าย 1 คน สามารถสร้างความเสียหายต่อเหยื่อที่เป็นเด็กได้ถึง 1,000 คน เด็กถึง 20% มีโอกาสตกเป็นเหยื่อจากการแสวงหาประโยชน์ทางเพศออนไลน์ และเมื่อตกเป็นเหยื่อแล้ว พบว่า 56% ของเด็กเลือกที่จะไม่บอกใคร เนื่องจากความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและไม่เท่าเทียมทางรายได้จึงส่งผลให้เด็กและเยาวชนใช้เทคโนโลยีดิจิทัลผลิตและเผยแพร่ภาพหรือวิดีโอทางเพศด้วยตัวเอง เพื่อแลกเปลี่ยนเป็นเงินหรือสิ่งของต่างๆ
เนื้อหาที่น่าสนใจ :
เตือนภัย Sharenting ถ่ายรูปลูกลงโซเชียล ผิดยังไง อันตรายถึงขั้นโดนลักพาตัว
วางแผน เที่ยววันเด็ก 14-15 ม.ค. พาลูกไปไหนดี ? ตามสไตล์เด็กดิจิทัล
โดยได้ร่วมมือกับสำนักการศึกษากรุงเทพมหาครตั้งแต่ปี พ.ศ. 2565 จัดทำหลักสูตรและกิจกรรมส่งเสริมการตระหนักรู้ในเรื่องการแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศทางออนไลน์และออฟไลน์ที่มีมูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทยให้ความร่วมมือและริเริ่มในการหยุดยั้งภัยดังกล่าว รวมถึงการสร้างความตระหนักรู้ต่อสังคมและการมีส่วนร่วมของพลเมืองอินเทอร์เน็ตผ่านแคมเปญการสื่อสาร และจะขยายผลการอบรมให้ครอบคลุมนักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในชั้นประถมปีที่ 5-6 ทั่วประเทศ เริ่มตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป
“การเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับเด็กและเยาวชนเป็นเพียงจุดเริ่มต้นในการรับมือกับปัญหาล่วงละเมิดเด็กทางออนไลน์เท่านั้น เพราะการจบปัญหานี้ยังคงต้องการผนึกกำลังระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ที่ช่วยกันสร้างความตระหนักในสังคม และบังคับใช้กฎหมายได้อย่างเป็นระบบและตัดตอนได้อย่างทันท่วงที” นางอรอุมา กล่าว
โดยในปี 2562 พบ 117,213 รายงาน
ในปี 2563 พบ 396,049 รายงาน
ในปี 2564 พบ 586,582 รายงาน
ในปี 2565 พบ 523,169 รายงาน
ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็มีการจับกุมตัวผู้กระทำความผิดได้เพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน ขณะเดียวกัน พบว่า เว็บมืดซึ่งมีวัตถุประสงค์หลักในการหาแสวงผลประโยชน์ทางเพศจากเด็กในไทยยังมีการเติบโตสูงถึง 5 เท่า
“การสื่อสารออนไลน์เป็นช่องทางสำคัญที่ช่วยให้ผู้กระทำผิดเข้าถึงตัวเด็กได้ง่ายและรวดเร็ว ใช้ประโยชน์จากความเปราะบางของเด็กเพื่อหลอกลวง บีบบังคับ ชักชวน และแสวงหาประโยชน์จากพวกเขา กลไกการคุกคามของอาชญากรถือเป็นความผิดฐานค้ามนุษย์ ซึ่งเป็นอาชญากรรมที่ร้ายแรง ทำลายซึ่งสิทธิ เสรีภาพ ศักดิ์ศรี และความมั่นคงของมนุษย์” พ.ต.อ.รุ่งเลิศ กล่าว
ดังนั้น การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันดิจิทัลให้เด็กด้วยองค์ความรู้ รู้จักระแวดระวังและแนวทางการรับมือกับปัญหาล่วงละเมิดเด็กทางออนไลน์จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง ก่อนที่จะเกิดเหตุบานปลายขึ้น ซึ่งอาชญากรไซเบอร์นั้นจะเก็บภาพเหยื่อไว้บนออนไลน์ (Digital footprint) ซึ่งยากต่อการลบให้หมดไปอย่างสิ้นเชิง
จากการลงพื้นที่อบรมที่ผ่านมาพบว่า นักเรียนราว 3% เคยถูกร้องขอ ข่มขู่หรือกดดันให้ส่งรูปภาพหรือทำพฤติกรรมทางเพศทางออนไลน์ 13% เคยส่งรูปภาพ วิดีโอ หรือข้อมูลส่วนตัวให้คนแปลกหน้า และ 3% เคยได้รับภาพ ข้อความหรือวิดีโอทางเพศ โดยช่องทางที่มิจฉาชีพแฝงตัวเข้ามา ประกอบไปด้วย ช่องทางโซเชียลมีเดีย เกมส์ออนไลน์ รวมถึงแอปพลิชั่นใหม่ๆ ที่ผู้ใหญ่ยังไม่คุ้นเคย